เที่ยววันแม่ 2563 พาแม่เที่ยว 5 โลเคชันสุดปังทั่วเมืองไทย

วันหยุดวันแม่ 12 สิงหาคม ปี 2563 นี้เชื่อว่าหลายๆ บ้านคงจะผ่านพ้นกับความเครียดกันมาบ้างแล้วจากสถานการณ์ COVID-19 เพราะฉะนั้นต้องไม่พลาดเก็บกระเป๋า จองตั๋วให้พร้อม แล้วเตรียมพร้อมพาแม่เที่ยวให้หายเหนื่อยหายเครียด กับ 5 โลเคชันสุดปัง เอาใจคุณแม่ช่วงวันหยุด 12 สิงหาคม ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1.เชียงใหม่ 

โอบกอดคุณแม่ แลนด์ดิ้งสู่ “นครเชียงใหม่” สัมผัสความร่วมสมัยของวัฒนธรรม หนึ่งในจังหวัดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมแห่งล้านนา เพราะท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ยังมีกลิ่นอายความเป็นล้านนา ที่รอคุณไปพบและสัมผัสอีกจำนวนมาก ซึ่งโลเคชันหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด เก็บภาพบรรยากาศ และซึมซับประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ คือ “อนุสาวรีย์สามกษัตริย์” องค์อนุสาวรีย์ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่หวนให้รำลึกถึงต้นกำเนิดแห่งความรุ่งเรืองของเมืองเชียงใหม่ ด้วยบรรยากาศโดยรอบที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม ช่วยให้เก็บภาพมุมต่าง ๆ เป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว หรือจะนั่งสองแถวแดงไปเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืน หรือเส้นแสงจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านบริเวณศูนย์การค้าใจกลางเมืองเชียงใหม่ก็ได้เช่นกัน

2.น่าน

ชวนคุณแม่ นุ่งผ้าซิ่นแล้วใช้ชีวิตต๊ะต่อนยอนที่ “จังหวัดน่าน” จังหวัดหนึ่งที่มีความโดดเด่นในเรื่องธรรมชาติของขุนเขา ที่ใครเห็นเป็นต้องจอดรถลงไปสแนปภาพสักช็อต รวมถึงวิถี Slow Life ต๊ะต่อนยอน และกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่แฝงอยู่ในตัวเมืองน่านได้อย่างกลมกลืน อย่าง วัดภูมินทร์ ที่ด้านในมีจิตรกรรมฝาผนัง “กระซิบรักบันลือโลก - ปู่ม่านย่าม่าน” และเมื่อออกมาชมบรรยากาศภายนอกวัดแล้ว ยังสามารถควงแขนคุณแม่แต่งผ้าซิ่นถ่ายรูปได้ทั่วตัวเมืองน่าน ทั้ง ถนนหมายเลข 101 ถนนสุริยพงษ์ ถนนสุมนเทวราช ถนนเปรมประชาราษฎร์ และถนนหน้าสนามบินน่านนคร

3.ลำพูน

ใช้ชีวิตเรียบง่ายที่ “ลำพูน” พร้อมแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลื่องชื่อ แม้ “ลำพูน” จะเป็นจังหวัดน้องเล็กที่สุดในภาคเหนือ แต่ด้วยความสวยงามของปูชนียสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีอาณาเขตใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะบริเวณถนนรอบเมือง จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาสัมผัสความงดงาม เดินเก็บภาพบรรยากาศได้อย่างต่อเนื่อง ปลอดภัย และสบายใจ ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงสักการะบูชา ขอพร เพื่อเป็นมงคลชีวิตจำนวนมาก อาทิ วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร วิหารพระเจ้าทันใจ และอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

4.ขอนแก่น

ใช้ชีวิตแบบคน Local สัมผัสไลฟ์สไตล์ผู้คนย่าน “ถนนรื่นรมย์” แหล่งการค้าการขาย จ.ขอนแก่น “ถนนรื่นรมย์” นอกจากจะเป็นถนนเส้นหลักที่หล่อเลี้ยงชาวขอนแก่นมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พร้อมพาคุณไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบคน Local ด้วยร้านรวงตลอดเส้นถนนดังกล่าว มีทั้งตลาดโต้รุ่ง ร้านอาหารคาวหวาน โรงพิมพ์ ร้านเสริมสวย และอื่น ๆ จำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถเดินถ่ายภาพสวย ๆ เก็บไว้ได้เพียบ ! ด้วยทัศนียภาพที่สวยงามจากการปรับปรุงสายไฟลงดินเป็นที่เรียบร้อยของ PEA นอกจากนี้ เมื่อเดินไปจนสุดถนนจะได้เจอกับ “สถานีรถไฟขอนแก่น” สถานีรถไฟลอยฟ้าโฉมใหม่ ที่ช่วยให้การเดินทางของคนขอนแก่นและนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วอีกด้วย 

5.ตรัง 

ตรึงใจไปกับ “ตรัง” เสน่ห์สถาปัตยกรรมและสตรีทอาร์ทคืนชีพ เมื่อพูดถึง “ตรัง” จังหวัดที่มีอาณาเขตใกล้ชิดติดทะเลใต้ มีหาดทรายขาว มีที่พักติดทะเลที่รอให้คุณได้ไปสัมผัสกันเพียบแล้ว โซนเมืองตรังก็ยังมีโลเคชันเด็ดไม่แพ้กัน ที่พร้อมต้อนรับ และเชื้อเชิญคุณไปเดินเที่ยวถ่ายภาพมุมต่าง ๆ ทั้ง ‘วงเวียนหอนาฬิกาจังหวัดตรัง’ แลนด์มาร์คจังหวัดที่ยืนตระหง่าน และส่องแสงสว่างยามค่ำคืน บนถนนพระรามที่ 6 ‘บ้านไทรงาม’ บ้านสามชั้นตระกูลไทรงาม บ่านทับเที่ยง ที่ได้รับการตกแต่งในสไตล์ Neo-Classic ‘โบสถ์ตรัง’ โบสถ์คริสต์เก่าแก่ที่ยังคงความงดงาม อายุกว่า 100 ปี ที่ให้ความรู้สึกสุขสงบเมื่อเข้าชมด้านใน ‘Street Art บริเวณตลาดเทศบาล’ ที่สร้างสีสันให้ตรังชิคกว่าที่เคย นอกจากนี้ ยังมีร้านติ่มซ่ำเก่าแก่ที่คนท้องถิ่นการันตีว่าห้ามพลาด! อย่าง “โกเภาหมูย่าง” ด้วยเครื่องเทศหมูย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่ตรัง จึงทำให้หมูย่างที่นี่มีรสชาติหวานเค็มและหนังกรอบ

ซึ่งทั้ง 5 จังหวัดที่เราได้แนะนำมานี้มีความพิเศษตรงที่ ได้เข้าร่วมโปรเจค “เคเบิลใต้ดิน” จากทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ด้วยการปรับปรุงระบบไฟฟ้าลงใต้ดินโดยรอบแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความปลอดภัย สบายใจแก่ผู้คนในพื้นที่ นักท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนลดปัญหาระบบไฟฟ้าขัดข้อง เมื่อรู้แบบนี้แล้ว การเดินเที่ยวเก็บภาพมุมต่าง ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยว วิวสวย ๆ แบบไร้สายไฟรกตา ก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว วันแม่ปีนี้อย่าลืมพาคุณแม่ไปเที่ยวแล้วเก็บภาพสวยๆ มาเป็นความทรงจำกันด้วยนะครับ