อัศจรรย์ปรากฏการณ์สระมรกตรับ 800 ปี ปรางค์ครบุรีโคราช
ที่ปรางค์ครบุรี ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งถือเป็นโบราณสถานอโรคยาศาล และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา และประเทศไทย วันนี้เกิดปรากฏการณ์พิเศษต้อนรับการจัดงานบวงสรวงปรางค์ครบุรี ครบรอบ 800 ปี เนื่องจากภายในสระน้ำที่อยู่ภายในบริเวณปรางค์ หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากกันว่าสระอโนดาต เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้รักษาโรคต่างๆ วันนี้เกิดมีพืชขนาดเล็กคือ ไข่น้ำ กระจายเต็มผืนสระที่ตั้งตระหง่านคู่ตัวปรางค์ครบุรี เป็นสีเขียวมรกตสวยงามตระการตา โดยชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าครั้งสุดท้ายที่เกิดปรากฎการณ์น้ำคือเมื่อสิบปีที่แล้ว และที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในโอกาสที่จะมีการจัดงานบวงสรวงปรางค์ครบุรี ครบ 800 ปี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ย.นี้
นายชั้น พันสำโรง ผู้ใหญ่บ้านปรางค์บุรี กล่าวว่า ปรากฎการณ์สระน้ำมรกตในครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในช่วงที่จังหวัดนครราชสีมาเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ แต่ที่มาเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างหนึ่งในโอกาสครบรอบ 800 ปี ของปรางค์ครบุรี เพราะไข่น้ำถือเป็นพืชที่หาได้ยาก เพราะจะเกิดขึ้นในน้ำที่นิ่งและใสสะอาด เท่านั้น และถือเป็นพืชอาหารที่หากินได้ยากและมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก
สำหรับ ไข่น้ำ หรือไข่ผำ เป็นพืชน้ำและพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลก ไม่มีราก รูปทรงรี ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร พบตามแหล่งน้ำสะอาดที่ใสและนิ่ง โดยปกติพบตามธรรมชาติแต่ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงผำเพื่อจำหน่าย และมีการนำไข่ผำมาวิจัยหาคุณค่าทางสารอาหารพบว่า ไข่ผำมีโปรตีนสูงมากไม่แพ้ถั่วเหลือง มีโปรตีน 40% ของน้ำหนักแห้ง ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้ปกติ นอกจากโปรตีนแล้วไข่ผำยังมีกรดอะมิโน, แคลเซียมเสริมกระดูกและฟัน, ธาตุเหล็กป้องกันภาวะโลหิตจาง, เบตาแคโรทีนต้านอนุมูลอิสระและบำรุงสายตา และมีไฟเบอร์ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารด้วย
ทางด้านนายสมชาติ เดชดอน นายกเทศมนตรีตำบลครบุรีใต้ เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางเทศบาลตำบลครบุรีใต้จะจัดงานบวงสรวงบวงสรวงปรางค์ครบุรีครบรอบ 800 ปี ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ การที่มาเกิดสระน้ำมรกตถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และยังสร้างสีสันความสวยงามให้กับตัวปรางค์เพิ่มเติมอีกด้วย จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมงานที่จะจัดขึ้น โดยในช่วงเช้าจะมีการจัดพิธีบวงสรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมมีกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้านและการออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชนในพื้นที่ ส่วนในช่วงค่ำจะมีกิจกรรมกินเข่าค่ำกลางเดิ่นชมปราสาท พร้อมการแสดงแสงสีเสียงตระการตาเหมือนเช่นทุกๆปีด้วย
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