เช็กอิน สวรรค์บนดิน สิมิลัน-สุรินทร์ เที่ยว 2 เกาะ ในทริปเดียว สุดปัง ณ พังงา

10 พ.ย. 63 (11:00 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

เอาใจคนรักทะเลกันอีกครั้ง สำหรับทริป SeaStar Happy Journey เยี่ยมชมความสวยงามของ ท้องทะเล หาดทราย ธรรมชาติ ณ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดจังหวัดพังงา ประเทศไทย สวรรค์ทะเลใต้ ที่แท้ทรู

ซึ่งทริปนี้ทีมงาน Sanook Travel จะขอพาคนรักการถ่ายรูปอวดไลฟ์สไตล์บนโลกโซเชียลฯ ไปเช็กอินกับสถานที่และกิจกรรมสุดพิเศษจากทั้งสองเกาะกันแบบจุกๆ ไม่ว่าจะเป็น ล่องเรือ ชมหาด เล่นน้ำ ไปจนถึงการ ดำน้ำชมปะการัง ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เราบินไปกับสายการบิน Vietjet Airline ณ สนามบินสุวรรณภูมิ กันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อแลนดิ้งสู่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ก่อนที่จะเดินทางต่อด้วยบริการรถตู้ เพื่อเข้าสู่ที่พักบนเขาหลัก จังหวัดพังงา ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง

และจุดเช็กอินแรกที่เราภูมิใจนำเสนอในทริปนี้คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่ Sentido Graceland Khao Lak รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว บรรยากาศเงียบสงบ ที่มาพร้อมกับดีไซน์สะดุดตาสไตล์ชนพื้นเมืองตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงในห้องพัก แถมสิ่งอำนวยความสะดวกก็ยังมีให้ได้บันเทิงกันแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ลานกีฬาอเนกประสงค์, ห้องคาราโอเกะ, ลานโบว์ลิ่ง, สปาระดับพรีเมี่ยม และอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนสระว่ายน้ำกลางแจ้งติดชายหาด ที่มีจุดถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้โพสท่าอวดไลฟ์สไตล์กันเต็มที่ เรียกได้ว่าแค่รอบบริเวณโรงแรมเพื่อนๆ ก็มีซีนให้เก็บภาพเข้าสต็อกไว้โพสต์ลงโซเชียลฯ จนข้ามปีกันแล้ว

• อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

วันแรกกับการเดินทางไปยัง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เริ่มต้นกันตั้งแต่ 07.30 น. หลังจากที่ทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อย รถตู้ของเราก็เคลื่อนล้อออกจากรีสอร์ท มุ่งหน้าสู่ SeaStar Happy Journey ท่าเรือครบวงจร อันดับ 1 ของจังหวัดพังงา เพราะที่นี่มีตั้งแต่ อาหารเช้า ชุดว่ายน้ำ ผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์ดำน้ำครบเซ็ต ไปจนถึงกล้องสำหรับถ่ายใต้น้ำ ซึ่งเหมาะสุดๆ สำหรับสายชิว เพราะไม่ต้องแบกสัมภาระอะไรมาให้หนัก แค่มาที่นี่ที่เดียวก็ครบจบพร้อมดำน้ำกันไปเลย

จุดเช็กอินแรกของเราในวันนี้เราไปกันที่ เกาะเมียง (Koh Miang) หรือที่ชาวต่างชาติมักจะเรียกกันในชื่อ Princess Beach ซึ่งจุดเด่นของเกาะนี้อยู่ที่น้ำทะเลสองสีที่เล่นคลื่นทักทายเราตั้งแต่แรกเห็น แถมยังมีหาดทรายสีขาวนวลทอดยาวไปทั่วทั้งเกาะ

และแน่นอนว่าสำหรับคนรักการถ่ายรูป บนเกาะเมียงก็มีจุดปังๆ ให้โพสท่าเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โขดหินรอบหาดที่พร้อมจะให้เราขึ้นไปยืนโพสท่าโต้คลื่นเก๋ๆ สำหรับลงโซเชียลฯ แถมยังมีสีเขียวจากต้นไม้เอาใจสายรักธรรมชาติเป็นฉากหลังชิคๆ เผื่อใครอยากได้ฟีล Go To Green ก็เริ่ดไปอีกแบบ และไฮไลต์เด็ดที่สาวๆ พร้อมใจกันต่อคิวรอก็คือ ชิงช้าไม้ริมหาด ซึ่งจุดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดที่โดนใจคนชอบถ่ายรูปที่สุดอีกจุดหนึ่งของเกาะเมียงเลยก็ว่าได้

