ภูหินร่องกล้า เส้นทางเดินป่าที่สายหมอกและสายฝนมาบรรจบกันอย่างน่าอัศจรรย์

หลังจากห่างหายจากการท่องเที่ยวกันไปเป็นเวลานาน ในวันนี้คนไทยทุกคนคงจะได้เริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กันบ้างแล้ว ซึ่งทำให้บรรยากาศแห่งการท่องเที่ยวภายในประเทศกลับมาคึกคักมีสีสันอีกครั้ง บางคนเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจในโรงแรมที่พักดีๆ บ้างก็ไปชายหาดเที่ยวทะเลให้หายคิดถึง แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังโหยหาความเขียวขจีของป่าไม้ในหน้าฝน Sanook Travel จะพาคุณไปเที่ยวกันที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เส้นทางเดินป่าหน้าฝนที่เต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจของธรรมชาติ

ภูหินร่องกล้าเป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในผืนป่ารอยต่อของ 3 จังหวัดคือ เลย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมากๆ และค่อนข้างจะมีความหลากหลายทางด้านระบบนิเวศ มีทั้งภูเขา น้ำตก ดอกไม้และพืชพรรณไม้ต่างๆ นานาที่หาชมยากพบเจอได้ที่นี่ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ เป็นที่ตั้งของฐานที่มั่นกองกำลังคอมมิวนิสต์ในไทย และเป็นสมรภูมิในการสู้รบระหว่างฝ่ายคอมมิวนิสต์และฝ่ายรัฐบาลในอดีตที่ผ่านมาด้วย

ด้วยเนื้อที่อันกว้างใหญ่และความสมบูรณ์ของธรรมชาติทำให้ที่นี่อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศอยากที่จะเดินทางมาเยี่ยมชม อาทิเช่น ดอกนางพญาเสือโคร่งภูลมโล น้ำตกหมันแดง น้ำตกร่มเกล้า เส้นทางเดินป่าภูหินร่องกล้า ลานหินปุ่ม ลานหินแตก โรงเรียนการเมืองการทหาร เป็นต้น 

ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจเส้นทางเดินป่าที่ได้รับความนิยมที่สุดของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือเส้นทางเดินป่าลานหินปุ่มนั่นเอง ลองไปดูกันว่าในเส้นทางนี้มีอะไรที่น่าสนใจให้เราได้ชมกันบ้าง

เส้นทางเดินป่าลานหินปุ่มนี้เป็นเส้นทางระยะสั้นที่มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินทางที่วนเป็นวงกลมกลับมาสู่จุดเริ่มต้น ลักษณะภูมิประเทศของเส้นทางเดินนั้นส่วนมากจะเป็นพื้นราบที่มีร่องรอยของเส้นทางอย่างชัดเจน เดินได้ง่ายไม่หลงอย่างแน่นอน

ระหว่างทางนั้นคุณจะได้พบกับการต้อนรับจากผืนป่า ด้วยสายหมอกที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเหนือยอดไม้ เป็นภาพที่งดงามชวนฝัน ประกอบกับความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้าในบริเวณนี้ทำให้หลายๆ คนอดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพความทรงจำเบื้องหน้านี้เอาไว้กันอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งด้วยความที่พื้นที่ป่าบริเวณนี้มีความแปรปรวนของสภาพอากาศเป็นอย่างมาก สายหมอกที่เราได้เห็นไม่นานนักก็แปรเปลี่ยนเป็นสายฝนที่ปรอยลงมาพอให้หายร้อน แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของเราแต่อย่างใด กลับกลายเป็นความประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยเสียมากกว่า 

เมื่อเดินต่อมาเรื่อยๆ เราจะได้พบกับหินพญานาคราช กองหินขนาดใหญ่ที่ยกตัวขึ้นเหนือผืนดิน มีส่วนหัวที่มองดูคล้ายกับหัวงู เราจึงเดาเอาว่าน่าจะเป็นที่มาของชื่อหินกองนี้ มองๆ ดูไปก็สวยงามและแปลกตาดีเหมือนกัน 

