5 พิกัดยอดฮิต ที่เที่ยวหลวงพระบาง ไปแล้วต้องไม่พลาด!
พี่เห็ดชวนเที่ยวมาแล้วจ้า… วันนี้จะชวนไปเที่ยวชิลๆ กับเมืองมรดกโลกในประเทศเพื่อนบ้านของเรากันที่ หลวงพระบาง เมืองทางภาคเหนือของประเทศลาว สวยงามบรรยากาศดี เหมาะสำหรับใครที่อยากพักกายพักใจ ออกไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กันสักพัก ให้ธรรมชาติสวยๆ ของเมืองนี้ชาร์จแบตให้กับเรา ครั้งนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี 5 พิกัด ที่เที่ยวหลวงพระบาง ที่ไปแล้วต้องไม่พลาด มาแนะนำ ไปทำความรู้จักกับเมืองหลวงพระบางกัน!
หลวงพระบาง (Luang Prabang) ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศลาว ถือเป็นเมืองเอกของแขวงหลวงพระบาง เพราะตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคานที่ไหลมาบรรจบกันบริเวณนั้นเรียกว่า ปากคาน อีกทั้งยังตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม แม้ว่าจะไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศลาว แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ชาวหลวงพระบางเองก็มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร รวมถึงยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม
ในเมืองหลวงพระบางมีวัดเก่าแก่มากมาย รวมถึงบ้านเรือนแบบเก่าอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้หลวงพระบางเป็น เมืองมรดกโลก ด้วยมนต์เสน่ห์เหล่านี้ทำให้นักท่องเที่ยวมากมายที่มาเยือนต่างก็ตกหลุมรัก ใครวางแผนอยากจะไป เที่ยวลาว ที่เมืองนี้ พี่เห็ดขอแนะนำ 5 ที่เที่ยวหลวงพระบาง ที่ไม่ควรพลาด มีที่ไหนบ้างไปดูกันจ้า
1.พระราชวังหลวงพระบาง พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (Royal Palace Museum, Luang Prabang)
เริ่มต้น ที่เที่ยวหลวงพระบาง กับสถานที่ที่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนั่นก็คือ พระราชวังหลวงพระบาง ที่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ เดิมทีที่นี่เป็นพระราชวังของเจ้ามหาชีวิตสายหลวงพระบาง จึงมีอีกชื่อเรียกว่า วังเจ้ามหาชีวิต สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2447 สมัยเจ้ามหาชีวิตสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมงดงาม เป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูง ศิลปกรรมแบบยุโรปผสมล้านช้าง โดยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลลาวได้เปลี่ยนที่นี่เป็น “หอพิพิธภัณฑ์หลวง” โดยใช้เป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุและของมีค่า เช่น บัลลังก์ ธรรมาสน์ พระพุทธรูป เครื่องสูงและราชูปโภคของเจ้าชีวิต รวมถึงของขวัญจากประเทศต่างๆ จุดท่องเที่ยวสำคัญในพระบรมมหาราชวังก็คือ โรงละครพระลักษณ์-พระราม, หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง และหอพระบาง
ใครต้องการเข้าชมภายในพระราชวังต้องแต่งการให้สุภาพเรียบร้อย ห้ามถ่ายรูปภายใน และต้องฝากกระเป๋าไว้ในล็อคเกอร์ด้วยนะคะ
เวลาเปิด – ปิด :
– ช่วงเช้า 08.00 – 11.30 น. ปิดขายบัตรภาคเช้า 11.00 น.
– ช่วงบ่าย 13.30 – 16.00 น. ปิดขายบัตรภาคบ่าย 15.30 น. (วันพฤหัสบดี 13.30 – 15.30 น.)
ค่าเข้าชม : 30,000 กีบ/คน
2.วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple)
อีกหนึ่ง ที่เที่ยวหลวงพระบาง ที่เราจะได้ชมศิลปะและสถาปัตยกรรมอันงดงามก็คือที่ วัดเชียงทอง เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศ์หลวงพระบาง และราชวงศ์ลาว สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2103 โดยสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ปกครองราชอาณาจักรล้านช้าง ตัววัดตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง สิ่งก่อสร้างภายในวัดมีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนือที่งดงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “อัญมณีของศิลปะล้านช้าง” อีกทั้งยังเป็นวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบางในปี พ.ศ.2428 ทำให้สิ่งก่อสร้างสำคัญของวัดเชียงทองยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่เสียหาย นับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุด
สิ่งก่อสร้างสำคัญภายในวัดแห่งนี้ ได้แก่ พระอุโบสถ หรือ ที่ชาวลาวเรียกว่า “สิม”, วิหารน้อย (หรือหอไหว้น้อย), หอไหว้สีกุหลาบ (สีชมพู), วิหารหลังใหญ่, หอกลอง และ หอราชโกศเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ (โรงเมี้ยนโกศ)
เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 – 17.30 น.
