พาไปเที่ยวชมธรรมชาติ 2 วัน 1 คืน @ ราชบุรี
เที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติใกล้กรุง ดินแดนเมืองโอ่ง “ราชบุรี” เมืองชิค ชิค กับทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวชมวิวทิวทัศน์ พร้อมสัมผัสธรรมชาติสวย ๆ อย่างใกล้ชิด
เก็บกระเป๋า ได้เวลาเที่ยวกันได้แล้ว… จัดทริปเที่ยวชิล ชิล ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติแบบใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เดินทางแค่ 2 3 ชั่วโมงแปบ ๆ ก็ถึง จุดหมายปลายทางอยู่ที่จังหวัด “ราชบุรี” จังหวัดชิค ชิค ที่ใคร ๆ ก็ชอบมาเที่ยว
“ราชบุรี” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวใกล้กรุง เป็นจังหวัดเมืองรอง ที่ต้องลองมาเที่ยว บางคนแค่แวะเที่ยวเป็นทางผ่าน เพื่อไปยังจังหวัดใกล้เคียง โดยไม่ได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์ของจังหวัดนี้ ครั้งนี้ทีมงาน Paapaii.com จะพาไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ เช็คอินจุดสำคัญ ๆ ที่ต้องแวะมาเที่ยวชม แบบทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยว ชิล ชิล ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติของเมืองรองแห่งนี้
เช็กรถคู่ใจ แล้วออกเดินทางกันได้ เริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช่เส้นทางบางแค ผ่านจังหวัดนครปฐม มุ่งหน้าสู่อำเภอบ้านโป่ง จุดเช็คอินแรกในทริปครั้งนี้
ใช้เวลาเดินทางประมานชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงที่ “อำเภอบ้านโป่ง” อำเภอสำคัญของจังหวัดราชบุรี แหล่งรวมของกินร้านอร่อย และมุมเก่า ๆ มุมชิค ชิค ที่ต้องมาเช็คอินถ่ายรูป และอีกอย่างที่พลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่นี่ ต้องมาเจอ “หอนาฬิกากลางวงเวียน” พร้อมเดินชิล ซึมซับบรรยากาศของชุมชนแห่งนี้
มาที่ถึงอำเภอบ้านโป่ง ไม่ใช่แค่มาเที่ยวชมบรรยากาศรอบ ๆ แล้วก็ไปต่อ แต่ก็ต้องมาชมศิลปะสุดแนวที่โด่งดังจนใครต่อใครก็ต้องมาชม “สตรีทอาร์ตบ้านโป่ง” จุดเช็กอิน ฮิป ฮิป ชิค ชิค ของหมู่วัยรุ่น ตามมุมต่าง ๆ ภายในชุมชนบ้านโป่ง อย่างที่บริเวณรอบ ๆ โรงหนังเฉลิมทองคำ โรงหนังเก่าใจกลางชุมชน
ชมบรรยากาศความฮิป ความชิค ความสวยงามของศิลปะภายในชุมชนบ้านโป่ง ออกเดินทางไปต่อที่ “Unique 77” โกดังคาเฟ่สุดชิคชื่อดังของอำเภอบ้านโป่ง ที่ได้ดัดแปลงโรงงานเก่า ให้เข้ากับความเป็นอาร์ตของอำเภอบ้านโป่ง โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ภายในร้าน “Unique 77” ก็จะมีพวกเมนูอย่าง แฮมเบอร์เกอร์ สปาเก็ตตี้ พิซซ่า อาหารไทย รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ให้ได้เลือกสั่งมาทานกัน ทานไป ชมบรรยากาศภายในร้าน ถ่ายรูปเล่นเพลิน ๆ บอกเลยว่า ภายในร้านนี้นะ รถเก่าสวย ๆ เพียบบ ใครชอบรถเก่าต้องมา!