หลังจากผ่านจุดหินพญานาคราชมาแล้ว จะเริ่มเข้าสู่เส้นทางที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าทึบ ซึ่งมีอากาศเย็นสบาย และที่สำคัญ เป็นจุดที่เราจะได้พบเจอกับดอกไม้ป่านานาชนิด ในโซนนี้อีกด้วย โดยในช่วงหน้าฝนแบบนี้ดอกไม้ที่ออกดอกเบ่งบานให้เราได้ชื่นชมก็มีมากมายหลายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นดอกลิ้นมังกร ดอกเปราะภูสีขาว ดอกตาเหินไหว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความงดงามของใบไม้เมืองหนาวที่กำลังชุ่มฉ่ำในหน้าฝนให้เราได้ชมกันตลอดทาง เป็นเส้นทางเดินที่เพลินตา พาให้เพลินใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

หลังจากผ่านพ้นโซนของป่าทึบไปเราก็จะมาถึงไฮไลท์จุดแรกของวันนี้นั่นก็คือลานหินปุ่ม ลักษณะภูมิประเทศที่มีความแปลกตา เป็นลานหินที่ดูเป็นปุ่มๆ ไม่เสมอกัน ซึ่งในจุดนี้เป็นจุดชมวิวอีกหนึ่งจุดของภูหินร่องกล้าที่มีความสวยงามในยามที่ฟ้าเปิด แต่น่าเสียดายในวันที่เราไปนั้นฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยไอหมอกหนา และเปิดออกมาให้เห็นภาพความงดงามแค่เพียงไม่นานเท่านั้น เราจึงได้ภาพวิวสวยๆ บริเวณลานหินปุ่มมาไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ภาพความสวยงามที่ได้เห็นตอนที่ฟ้าเปิดมานั้นยังคงติดตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้

ไปกันต่อที่บริเวณผาชูธง อีกหนึ่งไฮไลท์ของเส้นทางเดินป่านี้ บริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ในอดีต สมัยที่ยังมีการสู้รบกันอยู่ เป็นจุดที่พรรคคอมมิวนิสต์ใช้ปักธงสีแดงรูปค้อนเคียวเพื่อแสดงชัยชนะต่อรัฐบาลไทย เวลาผ่านไปบริเวณผาชูธงแห่งนี้ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดชมวิวที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จากจุดนี้คุณสามารถชมทัศนียภาพของทะเลภูเขาอันเขียวขจีได้แบบ พาโนรามา พร้อมกับธงชาติไทยที่โบกไสวอยู่บนยอดผา เป็นภาพที่งดงามตามากจริงๆ

ผ่านจากผาชูธงเราจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเส้นทางเดินป่า ซึ่งมีอีกหนึ่งไฮไลท์รอคอยเราทุกคนอยู่ นั่นก็คือใบบีโกเนียสีส้ม ที่ขึ้นอยู่ในบริเวณสำนักอำนาจรัฐนั่นเอง โดยความพิเศษของใบบีโกเนียนี้ก็คือเราจะต้องแหงนหน้ามองไปจากด้านล่างถึงจะเห็นลวดลายความสวยงามของใบนี้ ซึ่งมองดูคล้ายเส้นเลือดฝอยของมนุษย์เลยก็ว่าได้ เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างสรรค์มาได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ 

ซึ่งหากเดินต่อไปจากทางจุดชมใบบีโกเนียก็จะได้พบกับสำนักอำนาจรัฐ ที่เป็นศูนย์บัญชาการของพรรคคอมมิวนิสต์สมัยก่อน โดยยังคงหลงเหลือร่องรอยสิ่งก่อสร้างกลางป่าเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้อยู่ด้วย สามรถแวะไปเยี่ยมชมกันได้

 และทั้งหมดนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดเส้นทางเดินป่าลานหินปุ่ม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ช่วงเวลากว่า 2 ชั่วโมงที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดินป่าที่เดินง่ายๆ สบายๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้ใบหญ้าน้อยใหญ่ที่กำลังเบ่งบานออกดอกสวยงามในช่วงนี้เป็นอะไรที่น่าหลงใหลจริงๆ ไหนจะทะเลหมอกหนาและสายฝนที่ปรอยลงมาระหว่างทางให้เราได้พบเจออีก และไหนจะวิวสวยๆ ที่เราได้พบเจอตลอดการเดินทางอันน่าประทับใจ ถือได้ว่าเป็นเส้นทางเดินป่าที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ เป็นการพาตัวเองออกมาสู่อ้อมกอดของธรรมชาติที่คุ้มค่าจริงๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

พิกัดอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า :  https://goo.gl/maps/SS2sbT3gin4QMzYQ7

ติดต่ออุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า : 081 596 5977