ค่าเข้าชม : 20,000 กีบ/คน
3.วัดพระธาตุพูสี (Wat Phou Si)
เที่ยวลาว เมืองหลวงพระบาง กันต่อที่ วัดพระธาตุพูสี วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ประมาณปี พ.ศ.2337 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบางบนยอดเขาที่มีความสูงราว 150 เมตร ซึ่งคำว่า พูสี มีความหมายว่า ภูเขาของพระฤาษี เดิมชื่อว่า ภูสรวง แต่เมื่อมีฤาษีไปอาศัยอยู่ชาวบ้านจึงเรียกว่ากันพูฤาษี หรือพูสี มาจนถึงปัจจุบัน ตัวพระธาตุพูสีมีลักษณะเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมสีทอง ในสมัยก่อนมีประเพณีสำคัญก็คือ การย่ำกลองบอกโมงยาม โดยจะตีกลองทุก 1 ชั่วโมงจากหอกลองบนยอดพูสี เพื่อบอกเวลาให้กับชาวเมืองหลวงพระบาง หรือตีเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ศัตรูบุกรุก เพื่อเตือนประชาชน แต่ประเพณีนี้ก็ได้ถูกยกเลิกไปนานแล้ว
การขึ้นไปชมพระธาตุพูสีบนเขาจะต้องเดินขึ้นบันได 328 ขั้น โดยขึ้นได้ 2 ทาง คือทางด้านหน้าพระตำหนักเก่า และทางขึ้นฝั่งแม่น้ำคาน ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึงด้านบนนอกจากจะได้ชมความสวยงามของพระธาตุแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวบ้านเมืองได้แบบ 360 องศา ถ้าใครมาช่วงเย็นๆ ก็จะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกอีกด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 06.30 – 18.30 น.
ค่าเข้าชม : 20,000 กีบ/คน
4.น้ำตกตาดกวางสี (Kuang Si Falls)
ไปสัมผัสธรรมชาติของเมืองหลวงพระบางกันที่ น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในหลวงพระบาง ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวแถบยุโรปนิยมมาผจญภัย มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆ น้ำตก สามารถลัดเลาะขึ้นไปชมน้ำตกชั้นบน หรือใครจะลงเล่นน้ำก็ได้
น้ำตกตาดกวางสี มีทั้งหมด 4 ชั้น มีความสูงโดยรวมประมาณ 75 เมตร เป็นน้ำตกหินปูน น้ำในน้ำตกจึงมีสีเขียวมรกตดูสวยงาม ภายในมีการจัดการท่องเที่ยวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ เช่น พื้นที่รับประทานอาหาร (ไม่อนุญาตให้มีการปรุงอาหาร), พื้นที่สำหรับเล่นน้ำ และมีการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้บริเวณทางเข้าจะมีศูนย์อนุรักษ์หมี ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมหมีที่ช่วยเหลือมาจากการค้าสัตว์ป่าในสถานที่ต่างๆ ในประเทศลาวอีกด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 17.30 น.
ค่าเข้าชม : 20,000 กีบ/คน
5.ตลาดมืด ณ หลวงพระบาง (Luang Prabang Night Market)
ปิดท้ายไปเดินตลาดตอนกลางคืนหาของฝากกันที่ ตลาดมืด หรือถนนข้าวเหนียว ตั้งอยู่ที่ถนนศรีสว่างวงศ์ ตรงสี่แยกที่ทำการไปรษณีย์แขวงหลวงพระบางไปจนสุดพิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง (พระราชวังหลวงพระบาง) ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นตลาดขายของพื้นเมืองที่ชาวบ้านหลวงพระบางและชนกลุ่มน้อยชาวม้งจะนำสินค้างานฝีมือมาวางขาย มีของฝากหลากหลายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเงิน ผ้าลายพื้นเมือง ในช่วงกลางคืนจะคึกคัก มีนักท่องเที่ยวมาเดินซื้อของฝากกันมากมาย
นอกจากนี้ในช่วงเช้ามืดบริเวณตลาดจะมีการตักบาตรข้าวเหนียว เป็นประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ใครมา เที่ยวลาว และอยากร่วมตักบาตรตามประเพณีของที่นี่ก็สามารถมาได้ในตอนเช้ามืดนะคะ
เวลาเปิด – ปิด : 17.00 น. – 23.00 น.
และนี่ก็คือพิกัด ที่เที่ยวหลวงพระบาง ที่พี่เห็ดคัดมาแนะนำ สำหรับใครที่วางแผนอยากไปเที่ยวในเมืองเล็กๆ สัมผัสบรรยากาศชิลๆ แบบสโลว์ไลฟ์ก็แนะนำ เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก นอกจากสถานที่เหล่านี้แล้วในหลวงพระบางก็ยังมีจุดน่าสนใจอีกมากมาย ลองไปเยือนกันให้ได้สักครั้งนะคะ
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