Road Trip เที่ยวแม่ฮ่องสอน ดินแดนแห่งสายหมอก และวัฒนธรรมชนเผ่า

แม่ฮ่องสอน หนึ่งในดรีมเดสทิเนชันที่เที่ยวของเมืองไทย ที่ทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติอยากจะลองได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่นี่สักครั้ง เมืองแม่ฮ่องสอนนั้นมีทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ และมีอากาศที่หนาวเย็นบริสุทธิ์ เหมาะแก่การมาพักผ่อน ซึ่งในทริปนี้ Sanook Travel จะพาคุณไปเดินทางท่องเที่ยวกันที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนในแบบ Road Trip 4 วัน 3 คืน ลัดเลาะท่องเที่ยวไปตามอำเภอต่างๆ ของแม่ฮ่องสอน ไปสัมผัสกับความงดงามของแม่ฮ่องสอนเมืองสวยในม่านหมอกแห่งนี้ด้วยกันครับ

Day 1

เริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ เรานั่งรถยิงตรงสู่แม่ฮ่องสอนเพื่อเข้าสู่จุดหมายแรกของทริปนี้นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติออบหลวง บนรอยต่อระหว่างจังหัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นแกรนด์แคนยอนเมืองไทยอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีไฮไลท์อยู่ที่หน้าผาหินที่แยกตัวออกจากการกลายเป็นช่องทะลุ มีลำธารไหลผ่านด้านล่าง เป็นทัศนียภาพที่ดูแปลกตาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับพวกเราเป็นอย่างมากอันซีนจริงๆ

จากนั้นมุ่งตรงสู่ชุมชนบ้านละอูบ หมู่บ้านท่องเที่ยวชนเผ่าละว้า ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีภูเขารายล้อม และต้นไม้ใบหญ้าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ที่บ้านละอูบนี้ ชาวบ้านยังคงประกอบอาชีพดั้งเดิมอยุ่นั่นก็คือการทำเครื่องเงิน ซึ่งมีการสาธิตให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย เดินลัดเลาะท่องเที่ยวรอบๆ หมู่บ้านได้พบเจอทักทายชาวบ้านและเด็กๆ ในหมู่บ้านที่ยิ้มแย้มพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นบรรยากาศในการท่องเที่ยวชุมชนที่ดีงามจริงๆ

ออกจากบ้านละอูบเราไปกันต่อที่บ้านห้วยห้อม แหล่งปลูกกาแฟอะราบิกาชั้นยอด และยังเป็นแหล่งผลิตผ้าทอขนแกะธรรมชาติเพียงไม่กี่แห่งในเมืองไทยอีกด้วย 

ภายในหมู่บ้านรายล้อมไปด้วยธรรมชาติและมีจุดชมวิวนาข้าวที่ในช่วงนี้กำลังกลายเป็นสีทองสวยงามเลยทีเดียว มาแวะเช็กอินถ่ายรูปกันได้

จบไปหนึ่งวันสำหรับการเดินทางเราเข้าพักกันที่ เฮินไตรีสอร์ท อำเภอแม่ลาน้อย ที่พักกลางทุ่งนา บรรยากาศดีมากๆ พร้อมอาหารเย็นสไตล์ล้านนาลำแต๊ๆ ช่วยให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลหายเป็นปลิดทิ้งเลย

Day 2

เริ่มต้นวันใหม่เราเดินทางกันไปต่อที่บ้านเมืองปอน เรียนรู้วิถีชีวิตชาวไทใหญ่ อาทิ การจักสานกุ๊บไต การเย็บกระดุมเสื้อ ชาวไทใหญ่ และการทำอาหารไทใหญ่

ต่อจากนั้นไปสำรวจเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์อนุสรณ์สถานมิตรภาพไทย-ญี่ปุ่น สถานที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของสงคราม มหาเอเชียบูรพาที่เกิดขึ้นในแถบอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียนรู้ประวัติความเป็นมาและเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ 

 ช่วงบ่ายแวะทานกาแฟกันที่ Posaho Cafe' โดยมี Barista เด็กน้อยทำอร่อยคอยให้บริการ ท่ามกลางบรรยากาศดีๆ วิวทุ่งนาสีทอง ลมพัดเย็นสบาย น้องๆ ก็น่ารัก ใครมาเที่ยวขุนยวมอย่าลืมแวะมาชิมกันนะครับ

