เที่ยวแบบรักษ์โลกกับ 6 ชุมชน Low Carbon
จะดีแค่ไหน ถ้าเราได้ออกเดินทางท่องเที่ยว แล้วยังช่วยลดโลกร้อนได้ในคราวเดียว กับการท่องเที่ยวเทรนด์ใหม่แบบวิถีคาร์บอนต่ำ สัมผัสวิถีชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทำกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ ที่จะทำให้ทั้งคุณและคนในชุมชน สนุกและอิ่มสุขอย่างแน่นอน
บ้านน้ำเชี่ยว จ. ตราด
ชวนมาเที่ยวแบบกรีน ๆ ที่บ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด สัมผัสวิถีชุมชนใกล้ชิดธรรมชาติ บริเวณพื้นที่ปากอ่าวไทย ซึ่งโอบล้อมด้วยแนวป่าชายเลน มีแหล่งน้ำธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เป็นชุมชนท่องเที่ยวโฮมสเตย์ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมโลว์คาร์บอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหลากหลายให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือ ทำงอบ และงมหอยปากเป็ด วัตถุดิบพื้นถิ่นของเด็ดที่ไม่ควรพลาด
วิถีชีวิตของคนบ้านน้ำเชี่ยวทำอาชีพประมงเป็นหลักควบคู่ไปกับการอนุรักษ์แนวป่าชายเลน ทำให้มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนหอดูนกเพื่อชมบรรยากาศ และมองวิวทิวทัศน์ป่าชายเลนอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาได้ ที่นี่นับเป็นแหล่งโอโซนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เป็นแหล่งดูดซับคาร์บอน และแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำที่สำคัญ ซึ่งควรค่าแก่การไปเที่ยวสักครั้ง ตามสโลแกน “บ้านน้ำเชี่ยว ไม่เที่ยวไม่ได้แล้ว”
บ้านป่าเหมี้ยง จ. ลำปาง
ออกจากเมือง ขึ้นเหนือเข้าป่ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงนกร้อง และเรียนรู้วิถีคนกับป่าแบบโลว์คาร์บอน ณ บ้านป่าเหมี้ยง จังหวัดลำปาง
ชุมชนเล็ก ๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยฝืนป่าต้นน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ที่มีแม่น้ำไหลผ่านพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้น “เหมี้ยง” หรือชาอัสสัม วัตถุดิบท้องถิ่นของดีประจำชุมชน ที่เราสามารถเดินศึกษาวิถีเหมี้ยงร่วมกับชาวบ้าน เก็บเกี่ยวประสบการณ์พร้อมใบเหมี้ยงมาต้มชาอุ่น ๆ ดื่มให้ชื่นใจ ก่อนนั่งล้อมวงกินอาหารพื้นเมืองภาคเหนือ ลิ้มรสยำใบเหมี้ยงแสนลำ ท่ามกลางบรรยากาศของหมู่บ้านกลางหุบเขาแสนเย็นสบาย ที่ยังคงรอคอยให้นักท่องเที่ยวสายกรีนได้เข้ามาสัมผัส
บ้านถ้ำเสือโฮมสเตย์ จ. เพชรบุรี
ชุมชนเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าแก่งกระจาน เน้นกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ผืนป่าอย่างแท้จริง โดยมีธนาคารต้นไม้ มีกิจกรรมยิงกระสุนเมล็ดพันธุ์ ที่นำเมล็ดมะขวิดมาปั้นกับดินเหนียวให้เป็นลูกกระสุน แล้วใช้หนังสติ๊กยิงกระสุนเพื่อสร้างผืนป่าในอนาคต