พักเติมพลังกันเรียบร้อย ออกเดินทางต่อไปยังอำเภอเมือง ไปเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติที่ “อุทยานหินเขางู” สถานที่เช็คอินยอดฮิตของอำเภอเมือง พอเข้ามาถึงบริเวณด้านในก็จะพบกับ “สะพานแขวนข้ามบึง” ตั้งโดดเด่น จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่
ข้ามสะพานมาก็จะมีทางเดินติดกับบึงน้ำ และหุบเขา ให้เดินชมวิวทิวทัศน์ภายในอุทยานกันเพลิน ๆ สัมผัสธรรมชาติ และยืนดูมุมสวย ๆ นอกจากนี้ยังมี “เรือถีบ” ถีบบริเวณบึง ผ่อนคลายไปอีกแบบ ถ้าใครไม่อยากเดินชมวิว ก็นั่งเรือถีบแทนได้น้า
ชมธรรมชาติภายในจุดเช็คอินของอำเภอเมืองกันเรียบร้อย ออกเดินทางต่อไปที่ “อำเภอสวนผึ้ง” จุดหมายปลายทางของทริปนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมง ก็มาถึงที่ “The Camping Field” ที่พักสไตล์แคมป์ปิ้ง บรรยากาศดี และเงียบสงบ กว้างใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ มีสนามหญ้าให้ได้วิ่งเล่นกันอย่างเต็มที่ พร้อมกิจกรรมมากมายบริเวณที่พัก … บอกเลยว่าใครที่ชอบการกางเต็นท์ ชอบธรรมชาติ ต้องหาเวลามาพักที่นี่ คุณจะได้สัมผัสถึงความผ่อนคลายจากโลกภายนอก ฮ่า ๆ
ในส่วนของห้องพัก “The Camping Field” จะมีให้เลือกทั้งแบบเต็นท์ และเป็นอาคาร สามารถเลือกพักได้ตามใจที่ต้องการ ในทริปนี้เราเลือกพักเป็นแบบบ้าน 2 ชั้น ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน … เช็คอิน เก็บกระเป๋าเข้าที่พัก ชาร์จแบตกล้อง ชาร์จแบตร่างกายกันเรียบร้อย ได้เวลาออกไปเที่ยวเก็บบรรยากาศเย็น ๆ ของธรรมชาติในอำเภอสวนผึ้งกันต่อเลย
จากที่พักมุ่งหน้าสู่จุดเช็คอินสุดท้ายในวันแรก ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็มาถึงที่ “อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย” สถานที่ท่องเที่ยว และเป็นลานกางเต็นท์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์สวนผึ้ง” แต่เอ๊ะ … ทำไมไม่เหมือนในรูป ทำไมลงไปตรงบริเวณอ่างเก็บน้ำไม่ได้ เอ่อ มาอยู่ที่บนสันอ่างเก็บน้ำซะงั้น ฮ่า ๆ อะ ไหน ๆ ก็มาถึงสันอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ขอเก็บบรรยากาศสุดชิลของธรรมชาติสีเขียว ๆ กันก่อนละกัน
หลังจากยืนชมวิวทิวทัศน์บนสันเขื่อนกันแบบเต็มที่แล้ว ก็ต้องหาวิธีไปด้านล่างอ่างเก็บน้ำให้ได้ บอกได้เลยว่าถ้าใครจะมาที่นี่ให้ปักหมุดใน GPS ว่า “มะหาด ไทธารา” ก็จะมาถึงบริเวณด้านล่างของ “อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย” บรรยากาศก็จะเป็นประมาณนี้แหละ โอ้โห!!! นี่หรือวิว สวยงามมากมาย บรรยากาศเงียบสงบสุด ๆ หันไปทางไหนก็เจอแต่สีเขียว
“อ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย” สถานที่ท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์แห่งนี้ เป็นอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โอบล้อมด้วยธรรมชาติของภูเขา มีทัศนียภาพสวยงาม ความพิเศษของที่นี่ในช่วงเย็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงกระทบน้ำสวยงาม บอกเลยว่าใครกำลังมองหาลานกางเต็นท์วิวสวย ๆ แบบใกล้ชิดธรรมชาติ ถ้ามาถึงอำเภอสวนผึ้ง ต้องมาที่นี่แล้วจะติดใจ … เพราะว่าของจริง มันสวยกว่าในรูปหลาย ๆ เท่า
เก็บบรรยากาศยามเย็นอย่างเต็มอิ่ม ยิ่งอยู่นาน ยิ่งผ่อนคลาย ก่อนเดินทางกลับที่พัก จบการเดินทางของทริปในวันแรก
เช้า อาบน้ำแต่งตัว เช็คเอ้าท์จากที่พัก พร้อมออกเดินทางเที่ยววันที่ 2 เอ้าลุย …เราเริ่มต้นเช็กอินกันที่ “น้ำตกเก้าชั้น” หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “น้ำตกเก้าโจน” สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
“น้ำตกเก้าชั้น” หรือ “น้ำตกเก้าโจน” ถือได้ว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 9 ชั้น มีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่รอช้า เข้าไปด้านในกันเลย
เริ่มต้นกันที่น้ำตก “ชั้นที่ 1” เดินเข้ามาจากด้านหน้าประมาณ 500 เมตร
เดินถัดมาอีก 200 เมตร ก็จะพบกัน “ชั้นที่ 2”
เดินต่อกันไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะมาถึง “ชั้นที่ 3”
เดินต่ออีกประมาณ 800 เมตร ก็จะถึง “ชั้นที่ 4”
เดินต่ออีกประมาณ 600 เมตร ก็จะมาถึง “ชั้นที่ 5” ครั้งนี้เราจะหยุดการเดินทางเที่ยวชมน้ำตกเก้าชั้น เพียงแค่ชั้นที่ 5 เพียงเท่านั้น เพราะจะต้องออกเดินทางไปเที่ยวที่อื่นต่อ แหะ ๆ แต่ที่จริงคือ หมดแรงกันแล้วววว คร๊าบบ ฮ่า ๆ
การเดินทางขึ้นไปของแต่ละชั้น ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 5 เดินทางง่าย สะดวก ไม่ชันมาก น้ำตกแต่ละชั้นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครมีเวลาแนะนำให้มากันตั้งแต่เช้า จะได้เดินขึ้นกันถึงชั้น 9 เลย แอบไปถามเจ้าหน้าที่มาได้คำตอบมาว่า ตั้งแต่ชั้น 6 เป็นต้นไป สวย ๆ ทั้งนั้นเลย
เดินเที่ยวชมธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำตก แช่น้ำ ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศเสร็จแล้ว ออกเดินทางกลับกรุงเทพ ระหว่างเดินทางกลับเข้าไปเก็บบรรยากาศสวย ๆ ของ “อ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง” อีกหนึ่งอ่างเก็บน้ำ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ
“อ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง” หรือ “เขื่อนห้วยไม้เต็ง” เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว และคนท้องถิ่นของที่นี่ ที่จะมานั่งชมวิวทิวทัศน์ ชมนก รับลมเย็น ๆ ปิกนิคริมน้ำ และมารอรับชมความสวยงามของพระอาทิตย์ยามเย็น และมานอนกางเต็นท์สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบภายในอ่างเก็บน้ำแห่งนี้
ผ่อนคลายกับสายลม ฟังสายน้ำเพลิน ๆ ก็ถึงเวลาที่จะต้องโบกมือลา “จังหวัดราชบุรี” กับทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวชิล ชิล ชมวิวธรรมชาติ ไปเช็คอินสถานที่ที่ขึ้นชื่อของแต่ละอำเภอ ได้ไปชมธรรมชาติสวย ๆ ที่อุดมสมบูรณ์ และได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กับวิวธรรมชาติที่สวยงามจนร้องว้าว
หากใครกำลังมองหาทริปเที่ยวใกล้กรุง แบบเช้าไป เย็นกลับ หรือจะไปค้างคืน ลองมาเที่ยวที่ “จังหวัดราชบุรี” กันนะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองรอง แต่บอกไว้เลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวไม่เป็นรองจังหวัดไหน ๆ กันเลยทีเดียว