3 วัน 2 คืน เที่ยวเมืองเลย ธรรมชาติ ขุนเขา ป่าไม้ และวัฒนธรรมริมฝั่งโขง
จังหวัดเลย เมืองสวยริมฝั่งโขง จังหวัดนี้ได้ชื่อว่าเป็นทะเลภูเขา ที่มีธรรมชาติและทรัพยากรป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ อากาศดีเย็นสบายตลอดทั้งปี ซึ่งนี่คือเหตุผลที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนเลือกที่จะปักหมุดมาท่องเที่ยวกันที่เมืองเลย ซึ่งหากใครที่กำลังลังเลวางแผนกันอยู่ว่าจะไปเที่ยวเมืองเลยอย่างไรดี มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง Sanook Travel จะพาคุณไปเที่ยวที่เมืองเลย ฉบับ 3 วัน 2 คืน รับรองว่าครบรสชาติทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และประเพณีอย่างแน่นอน
Day 1
โดยในทริปนี้เราได้มีโอกาสเดินทางไปกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มุ่งตรงสู่จังหวัดเลย ซึ่งการเดินทางมาเลยนั้นก็สะดวกสบายมากๆ มีเครื่องบินตรงจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินเลย ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
จากสนามบินเลย เราเดินทางกันต่อทันทีโดยเป้าหมายของเราในวันนี้คือการมุ่งตรงไปสู่ชุมชนกกสะทอน แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบนยอดเขาสูง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
โดยไฮไลท์ในการท่องเที่ยวชุมชนกกสะทอนในช่วงนี้คือการ Workshop ทำขิงดอง และทำขิงผง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของบ้านกกสะทอน โดยชาวบ้านจะมาคอยต้อนรับและให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังได้ลองชิมน้ำขิงต้มสด และขนมอร่อยๆ จากฝีมือชาวบ้านด้วย
นอกจากการทำ Workshop แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับใจของบ้านกกสะทอนนั่นก็คือวิวทิวทัศน์โดยรอบนั้นงดงามมากๆ รายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีหมอกจางๆ สัญลักษณ์แห่งฤดูฝนออกมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้ประทับใจกันด้วย เดินเล่นถ่ายภาพบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวกันได้แบบชิลๆ
และในช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบนภูลมโลบานนั้นที่บ้านกกสะทอนแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดหลักในการนั่งรถขึ้นไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งเลย หากใครมีโอกาสมาเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งในช่วงฤดูดอกไม้บานสามารถแวะมาใช้บริการรถนำเที่ยวของชาวบ้านกกสะทอนได้
พิกัด : https://goo.gl/maps/K2ASxQyVkxxYBXjk8
ติดต่อท่องเที่ยว : 084-490-3169.
หลังจากกลับออกจากบ้านกกสะทอนแล้วเราก็มุ่งตรงเข้าสู่ที่พักกันทันที เป็นอันสิ้้นสุดวันแรกไปแบบชิลๆ พักผ่อนกันพร้อมที่จะลุยต่อในวันที่ 2 ซึ่งเรามีโปรแกรมจะต้องขึ้นภูอีเลิศ จุดเช็กอินชมทะเลหมอกแห่งใหม่ของจังหวัดเลยในเช้ามืดวันที่ 2 นี้ด้วยทุกคนจึงรีบเข้านอนเอาแรง
Day 2
โชคไม่ดีนัก เพราะด้วยความที่เป็นฤดูฝนทำให้เราไม่สามารถคาดเดาใดๆ กับอากาศได้ ฝนตกหนักตลอดทั้งคืนทำให้แผนการขึ้นภูอีเลิศของเรานั้นต้องยกเลิกไป เพราะทางขึ้นมีความลาดชันและเป็นดินแดงที่เปียกแฉะเพราะน้ำฝน อาจจะเกิดอันตรายได้ แต่ถึงกระนั้นในวันที่ 2 นี้ก็ยังมีโปรแกรมท่องเที่ยวรอคอยเราอยู่มากมาย ตัดใจจากภูอีเลิศแล้วไปลุยกันต่อดีกว่า
เริ่มต้นวันที่ 2 เราไปเที่ยวกันที่วัดเนรมิตวิปัสนา วัดสวยของอำเภอด่านซ้าย ที่นี่ถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมระดับสูงที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชม โบสถ์และวิหารถูกออกแบบสร้างสรรค์มาได้อย่างวิจิตรงดงาม มีการจัดแต่งสวนโดยรอบให้ดูสวยงามสบายตา เป็นวัดที่เข้ามาแล้วทำให้จิตใจสุขสงบจริงๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/dQf76M2yRSMhTdhCA
ถัดจากวัดเนรมิตวิปัสนาเราไปแวะทานข้าวกลางวันกันที่ร้าน "จงใจบริการ" ร้านอาหารพื้นบ้านของเมืองเลย ร้านนี้เราแนะนำเลยว่าใครอยากจะมาทานอาหารอีสานรสชาติบ้านๆ อีสานขนานแท้ต้องมาลอง อร่อยแซ่บมากทุกเมนูเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/BRazw9R6T35b1MHR8