เสร็จจากกิจกรรม ที่ชุมชนมีอาหารกลางวันไว้รับรอง เป็นอาหารพื้นบ้านที่หาวัตถุดิบได้ง่ายๆ ไม่ต้องซื้อหาจากภายนอก ทั้งผักสวนครัวที่ปลูกไว้ริมรั้วนำมาแกงหรือเคียงน้ำพริกก็อร่อย เก็บไข่จากเล้าไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ แถมด้วยของดีเมืองเพชรอย่างตาลโตนดที่นำมาเป็นส่วนผสมทำทองม้วนแสนอร่อยให้ได้ลิ้มลอง เรียกว่าอุดมสมบูรณ์แบบไม่ต้องหาวัตถุดิบนอกพื้นที่เลย ช่างเป็นการท่องเที่ยวที่แสนวิเศษ เพราะนอกจากจะได้ช่วยรักษาผืนป่าแล้วยังได้ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มลมหายใจให้แก่โลกอีกด้วย
บ้านไร่กองขิง จ. เชียงใหม่
บ้านไร่กองขิง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ สถานที่ที่ชาวบ้านร่วมใจทำการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ให้ผู้มาเยือนได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ชิมอาหารจากผักปลอดสารพิษที่ปลูกเองหลังบ้าน อีกทั้งยังมีกิจกรรมปั่นจักรยานออกกำลังกายรับอรุณ ให้พอได้เหงื่อและอะดรีนาลีน ก่อนไปทำกิจกรรมอื่น มาอาบน้ำให้สดชื่นด้วยสบู่ขมิ้นน้ำผึ้ง กลิ่นหอมละมุนแถมช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ถือเป็นของดีประจำชุมชนที่ไม่ควรพลาด จากนั้นมานวดผ่อนคลายกับการนวดพื้นบ้านที่เรียกว่า “ย่ำขาง” ภูมิปัญญาของชาวล้านนาแต่โบราณ ที่ช่วยดูแลรักษาสุขภาพไม่ให้เจ็บป่วย แถมมีบริการนวดแผนไทยด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวที่ได้ทั้งสุขภาพดีและลดการใช้ทรัพยากรไปในตัว
บ้านคีรีวงกต จ. อุดรธานี
วิถีเรียบง่ายในสไตล์บ้านทุ่ง เป็นนิยามของบ้านคีรีวงกต หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผืนป่าอุทยานแห่งชาตินายูง–น้ำโสม ต. นาแค อ. นายูง จ. อุดรธานี ชาวบ้านคีรีวงกตใช้ชีวิตผูกพันกับป่าเขา กินนอนแบบเป็นมิตรกับธรรมชาติ
ที่นี่จึงเปิดรับนักท่องเที่ยวที่มีหัวใจรักธรรมชาติมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่แบบใส่ใจโลก โดยพาลัดเลาะชื่นชมความสมบูรณ์ของผืนป่า แล้วแวะกินข้าวริมน้ำตกในบรรยากาศสุดวิเศษแบบหาไม่ได้ในเมืองกรุง โดยจัดโต๊ะอาหารแบกับดินด้วยอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ อย่างผ้าปูโต๊ะใบตอง จาน ช้อน แก้วน้ำจากไม้ไผ่ ปรุงอาหารจากวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น แถมโฮมสเตย์เป็นแบบโอเพ่นแอร์ลมพัดเย็นสบายตลอดคืน เรียกว่ามาเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนอย่างแท้จริง
บ้านสลักคอก จ. ตราด
บ้านสลักคอก คือชุมชนชาวประมงในโอบล้อมของแนวป่าชายเลนผืนใหญ่สุดบนเกาะช้าง ที่เปรียบเสมือนกำแพงธรรมชาติช่วยป้องกันการพังทลายของชายฝั่ง ทั้งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์
ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้นักท่องเที่ยวสายกรีนได้ออกกำลังกายกับการพายเรือคายักชมระบบนิเวศที่สมบูรณ์ และอีกหนึ่งไฮไลท์สุดโรแมนติก คือการล่องเรือมาดชมธรรมชาติบริเวณปากอ่าวสลักคอก เรือมาดหรือเรือแจวลำเล็กที่ยังใช้คนพายโดยไม่พึ่งแรงขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ นอกจากจะช่วยลดการใช้น้ำมันแล้วยังทำให้ได้เห็นระบบนิเวศชัดเจนมากขึ้น