และก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้กับทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ที่กำลังเบ่งบานสวยงามเป็นอย่างมากในช่วงนี้ เปลี่ยนภูเขาให้กลายเป็นสีเหลืองอร่าม เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ที่สักครั้งในชีวิตต้องมาชมด้วยตาตัวเองจริงๆ

เมื่อเดินเล่นถ่ายรูปบนดอยแม่อูคอกันจนพอใจแล้วเราเดินทางกลับสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อพักผ่อนในคืนนี้ แวะสักการะวัดพระธาตุดอยกองมู วัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวแม่ฮ่องสอนและชมพระอาทิตย์ตกดินอีกทั้ง
บนวัดพระธาตุดอยกองมูสามารถมองเห็นภูมิประเทศแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจนสวยงามเลยทีเดียว

Day 3

เช้านี้เราทุกคนรีบตื่นนอนกันแต่เช้ามืด เพื่อขึ้นรถไปเที่ยวที่ปางอุ๋งกันให้ทันแสงเช้าของวัน ปางอุ๋ง หรือโครงการพระราชดำริปางตอง 2 เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยก็ว่าได้ เป็นสถานที่ที่ได้ชื่อว่ามีความโรแมนติกเป็นอย่างมาก ภาพของอ่างเก็บน้ำที่ขนาบข้างไปด้วยป่าสน มีสายหมอกลอยละล่องเหนือผิวน้ำในยามเช้า และแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ส่องประกายลงมาสะท้อนกับผิวน้ำนั้น เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ที่นี่มีความพิเศษกว่าที่ไหนๆ จนเคยมีคนขนานนามที่นี่ว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยเลยทีเดียว

ช่วงสายๆ ไปเที่ยวกันต่อที่ บ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดีและพืชเมืองหนาว มีของฝากขึ้นชื่อ อาทิ ชาเขียวอู่หลง ชาหอมหมื่นลี้ ไวน์ผลไม้ และผลไม้อบแห้ง เป็นต้น

เราแวะรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้านกุงคุณลุง ร้านอาหารที่ตั้งอยู่กลางความสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีภูเขารายล้อม อาหารอร่อยและใช้วัตถุดิบที่สดสะอาด เป็นหนึ่งในร้านแนะนำที่คุณจะได้ทั้งความอร่อยและความสบายใจจากบรรยากาศของร้านนี้กลับไป

และช่วงปาย Road Trip ของเราก็มุ่งไปที่อำเภอปาย อำเภอที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งวันนี้เราจะนอนกันที่ปาย เป็นคืนที่ 3 นั่นเอง

ก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนเราไปดูพะอาทิตย์ตกดินกันที่ ร้านกาแฟ Two Huts แต่โชคไม่ดีวันนี้ฟ้าไม่เปิดเท่าไหร่ แต่บรรยากาศที่ได้มาสัมผัสนั้นบอกเลยว่าสุดชิล

Day 4

วันสุดท้ายของการเดินทางเราตื่นกันแต่เช้ามืดเช่นเคยเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล สามารถมองเห็นตัวเมืองปาย และสายหมอกที่รวมตัวกันเป็นก้อนไหลเหมือนดังสายน้ำท่ามกลางหุบเขาในอำเภอปายได้อย่างงดงาม อีกทั้งยังได้จิบชาและทานหมั่นโถวสูตรจีนยูนนานได้อีกด้วย บรรยากาศยามเช้าวันนี้บอกเลยว่าฟิน!

ก่อนจะเดินทางกลับตัวเมืองเชียงใหม่เพื่อขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ ในวันสุดท้ายนี้ เราไปแวะเที่ยวกันต่อในที่สุดท้ายคือสะพานบุญโขกู่โส่ สะพานไม้กลางทุ่งนาที่มีความสวยงามทางด้านทัศนียภาพ ตลอดเส้นทางเดินคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของทุ่งนาเมืองแม่ฮ่องสอน ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปไม่ควรพลาดต้องแวะมาเช็กอิน 

และทั้งหดนี้ก็คือประสบการณ์ Road Trip เที่ยวแม่ฮ่องสอนที่เราได้มีโอกาสไปมาบอกเลยว่าเป็นทริปที่ประทับใจมากจริงๆ ทั้งอากาศ สถานที่ อาหารการกิน และผู้คน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครต่อใครก็ชอบมาเที่ยวที่แม่ฮ่องสอนกัน ระยะทางกว่า 4,088 โค้งที่เราต้องฝ่าฝันมานั้นมันคุ้มค่ากับความงดงามที่จะได้มาพบเจอจริงๆ ถ้ามีโอกาสอีกครั้งสัญญาว่าจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน