เกาะช้าง 3 วัน 2 คืน ลุยเที่ยวจัดเต็ม ดำน้ำ เดินป่า ตามหาความงดงามสุดแผ่นดินตะวันออก

เกาะช้าง เกาะกลางทะเลที่ได้ชื่อว่ามีความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย เกาะช้างตั้งอยู่ในเขตจังหวัดตราด รอยต่อน่านน้ำไทย และประเทศกัมพูชา ที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความที่เกาะช้างนั้นเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ทั้งป่าไม้นานาพรรณ และท้องทะเลอันสวยงาม ในวันนี้ Sanook Travel เราจะพาทุกคนไปสำรวจความงดงามของเกาะช้างแบบจัดเต็มกับทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวครบจบในเกาะช้าง

เริ่มต้นการเดินทางสู่เกาะช้างนั้นสามารถขับรถข้ามฝั่งไปที่เกาะช้างได้เลยโดยนำรถมาขึ้นเรือที่บริเวณท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งแผ่นดินใหญ่สู่เกาะช้างประมาณ 30 นาทีเท่านั้น

พิกัด : https://goo.gl/maps/rAtuqTCicNujnJAF6

ค่าเรือ :  คนละ 160 บ. รถยนต์คันละ 240 บ. 

เมื่อมาถึงเกาะช้างแล้วเราเริ่มต้นการเดินทางที่แรกสู่ SUP Station ใกล้ๆ กับร้านอาหารไอยราซีฟู้ดหาดคลองพร้าว เพื่อทำกิจกรรม Paddling Board กิจกรรมใหม่ที่แสนจะสนุกสนานของเกาะช้าง ซึ่งทางทีมงานก็จะสอนให้เราเล่น Paddling Board ตั้งแต่พื้นฐานจนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก่อนที่จะพาเราลงสู่ผืนน้ำไปสนุกสนานกับการพาย  Paddling Board ไปตามลำคลอง ชมวิวธรรมชาติสวยๆ ของป่าโกงกางและเลี้ยวกลับไปสู่ปากอ่าวโต้คลื่นเล่นกันบริเวณชายหาดคลองพร้าว เป็นกิจกรรมที่เรียกเสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้กับกรุ๊ปของพวกเราเป็นอย่างมาก แนะนำเลยหากใครมาเที่ยวเกาะช้างลองแวะมาเล่นกันดูประทับใจแน่นอน

พิกัด : https://goo.gl/maps/mvp8FWEJuzKhrFbF7

ติดต่อ : 065 504 0070

เวลาทำการ : 9.00 - 17.00 น.

ต่อจากนั้นเราแวะไปพักเหนื่อยกันที่ ร้านกาแฟวารี ซึ่งตั้งอยู่ริมชายหาด เป็นทั้งมุมพักผ่อนและจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากๆ ตัวร้านตกแต่งเป็นเหมือนเรือนกระจกที่ดูโปร่งโล่งสบายตา ด้านหลังติดกับชายหาดที่ดูเงียบสงบ มีแสงอาทิตย์อ่อนๆ ในยามเย็นสาดส่องลงมา มีที่นั่งชิลๆ บนชายหาดไว้ให้บริการสำหรับลูกค้า เป็นสถานที่ที่น่ามานั่งทอดอารมณ์ชมวิวทะเลจริงๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกสั่งกันตามใจชอบ ทั้งชา กาแฟ และน้ำผลไม้ ได้เครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว ชมวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบอกเลยว่าฟิน!

พิกัด : https://goo.gl/maps/JSmqXPHiXBPBaMQN7

เวลาทำการ : 9.30 - 18.00 น. 

เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้าไปก็ได้เวลาเดินทางเข้าสู่ที่พัก ในทริปนี้เราเลือกพักกันที่ The Emerald Cove Koh Chang ที่พักสุดคลาสสิคที่ตกแต่งอย่างหรูหราริมชายหาด เป็นประสบการณ์การพักผ่อนที่แสนจะสบาย มีวิวสวยๆ ของท้องทะเลให้ชมตรงระเบียงหลังห้องด้วย ซึ่งเราก็จะใช้บริการของที่นี่ในการพักผ่อนตลอดทริปทั้ง 3 วันเลย

พิกัด : https://goo.gl/maps/unTqBKZX2FNfoiVs6

ติดต่อ : 039 552 000

เช้าวันต่อมาท้องฟ้าเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าได้เวลาที่เราจะต้องออกทะเลกันบ้างแล้ว โดยในวันนี้เราได้จองวันเดย์ทริปท่องเที่ยวหมู่เกาะรัง ในท้องทะเลเกาะช้าง โดยใช้เวลาเดินทางสู่จุดแรกประมาณ 45 นาที จุดหมายแรกของเราในวันนี้ก็คือหาดศาลเจ้า ชายหาดอันเงียบสงบที่มีเพียงน้ำทะเลสีฟ้าและชายหาดสีขาวรอต้อนรับเราอยู่ ที่นี่เป็นชายหาดเล็กๆ แต่มีน้ำทะเลสีสวยมากๆ มีสีฟ้าสดใสไม่แพ้ทะเลทางใต้เลย เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่ถ่ายภาพสวยมากๆ 

ต่อจากนั้นไปต่อกันที่เกาะยักษ์เล็ก ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำตื้นของหมู่เกาะรัง โลกใต้น้ำของทะเลตราดถือว่าสวยงามใช้ได้เลย แต่เสียดายที่ในช่วงที่เราไปนั้นมีคลื่นแรงและน้ำขุ่นไปนิดทำให้เห็นระบบนิเวศใต้ท้องทะเลได้ไม่ชัดเท่าที่ควร แต่เมื่อดูจากภาพรวมแล้วโลกใต้ท้องทะเลของเกาะยักษ์เล็กนี้ถือได้ว่าสมบูรณ์