ในช่วงบ่ายเราไปกันต่อที่วัดพระธาตุศรีสองรัก แลนด์มาร์คของเมืองเลย พระธาตุที่มีความสำคัญและเป็นที่เคารพนับถือของชาวเลยและชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ว่ากันว่าในสมัยก่อนพระธาตุศรีสองรักถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว เป็นหลักฐานแสดงถึงความสัมพันธ์ไทย-ลาว ตั้งแต่ครั้งอดีตนั่นเอง
พิกัด : https://goo.gl/maps/zWSM9Q6mP8rjigw28
จากนั้นมาเที่ยวไหว้พระกันต่อที่วัดโพนชัย อีกหนึ่งวัดสำคัญของจังหวัดเลย หลายๆ คนคงจะเคยเห็นประเพณีผีตาโขนของจังหวัดเลยกันมาบ้างแล้ว ใช่แล้วครับที่วัดโพนชัยแห่งนี้คือสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ผีตาโขนนั่นเอง โดยวัดนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นพร้อมกับวัดพระธาตุศรีสองรัก เป็นวัดศิลปะแบบล้านช้างโบราณที่มีความเก่าแก่และเป็นที่เคารพนับถือของชาวเลย เป็นอย่างมาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/9DWZb6DVkUEFEEer8
ปิดท้ายโปรแกรมวันนี้เราเดินทางขึ้นไปกันที่อำเภอภูเรือ เพื่อแวะชมวัดป่าห้วยลาด หนึ่งในวัดที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดของจังหวัดเลย
ภายในวัดแห่งนี้จะมีผลงานศิลปะ รูปปั้น และสถาปัตยกรรมที่ดูยิ่งใหญ่อลังการ มีลวดลายที่วิจิตงดงาม เหมาะสำหรับคนที่อยากจะมาเสพงานศิลปะ มาวัดนี้คุณจะได้เพลิดเพลินอย่างแน่นอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/F18qXSzfbyFgMNRQ7
Day 3
เช้าวันที่ 3 วันสุดท้ายของทริป เราตื่นกันแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นไปให้ทันชมแสงเช้าบนยอดภูเรือ โดยการเดินทางขึ้นไปบนยอดภูเรือนั้นจะต้องใช้บริการรถกระบะนำเที่ยวของชาวบ้านในการโดยสารขึ้นไป เพราะทางมีความมืดและลาดชันควรใช้ความชำนาญนการขับจึงจะปลอดภัยที่สุด
เราขึ้นมาถึงบนยอดภูเรือกันประมาณ 6 โมงตรง แสงแรกของวันเริ่มที่จะเผยให้ได้เห็น เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีม่วงปนส้ม และเผยให้เห็นภาพของขุนเขาที่สลับซับซ้อนด้านหลังความมืด เป็นภาพสุดตระการตาที่พาให้ทุกคนประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว
แต่เท่านั้นยังไม่พอการแสดงของธรรมชาติยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เมื่อแสงของพระอาทิตย์เริ่มสว่างขึ้น เผยให้เห็นภาพของทะเลภูเขาได้อย่างชัดเจน มีทะเลหมอกให้ได้เห็นอยู่บ้าง ให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับความงามตรงหน้าได้อย่างไม่ผิดหวัง
แต่ที่ถือว่าเป็นพระเอกและแย่งซีนทะเลหมอกไปเลยในวันนี้ก็คือแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมาอย่างเต็มที่ในช่วงเช้าและส่องแสงเป็นเส้นสายพาดผ่านลงมาต้องกับภูเขา ราวกับม่านแสงสีทอง เป็นไฟนอลโชว์จากธรรมชาติสำหรับเช้านี้ที่ทำให้การเดินทางขึ้นมาบนภูเรือในครั้งนี้ของเรานั้นสมบูรณ์แบบ
พิกัด : https://goo.gl/maps/UiPTRto7zYfsrGs18
หลังจากกลับมาเก็บของทานข้าวเช้าที่โรงแรมกันเรียบร้อยแล้วก็เตรียมเดินทางกลับ โดยเราจะมีอีกหนึ่งโปรแกรมท่องเที่ยวก่อนจะกลับด้วยนั่นก็คือการแวะไปเยี่ยมชมวัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง วัดเก่าแก่บนยอดเขาภูเรือ ซึ่งมีความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรม วัดนี้มีความแตกต่างจากวัดอื่นๆ เพราะสิ่งก่อสร้างต่างๆ นั้นสร้างขึ้นด้วยไม้ ไม่ว่าจะเป็นวิหาร หรือจะเป็นโบสถ์
นอกจากจะมีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ที่นี่ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย หากมีโอกาสลองแวะมาชมกัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/KdumS7Erp4ZxSLCU6
และทั้งหมดนี้ก็คือทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวจังหวัดเลย ที่นี่เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากจริงๆ หากจะเที่ยวให้ครบในเมืองเลยคงจะต้องใช้เวลากันเป็นเดือนเลยทีเดียว ที่นี่มีความหลากหลายทั้งในด้านภูมิประเทศ วัฒนธรรม และอาหารการกิน เป็นเมืองท่องเที่ยวที่หลายๆ คนมาครั้งแรกก็หลงรักเลย และเช่นกันในทริปนี้ เลย ก็ทำให้เราประทับใจ จนถึงตอนนี้ยังคงไม่ลืมเลย...
อัลบั้มภาพ 120 ภาพ