ช้างป่าและกระทิง อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเริงร่าหากิน ในวันที่ธรรมชาติสงบ

อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่มีมาตรการปิดการท่องเที่ยวเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ปรากฏว่าส่งผลดีต่อสัตว์ป่าภายในอุทยานฯเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  ได้พาลงพื้นที่บริเวณจุดชมสัตว์ป่าพบว่ามีโขลงช้างป่าขนาดใหญ่ ออกหากินแบบครอบครัว มีลูกช้างขนาดเล็กออกจากป่าลึกเข้าไปหากินอยู่ในแปลงหญ้าที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆกว่า 2,000 ไร่ ที่กำลังแตกยอดใหม่หลังเพิ่งฟื้นตัวจากฝนที่ตกลงมาจากพายุฤดูร้อน รวมทั้งลงเล่นน้ำในบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่วันนี้มีน้ำเติมเต็มบ่อ แถมบรรยากาศยังเงียบสงบปราศจากนักท่องเที่ยว  ทำให้ช้างป่าต่างเล่นน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะพากันหากินอาหารตามแปลงหญ้าต่อไป   

นอกจากนี้ฝูงกระทิงที่มีอยู่ในพื้นที่กว่า 300 ตัว ปรากฏว่าในช่วงนี้ซึ่งปราศจากนักท่องเที่ยว ฝูงกระทิงออกมาอวดโฉมตามแปลงหญ้าจำนวนมาก แบ่งฝูงหากิน ฝูงละ 20-50 ตัว ฝูงใหญ่มากกว่า 80 ตัวขึ้นไป  รวมทั้งกระทิงโทน ตัวขนาดใหญ่ที่หากินเพียงลำพังตัวเดียว ก็ออกมาให้เห็นตัวง่ายๆ แต่หากได้ยินเสียงผิดปกติก็จะกระโจนวิ่งกลับเข้าป่าไปในทันที  แต่เมื่อเงียบเสียงฝูงกระทิงเหล่านี้ก็จะกลับออกมาหากินอีกครั้งจนถึงเช้า

นายรักพงษ์  บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  เปิดเผยว่า  ตั้งแต่ปิดอุทยานฯชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ปรากฏว่าทั้งโขลงช้าง ฝูงกระทิง พากันออกมาหากินหญ้าในช่วงนี้เป็นจำนวนมาก และหากินกันอย่างมีความสุข เพราะปราศจากการรบกวนของนักท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ยังต้องแบ่งกันชุดออกดูแลความปลอดภัยของสัตว์ป่า รวมทั้งติดตามบันทึกภาพของสัตว์ป่าตามจุดชมช้างและกระทิงตามจุดต่างๆเพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นฐานข้อมูล ทั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีการประกาศปิดอุทยานแห่งชาติมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา รวมระยะเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี  กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เจอวิกฤตแปลงหญ้ากว่า 2,000 ไร่ ซึ่งเป็นพืชอาหารช้างและสัตว์ป่า ที่ปลูกเอาไว้เจอปัญหาภัยแล้งอย่างหนักจนหญ้าแห้งกรอบ ไม่มีหญ้าอ่อนให้สัตว์ป่าได้กิน และน้ำในลำธารแห้งขอดส่งผลกระทบช้างป่าและกระทิง กว่า 600 ตัว  ต้องถอยร่นหายเข้าป่าลึกไป  กระทั่งตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีพายุฤดูร้อนเกิดฝนตกลงมาในพื้นที่นานนับสัปดาห์ ส่งผลให้ผืนป่ากุยบุรี กลับฟื้นความอุดมสมบูรณ์ และเขียวขจีอีกครั้ง แปลงหญ้าแต่ยอดอ่อน ต้นไม้แตกใบใหม่ ให้สัตว์ป่าได้กินเป็นอาหาร ทำให้ทุกวันพบปริมาณสัตว์ป่าทั้งช้างและกระทิง  กลับมาหาหินตามแปลงหญ้าและจุดชมสัตว์ป่าต่างๆเป็นจำนวนมากกว่าช่วงเวลาปกติที่เปิดการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่าเสียอีก ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากปราศจากการรบกวนในช่วงนี้ ซึ่งข้อมูลการสำรวจที่มีการจัดเก็บในทุกวันจะนำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า เมื่อมีการประกาศเปิดอุทยานในลำดับต่อไป