เปิดตัว Banpu NEXT e-Ferry เรือนำเที่ยวพลังงานไฟฟ้าลำแรกของเมืองไทย!

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาตินั้น แน่นอนว่าเราทุกคนคงจะมีความต้องการในการที่จะอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่กับเราไปนานๆ ซึ่งสิ่งที่เราจะทำใหได้เพื่อร่วมอนุรักษ์ธรรมชาตินั้นทุกคนต้องพร้อมที่จะทำกันหมดไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ก็ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกมาในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเที่ยวด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้า การท่องเที่ยวเชิงอีโค่ต่างๆ และล่าดกับการเปิดตัว Banpu NEXT e-Ferry เรือนำเที่ยวพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ลำแรกของเมืองไทย ที่จะนำมาใช้ในการนำเที่ยวจริงๆ ที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา

โดยโครงการนี้เป็นการร่วมมือกันของคุณสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบ้านปู จำกัด(มหาชน) และบริษัทบ้านปู เน็กซ์ จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน และ คุณไชยา ระพือพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ตพัชรี ทัวร์ จำกัด บริษัททัวร์ชั้นนำ ของภูเก็ต จนเกิดเป็นโครงการ Banpu NEXT e-Ferry นี้ขึ้นมา

ซึ่งความพิเศษของ ‘บ้านปู เน็กซ์ อีเฟอร์รี่’ คือ

1 มอบการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกสบาย

2.มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้วัสดุหลักเป็นอะลูมิเนียมในการผลิตเรือ แข็งแรงทนทาน ช่วยลดการซ่อมแซม และการเปลี่ยนอะไหล่บ่อย ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ระบบบริหารงานคุณภาพในการผลิตเรือทุกขั้นตอน (Quality Management System) รวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้กลางลำเรือ เพื่อลดการสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์ต่างๆ

3.ประหยัดพลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่มีคราบน้ำมัน ไม่มีเสียงรบกวน และไม่มีมลพิษทางอากาศ

โดยในการเปิดตัวครั้งนี้ทาง Sanook Travel เราได้มีโอกาสร่วมเดินทางทดสอบเรือพลังงานไฟฟ้าลำนี้ด้วย โดยเริ่มต้นการเดินทางจากท่าเรืออ่าวปอจังหวัดภูเก็ต มุ่งหน้าสู่อ่าวพังงาและท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 

เท่าที่ลองนั่งดูแล้วรู้สึกเลยว่าเรือลำนี้เป็นพลังงานสะอาดจริงๆ เพราะตลอดทั้งการเดินทางเราจะไม่ได้กลิ่นน้ำมันมารบกวนเลย แถมยังมีความมั่นคงไม่โคลงเคลงเพราะเป็นเรือสองแคมนั่นเอง แต่เนื่องจากเป็นเรือที่ไม่ได้ใช้พลังงานน้ำมันเพราะฉะนั้นจะมีความเร็วที่ช้ากว่าเรือปกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการเดินทางแต่อย่างใด

ภายในเรือมีความกว้างขวาง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากสุดถึง 90 คน มีที่นั่งเป็นเบาะสะดวกสบายให้คุณได้เดินทางพักผ่อนชมวิวทะเลอันดามันได้อย่างชิลๆ 

จุดหมายแรกที่เราจะไปกันในวันนี้ก็คือเขาตาปู หรือเกาะเจมส์ บอนด์ แลนด์มาร์คของเมืองพังงา สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเจมส์ บอนด์นั่นเอง 

ด้านในเขาตาปูนั้นจะมีจุดท่องเที่ยวอีกแห่หนึ่งนั่นก็คือเขาพิงกัน เป็นเขาหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนพิงกันอยู่ได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว

และตรงบริเวณเขาตาปูซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็ยังคงความสวยงามไม่เสื่อมคลาย จะเปลี่ยนไปก็คงจะเป็นความสงบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่อย่างที่เรารู้กันดี ตั้งแต่มีโควิดมานั้น นักท่องเที่ยวก็หายไปหมด ชาวบ้านที่มาเปิดร้านขายของที่นี่บอกกับเราว่า ปกติเคยขายได้วันหนึ่งเป็นหลักพัน เดี๋ยวนี้หลักร้อยยังขายได้ยาก หากใครมาเที่ยวเขาตาปูอย่าลืมแวะมาอุดหนุนชาวบ้านกันด้วยนะครับ

ต่อจากเที่ยวเขาตาปูเราไปกันต่อที่เกาะห้อง ซึ่งเป็นจุดที่เราจะต้องนั่งเรือคายักในการเข้าไปชมความสวยงามด้านใน ในเกาะห้องนี้เหมือนเป็นห้องๆ จริงๆ แต่เป็นห้องของชั้นหินที่ก่อตัวขึ้นสูงล้อมน้ำทะเลตรงกลาง แต่ละห้องจะมีลักษณะความสวยงามแตกต่างกันออกไป 

ในระหว่างการเดินทางแต่ละห้องนั้นต้องใช้ความระมัดระวังเพราะบางจุดต้องลอดเข้าไปในช่องหินที่มีความเตี้ย บางจุดต้องนอนราบไปเลยทีเดียว

แต่โดยรวมแล้วนี่ถือได้ว่าเป็นอันซีนของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ 

จบไปแล้วสำหรับทริปการท่องเที่ยวด้วยเรือ Banpu NEXT e-Ferry ซึ่งในอนาคตทางผู้บริหารของทั้งสองบริษัทได้บอกว่าจะถูกนำมาใช้จริงอีกหลายลำเลย ถือเป็นข่าวดีสำหรับวงการท่องเที่ยวที่จะได้ช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์สืบต่อไป หากใครมีแผนจะไปเที่ยวภูเก็ตแล้วอยากจะลองท่องเที่ยวด้วยเรือพลังงานทดแทนแบบนี้ สามารถติดต่อได้ที่ โทร 076-263-558 เว็บไซต์ www.phuketpatritourgroup.com หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ Phuket Patri Tour https://www.facebook.com/PhuketPatriTourCompany”