เส้นทางทำบุญสัมผัสวิถีชีวิตชาวสองสมุทร เชื่อมใจไว้ด้วยสายน้ำ
เข้าปีใหม่ 2563 แล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก..นี่ก็จะล่วงเลยเดือนมกราฯ กันแล้ว หลายๆ คนก็ถือโอกาสใช้ช่วงต้นปี เป็นฤกษ์ดีด้วยการการทำบุญ ขอพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิต หรือจะออกไปเที่ยวพักผ่อนเติมพลัง เพราะนอกจากจะผ่อนคลายแล้วยังอิ่มบุญอีกด้วย
หากใครนึกไม่ออกว่าจะไปไหนดีที่ทั้งใกล้และได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ขอแนะนำเส้นทางสองสมุทร สมุทรสงครามและสมุทรสาคร เป็นเส้นทางที่เชื่อมไว้ด้วยแม่น้ำที่ถือว่าเป็นแหล่งการใช้ชีวิตของชาวไทยมาเนิ่นนาน
ในสังคมเมืองมีความวุ่นวายจนยากจะปลีกตัว แต่หากได้โอกาสพักผ่อนแล้ววิถีชีวิตแบบง่ายๆ กลายเป็นสิ่งที่เราโหยหามากเหลือเกิน จุดหมายปลายทางแรกที่จะตอบสนองความต้องการนี้ได้นั้น เริ่มกันที่ท่าฉลอม ที่นี่เป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของไทย ที่ท่าฉลอมสามารถเดินดูวิถีชีวิตชุมชน ชาวบ้านขายอาหารทะเลสด และผลิตภัณฑ์แปรรูปอยู่ตามบ้านเรือน หากแวะไปที่บ้านท่าฉลอมสักนิด อาจทำให้คุณได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของท่าฉลอมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีจุดสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปด้วย หากเดินถัดไปจากบ้านท่าฉลอมไม่ไกล มีรถไฟสถานีท่าฉลอม และมีสตรีทอาร์ต ให้ได้ถ่ายรูปเช็คอิน…ก็เก๋ไม่เบาเลยคุณ
Info
ท่าฉลอม
ที่ตั้ง ต. ท่าฉลอม อ. เมืองสมุทรสาคร จ. สมุทรสาคร
ไปเดินเล่นสัมผัสวัฒนธรรมมาแล้ว ได้รูปสวยๆ แล้วก็มาต่อกันที่สถานที่เสริมบุญต้อนรับปีใหม่กันที่วัดประดู่ พระอารามหลวง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เข้าไปกราบหลวงปู่แจ้ง ณ ศาลามหาปราบ จะเห็นอ่างน้ำมนต์ที่มีเรื่องเล่าว่า หลวงปู่แจ้ง หลวงปู่แจ่ม และหลวงตาคง ได้ใช้กระถางน้ำมนต์ใบนี้เพื่อรักษาชาวบ้านผู้เจ็บป่วยด้วยโรคภัย และในคราวที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นก็ทรงทอดพระเนตรหลวงปู่แจ้งรดน้ำพระพุทธมนต์รักษาโรคด้วย มีช่วงหยุดการใช้กระถางใบนี้ระยะหนึ่งเนื่องจากไม่มี พระหมอน้ำมนต์ จนกระทั่งพระมหาสุรศักดิ์ อติสกฺโข ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านได้รวบรวมน้ำพระพุทธมนต์จาก ๑๐๘ วัด มาบรรจุไว้ในกระถางใบนี้ ด้วยประสงค์จะให้บรรดาญาติโยมได้นำไปใช้ดื่มหรืออาบ เพื่อให้หายจากความเจ็บป่วยและเสริมความสิริมงคลในชีวิต
ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแต่น้ำมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น วัดประดู่ยังเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงถวายเครื่องราชศรัทธาแก่หลวงปู่แจ้ง อาทิเช่น เรือพร้อมเก๋งพระที่นั่ง 4 แจว, พระแท่นบรรทมและตาลปัตรพัดเป็นต้น นอกจากมากราบไหว้พระขอพร ยังได้เยี่ยมชมของเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน
ในทุกวันเสาร์และอาทิตย์เวลา 10.00 – 20.00 น. ที่นี่จะมีตลาดร่มบวร โดยพ่อค้าแม่ขายจะแต่งกายย้อนยุค หากคนไหนที่อยากสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคแนะนำให้มาอย่าพลาดทีเดียวเชียว
Info
วัดประดู่
ที่ตั้ง ต. วัดประดู่ อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม
โทร 034-772-299
หลังจากเดินทางมายาวนานทั้งวันแล้วก็ถึงเวลาพักผ่อน อ. อัมพวา จ.สมุทรสงคราม สถานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก ดังนั้นวันเสาร์–อาทิตย์จึงไม่แปลกที่อัมพวาจะเต็มไปด้วยความแน่นขนัดของผู้คน