หลังจากดำน้ำกันจนเหนื่อยแล้วก็ได้เวลาไปพักทานข้าวกันที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ในจุดนี้จะมีชายหาดและมุมถ่ายรูปสวยๆ อย่างชิงช้าริมทะเลให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปเล่นและพักผ่อนหย่อนใจกันอีกด้วย

เมื่อเติมพลังกันจนอิ่มแล้วก็ได้เวลาออกไปสำรวจทะเลตราดกันต่อ โดยจุดหมายต่อไปเราไปกันที่เกาะยักษ์ใหญ่ อีกหนึ่งจุดดำน้ำของหมู่เกาะรัง ในจุดนี้เราก็ได้เห็นความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลมากขึ้น เพราะน้ำเริ่มใสขึ้นและมีความหลากหลายของเหล่าปะการังใต้น้ำเยอะมากๆ ดำน้ำกันจนเพลินเลยทีเดียว

ปิดท้ายวันเดย์ทริปของวันนี้ทางบริษัททัวร์พาเราไปพักผ่อนกันต่อที่เกาะหวาย ซึ่งเป็นเกาะที่มีทั้งที่พักและร้านอาหารไว้ให้บริการเป็นของเอกชน แต่สามารถมานั่งเล่นพักผ่อนและเล่นน้ำกันตรงบริเวณชายหาดได้ น้ำใสและสวยงามเช่นกัน 

จบวันเดย์ทริป 1 วันในทะเลตราด ทุกคนไม่รอช้ารีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปผจญภัยกันต่อบนเกาะช้าง ที่นี่มีคาเฟ่ที่เราอยากจะแนะนำให้กับทุกคนได้ลองมากันดู นั่นก็คือ Fig Cafe คาเฟ่ที่มีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนมาก คือการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และใช้วัตถุดิบ Organic จากธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบในแต่ละเมนู ตัวร้านตกแต่งได้อย่างสวยงาม ดูร่มรื่นเย็นสบาย เหมือนมานั่งเล่นในสวนหลังบ้าน เมนูเครื่องดื่มก็เน้นเรื่องของความเฮลตี้เป็นหลัก เรียกได้ว่ามาที่ร้านนี้ได้ทั้งสุขภาพและรูปภาพสวยๆ ในคราเดียวกันเลย

พิกัด : https://g.page/figcafekohchang?share

ติดต่อ : 081 410 4747

เวลาทำการ : 7.30 - 16.00 น.

หลังจากดื่มด่ำกับรสชาติและบรรยากาศที่ Fig Cafe กันจนพอใจแล้วเราไปต่อกันที่จุดหมายสุดท้ายของวันนี้นั่นก็คือการขึ้นไปชมวิวพระอาทิตย์ตกบนจุดชมวิวหาดไก่แบ้ ซึ่งช่วงเวลาที่เราขึ้นไปถึงนั้นพระอาทิตย์ดวงโตกำลังจะคล้อยตกลงสู่ท้องทะเลพอดี เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดงส้มและไล่ระดับจนไปถึงสีแดงสดในที่สุด พระอาทิตย์ดวงโตสาดเงาลงมาบนผิวน้ำเผยให้เห็นภาพที่งดงามมากๆ เป็นหนึ่งในภาพความทรงจำบนเกาะช้างของเราเลยก็ว่าได้ หากใครอยากจะมาชมวิวสวยๆ แบบนี้แนะนำให้มากันในช่วงเย็น แสงอาทิตย์อ่อนๆ จะได้เห็นภาพที่สวยงาม และถ่ายรูปออกมาได้สวยสุดๆ อีกด้วย เป็นการปิดท้ายวันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

พิกัด : https://goo.gl/maps/WXdyzHhQDyPs6m6B6

วันต่อมาได้เวลาบอกลาเกาะช้าง เราเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมเพื่อเตรียมตัวกลับสู่แผ่นดินใหญ่ แต่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เราแพลนกันไว้ว่าจะต้องไปนั่นก็คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนบ้านสลักเพชร เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนที่สมบูรณ์มากๆ ของเกาะช้าง โดยจุดเด่นของเส้นทางเดินป่านี้คือสะพานไม้สีแดงที่ทอดยาวไปตามเส้นทางป่าชายเลน ให้นักท่องเที่ยวได้มาเดินศึกษาธรรมชาติกันได้แบบชิลๆ และร่มรื่น แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เช็กอินกันตลอดทางอีกต่างหาก เป็นหนึ่งในจุดเช็กอินของเกาะช้างที่ต้องห้ามพลาดเลยจริงๆ 

พิกัด : https://goo.gl/maps/3Jp61xnST3GuiGAH6

และทั้งหมดนี้ก็คือบันทึกภาพความทรงจำการเดินทางสู่เกาะช้าง สถานที่ที่ผู้คนมักจะมองข้ามไปเพียงเพราะว่าความแมส แต่จริงๆ แล้ว เกาะช้างนั้นยังมีอีกหลายสถานที่ที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสอยู่ ยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีการท่องเที่ยวชุมชนที่ยังไม่ถูกครอบงำด้วยนายทุน และที่สำคัญเกาะช้างยังมีรอยยิ้มที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ลองมาสัมผัสแล้วคุณจะหลงรักเกาะนี้