กอดธรรมชาติให้แน่น พาไปหลงรักเขาให้หายคิดถึง
ปล่อยตัว ปล่อยใจ คลายความวุ่นวาย แล้วผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ บอกเล่าสิ่งต่าง ๆ ให้ “ภูเขา” และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มาคอยดูแลคุณกับ 10 สถานที่น่าไปหาความสุข
หากเหนื่อยนัก ขอจงหยุดพักเสียก่อน … หากใครกำลังเหนื่อยล้า เหนื่อยใจ ปวดเมื่อยร่างกาย และต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อไปปล่อยตัว ปล่อยใจ ชุปชีวิตร่างกายที่สดใสให้ร่าเริงขึ้นมาอีกครั้ง ได้เวลาเก็บกระเป๋า แล้วหนีไปหา “เขา” ให้ภูเขามาคอยโอบกอดคุณไว้กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่จะทำให้คุณหลงรัก “เขา” ยิ่งกว่าเดิม
1.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติสวย ๆ ใคร ๆ ก็นึกถึงที่ “อำเภอเขาค้อ” จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอันดับแรก ๆ เพราะเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ และมากมายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลายรูปแบบ
2.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
สัมผัสธรรมชาติแบบจัดเต็มกับอุทยานแห่งชาติชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา และขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีโอโซนที่ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย เที่ยวผ่อนคลายไปกับธรรมชาติสีเขียว ชมวิวทิวทัศน์กับภูเขาใหญ่เล็กที่เรียงรายสลับไปมา ปล่อยตัว ปล่อยใจ ไปธรรมชาติและความเงียบสงบ สนุกสนานไปกับการส่องสัตว์ เล่นน้ำตก และสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมายรอบ ๆ
3.ภูลังกา จังหวัดพะเยา
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้กันที่ “วนอุทยานภูลังกา” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอำเภอเชียงคำ และอำเภอปง จังหวัดพะเยา ชมความสวยงามของทิวเขาที่เรียงรายสลับไปมา รายล้อมไปด้วยสายหมอกยามเช้า พร้อมชมไฮไลท์ “ภูเทวดา” ยอดดอยที่สูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ ไทย-ลาว
4.ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
หากคุณอยากเห็นดาวแบบใกล้ชิด ต้องมาดู “ดอยเสมอดาว” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน กลางวันดูเขาแบบใกล้ชิด กลางคืนนอนชมดวงดาวที่เปล่งแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายและเงียบสงบ และตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกที่สวยงาม
5.ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
หากพูดถึง “เขา” แล้วไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่อ “ภูทับเบิก” ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ยังคงครองใจคนทุกวัย ที่ชื่นชอบธรรมชาติและอากาศหนาวเหน็บ ผ่อนคลายไปกับการกางเต็นท์ นั่งกินหมูกะทะปะทะลมหนาว ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกแบบจัดเต็ม เพราะแบบนี้ใครที่อยากไปหาเขา ต้องมาที่นี่
6.เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา
อยากเก็บเธอไว้ทั้ง “ทะเล และ ภูเขา” แล้วเก็บกระเป๋าไปหาทั้งสองที่ “เสม็ดนางชี” จังหวัดพังงา จังหวัดท่องเที่ยวภาคใต้ของประเทศไทย เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติของภูเขาที่สวยงาม และหมู่เกาะที่เรียงรายอยู่คู่กับทะเล จนทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต้องมาชมความสวยงามทั้งยามเช้าและยามเย็น
7.เขาพะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี
ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามใกล้กรุงเทพ เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะกับการมาพักผ่อน ปล่อยตัว ปล่อยใจ ผ่อนคลายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ยืนมองวิวทิวทัศน์ของทิวเขาที่เรียงราย และบรรยากาศรอบ ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
8.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
อีกหนึ่งอำเภอท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติ และอากาศที่สุดแสนบริสุทธิ์ แหล่งโอโซนชั้นนำของประเทศไทย “อำเภอวังน้ำเขียว” สถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่พักผ่อนชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา ที่จะทำให้คุณได้สัมผัส และใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง มีบรรยากาศที่เงียบสงบ พร้อมมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ให้ได้มาเที่ยวเล่นกันเพลิน ๆ อีกด้วย
9.ลานหินปุ่ม จังหวัดพิษณุโลก
ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปพร้อมกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ควาเป็นมาไปพร้อม ๆ กับการชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบพาโนราม่า ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ลมเย็น ๆ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ที่สวยงามกันอีกด้วย
10.ผาหินกูบ จังหวัดจันทบุรี
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนแห่งดินแดนภาคตะวันออกของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี มีจุดชมวิวที่สวยงามไม่เหมือนใคร ให้ได้มายืนชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติผืนป่าสีเขียวขจี เขาน้อย เขาใหญ่ ที่เรียงราย รวมไปถึงทั้งลำธาร ถ้ำ ป่าไผ่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบน่าปล่อยตัว