แต่ครั้งนี้เราจะพาไปดูอีกมุมหนึ่งของอัมพวา หากลองไปนอนพักสักคืนที่บ้านพักริมน้ำ จะได้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ที่ ฐณิชาฌ์ รีสอร์ต อัมพวา บรรยากาศสบายๆ ริมน้ำ เต็มไปด้วยความสงบ ให้ความรู้สึกในการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากบรรยากาศดีแล้วยังมีกิจกรรมตักบาตรริมน้ำซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธมาเนิ่นนานอีกด้วย โดยชุดตักบาตรสามารถซื้อกับทางรีสอร์ตได้เลย เมื่อถึงเวลา ตี 5 โดยประมาณก็เริ่มเห็นพระภิกษุ พายเรือมาบิณฑบาตรแล้ว
Info
ฐณิชาฌ์ รีสอร์ท อัมพวา
ที่ตั้ง อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม
โทร. 062 324 2914
ไหว้พระที่ วัดจุฬามณี อำเภออัมพวา วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อมาเยือนวัดนี้แล้วต้องเข้าไปขอสักการะ สังขารไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาส
พระเครื่องและวัตถุมงคลของ หลวงพ่อเนื่อง ล้วนแล้วแต่พุทธคุณสูง ผู้พกพามีประสบการณ์ทั้งเมตตาค้าขาย แคล้วคลาดคงกระพัน มีเรื่องเล่าว่าท่านมีวิชาอาคม ใบมะนาวเสกเป็นของขึ้นชื่อของหลวงพ่อเนื่องท่านจะเมตตาให้กับลูกศิษย์ที่มากราบไหว้อธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา
นอกจากนี้วัดจุฬามณียังมี อุโบสถจตุรมุขหินอ่อนที่มีความสวยงาม และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติและนิทานชาดกที่สวยงาม หากเดินออกจากอุโบสถจะสังเกตเห็นองค์ท้าวเวสสุวรรณที่มีชื่อเสียงเรื่องของการขจัดภัยอันตรายจากภูตผีปีศาจ ส่วนใหญ่ผู้ใดที่ต้องไปนอนต่างถิ่นหรือกลัวผีมักพกท้าวเวสสุวรรณติดตัวไว้เสมอ นอกจากนี้ยังขอพรในด้านลาภยศ ความเจริญก้าวหน้า อำนาจวาสนาได้อีกด้วย ใครอยากโชคดีต้อนรับปีใหม่ก็อย่าลืมแวะมาสักการะบูชาที่วัดจุฬามณีกันนะ
วัดจุฬามณี
ที่ตั้ง ต. บางช้าง อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม
พระอุโบสถเปิด 08.30-17.00น.
โทร 0-3475-1363, 0-3475-2189
ที่นี่มีของขายมากมายทั้ง ผักผลไม้ อาหารทะเลสดและอาหารแปรรูป มีสินค้าขึ้นชื่ออย่างกะปิคลองโคน ขายตามริมทางรางรถไฟสถานีแม่กลอง เมื่อถึงเวลารถไฟมาพ่อค้าแม่ค้าจะหุบร่ม เลื่อนแผงขายให้พ้นไม่ให้รถไฟมาชน ส่วนคนที่เดินเรียงรายอยู่ในตลาดก็หามุมเพื่อเข้าไปหลบรถไฟกันอย่างชุลมุน
เวลาที่รถไฟมา จังหวะที่เฉียดผ่านตัวเราได้ยินนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งเสียงร้อง ว้าววว กันเกรียวกราว นี่คงเป็นคำตอบได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติชอบความตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แห่งนี้แค่ไหนกัน ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นนักท่องเที่ยวหลากสัญชาติมาเที่ยวที่ตลาดร่มหุบ
Info
ตลาดร่มหุบ
ที่ตั้ง อ.เมืองสมุทรสงคราม จ. สมุทรสงคราม
เปิด 02.00-18.00 น.
เลือกซื้อของจากตลาดร่มหุบจนอิ่มหนำใจแล้ว ก่อนจะเดินทางกลับบ้านก็ต้องมาไหว้หลวงพ่อบ้านแหลม ที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดร่มหุบ ณ วัดเพชรสมุทรวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองสมุทรสงคราม
ว่ากันว่า หากมาแม่กลองแล้วไม่ได้มานมัสการหลวงพ่อบ้านแหลมก็ถือว่ามาไม่ถึง ที่นี่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน เพราะเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปสำคัญคือ หลวงพ่อบ้านแหลม ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริง เชื่อว่าหากได้มาสักการะปิดทองหลวงพ่อบ้านแหลมแล้วจะเป็นสิริมงคล รวมทั้งสมความปรารถนาทุกประการ เป็นที่ที่ควรค่าแก่การมาขอพรให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ รวมถึงขอพรรับปีใหม่ เป็นที่พึ่งทางใจในช่วงเริ่มต้นปีเช่นนี้
Info
วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม)
ที่ตั้ง บ้านแหลม ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม
พระอุโบสถเปิด 06.00-17.00 น.
โทร. 0-3471-2112
อัลบั้มภาพ 21 ภาพ