สำหรับจุดเช็กอินที่สอง เราไปอยู่กันที่ เกาะสิมิลัน (Similan) เกาะที่ใหญ่ที่สุดจากทั้ง 11 เกาะ ซึ่งตรงนี้เราสามารถถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของเกาะอย่าง หินเรือใบ เก็บไว้เป็นที่ระลึก แถมยังถือว่าเป็นการเช็กอินอย่างเป็นทางการสำหรับทริปนี้ไปด้วยในตัว

นอกจากนั้นแล้วเพื่อนๆ ก็ยังสามารถเดินทางขึ้นไปยังบริเวณด้านบนของหินเรือใบ เพื่อชื่นชมความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของเกาะสิมิลัน รวมถึงสามารถถ่ายภาพคู่กับวิวสวยๆ โดยมีเจ้าหน้าที่จาก Sea Star Happy Journey แสตนด์บายรอที่จะลั่นชัตเตอร์ แถมยังแนะนำจุดถ่ายรูปปังๆ ให้ด้วย บอกได้เลยว่า ณ จุดนี้ ต่อให้มาคนเดียวเหงาๆ ก็ได้ภาพสวยๆ กลับไปโพสต์แน่นๆ อินสตาแกรมแน่นอน

มาถึงจุดเช็กอินจุดสุดท้ายของเส้นทาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เราขอพาเพื่อนๆ ไปปิดจ็อบประจำวันกันที่ เกาะบางู (Koh Ba Ngu) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Christmas Point โดยเกาะนี้ถือได้ว่าเป็นแดนสวรรค์อีกแห่งหนึ่งสำหรับนักดำน้ำทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจุดดำน้ำบริเวณนี้จะมีหมู่มวลปะการัง และปลาตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายโชว์ความงามตามธรรมชาติให้คนที่รักท้องทะเลได้ตื่นตาตื่นใจกันแล้ว

ในส่วนของหนุ่มๆ สาวๆ ที่อยากได้ภาพกระโดดน้ำตู้มต้ามหรือคลิปวิดีโอดำน้ำเก๋ๆ แหวกว่ายใต้มหาสมุทรก็สามารถทำได้เช่นกัน และขอบอกเลยว่าสำหรับการได้มาดำน้ำ ณ เกาะบางู ในครั้งนี้ เป็นอะไรที่อันซีนและไม่ควรพลาดจริงๆ หากได้มาเยือน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา

• อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

หลังจากที่ได้ชาร์จแบตกันหนึ่งคืนเต็มๆ วันนี้เราก็จะขอพาเพื่อนๆ ไปลุยต่อกันยัง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ สวรรค์บนทะเลอันดามัน และแน่นอนเรายังคงใช้บริการการท่องเที่ยวสุดพรีเมียมของ SeaStar Happy Journey อีกเช่นเคย แต่สำหรับครั้งนี้เราต้องย้ายไปขึ้นเรือกันที่ ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า ที่สำคัญเรื่องอาหารการกินและอุปกรณ์สำหรับดำน้ำเพื่อนๆ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่นี่เขามีให้ครบจบทุกสเต็ปเหมือนเดิม

สำหรับจุดเช็กอินแรกของวันนี้เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด ถ้าหากคิดจะมาเยือนอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ เพราะที่นี่คือ หมู่บ้านมอแกน (Moken Village) หมู่บ้านของชนพื้นเมืองที่มีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งตั้งอยู่บน เกาะสุรินทร์ใต้ อ่าวบอน และตรงจุดนี้นอกจากเราจะได้เยี่ยมชมวิถีชีวิตลูกน้ำเค็ม กล้าทะเล ของชาวมอแกนกันแล้ว เรายังสามารถอุดหนุนสินค้าแฮนด์แมดน่ารักๆ จากคนในหมู่บ้าน เป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปได้อีกด้วย

ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า วิวทิวทัศน์ของหาดทรายขาวๆ กับท้องทะเลสีเขียวใส และหมู่บ้านอันแสนสงบเรียบง่ายของชาวมอแกน เป็นภาพที่เชื่อว่าถ้าหากได้เอาไปโพสต์ลงบนโซเชียลฯ แล้ว ต้องมีเพื่อนๆ เข้ามากดไลก์ส่งหัวใจให้ถล่มทลายแน่นอน

ปล. สำหรับทาสแมวจะต้องฟินแน่ๆ ถ้าหากได้แวะมาเยี่ยมเยียนหมู่บ้านมอแกน เพราะที่นี่มีน้องเหมียวขี้อ้อนน่ารักๆ เดินงุ้งงิ้งงัวเงียคึกคักน่าดูเลยแหละ

มาต่อกันที่จุดเช็กอินจุดถัดไป ซึ่งก็คือ อ่าวไม้งาม เราเดินทางไปแบบชิวๆ เพียง 15 นาที ด้วยเรือหางยาวที่เทียบท่ารออยู่แล้ว และความพิเศษของการไปอ่าวไม้งามในครั้งนี้ก็คือ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนหลังจากที่มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม ฉะนั้นไม่ต้องสืบเลยว่า ทั้งความสวยงาม ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของอ่าวไม้งามจะฟินตาฟินใจขนาดไหน

ซึ่งจุดนี้ต้องขอบอกเลยว่าหาดทรายของอ่าวไม้งามเนียนนุ่มนิ่มเดินสบายเท้ามากๆ แถมตลอดเส้นทางก็ยังมีเชือกสำหรับโหน รวมถึงชิงช้าเล็กๆ ให้เราได้ใช้เป็นพร็อพสำหรับถ่ายภาพน่ารักๆ อีกด้วย คือถ้าใครมากับเพื่อนจุดเช็กอินนี้ก็แอบเก๋ๆ กรุบๆ อยู่นะจ๊ะ แต่ถ้าใครมากับแฟนล่ะก็ หึหึ...ได้ซีนหวานๆ กลับไปโพสต์ลงโซเชียลฯ แน่นอน

ไปต่อกันอีกสักนิดกับจุดเช็กอินที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก สำหรับ อ่าวช่องขาด ซึ่งจุดเช็กอินนี้นอกจากจะเป็นจุดแวะพักระหว่างทางให้เราได้รับประทานอาหารกลางวัน เข้าห้องน้ำ ล้างเนื้อล้างตัว และพักผ่อนชิวๆ หลังทานอาหารเสร็จแล้ว บนอ่าวแห่งนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญที่ทุกคนต้องแวะมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกอีกด้วย และนั่นก็คือ หินแม่ไก่ โขดหินขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายแม่ไก่ตัวอวบอ้วนตั้งตระหง่านอยู่บริเวณริมหาด เรียกได้ว่าดึงดูดสายตาชวนให้เซลฟี่เก็บไปโพสต์ลงสตอรี่สุดๆ

และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ เมื่อเรานั่งเรือหางยาวออกมานอกอ่าวเพียง 5 นาที เราก็จะได้เจอกับจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อว่ามี ปลาการ์ตูน หรือที่หลายคนคุ้นหูกันในชื่อ ปลานีโม่ แหวกว่ายอาศัยอยู่เยอะที่สุดอีกด้วย และนี่ก็คือจุดเช็กอินสุดท้ายของทริปล่อง สิมิลัน-สุรินทร์ ของเราในครั้งนี้ เรียกได้ว่าฟินๆ เพลินๆ กันตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับบรรยากาศและจุดเช็กอินสำหรับถ่ายภาพสวยๆ ที่ Sanook Travel นำมาฝาก ซึ่งในทริปนี้นอกจากเราจะได้เห็นความสวยงามของทั้งสองเกาะที่คนทั่วโลกยกให้เป็นสวรรค์บนดินสำหรับผู้ที่หลงใหลและชื่นชอบทะเลแล้ว

อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้นั่นก็คือ มิตรภาพ รอยยิ้ม และความน่ารักของพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดพังงา ที่พร้อมต้อนรับดูแลนักท่องเที่ยวทุกๆ คนที่ใฝ่ฝันอยากจะมาเยือนแดนสวรรค์แห่งนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต