ข้อดี-ข้อเสีย ระหว่าง “จองล่วงหน้า” กับ “Walk-Ins” ที่พัก

ข้อดี-ข้อเสีย ระหว่าง “จองล่วงหน้า” กับ “Walk-Ins” ที่พัก

ข้อดี-ข้อเสีย ระหว่าง “จองล่วงหน้า” กับ “Walk-Ins” ที่พัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ่งที่สำคัญลำดับต้น ๆ ของการไปเที่ยวแบบค้างแรม นอกจากค่ากิน กระเป๋าเสื้อผ้า และยานพาหนะแล้ว จะลืมเรื่อง “ที่พัก” กันได้อย่างไร (ไม่เช่นนั้นเราจะนอนที่ไหนล่ะ จริงไหม?)

การเลือกที่พักนั้นก็มีอยู่ 2 แบบ คือแบบจองล่วงหน้า (Bookings) กับแบบ Walk-Ins ที่ออกจะดูหวังน้ำบ่อหน้าไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นในบางกรณี

การจองที่พักแบบจองล่วงหน้าและแบบ Walk-Ins นั้นมีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน อันที่จริงก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบส่วนตัวด้วย แต่เพื่อให้ทุกคนตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น Tonkit360 จะเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ไปเลย ว่าการเลือกจองที่พักทั้ง 2 แบบดี-ด้อยต่างกันอย่างไร การเที่ยวครั้งนี้จะได้เป็นทริปที่มีความสุข สนุก และประทับใจที่สุดอย่างไรล่ะ

การจองที่พักล่วงหน้า (Bookings)

ถือเป็นหนึ่งในแผนการเที่ยวที่สำคัญสำหรับใครหลายคน ปัจจัยหลัก ๆ ก็คือ เรามีที่นอนแน่ ๆ แถมการจองล่วงหน้านานหน่อยก็มีโอกาสที่จะได้ห้องพักที่ราคาถูกด้วย โดยเฉพาะช่วง High Season ที่ใคร ๆ ก็พากันออกเที่ยว ถ้าไม่จองล่วงหน้านานหน่อยล่ะก็คงหมดสิทธิ์แน่นอน ส่วนข้อดี-ข้อเสียของการจองที่พักล่วงหน้า มีดังนี้

ข้อดี

  • ป้องกันความเสี่ยง เพราะยังไงเราก็มีที่พักแน่นอน หมดกังวลเรื่องที่พักเต็ม
  • เลือกสถานที่ เลือกห้อง เลือกรูปแบบได้แบบตามที่สบายใจ อย่างน้อยก็ยังมีรีวิวให้เราอ่าน ที่ไหนที่ไม่โอเคก็แค่กดผ่านไป
  • วางแผนเที่ยวได้สะดวกขึ้น จะมีแผนการเดินทางที่ชัดเจนว่าวันนี้เที่ยวเมืองนี้นอนที่นี่ พรุ่งนี้ไปอีกเมืองก็ไปนอนที่นั่น ไม่ต้องเสี่ยงหาที่พักเอาดาบหน้า
  • ราคาถูกกว่าเดินดุ่ม ๆ เข้าไป เพราะการจองล่วงหน้ามักจะมีโปรโมชันลดแลกแจกแถมมากกว่า Walk-Ins ไหนจะโปรโมชันของบัตรเครดิตที่อาจมีเพิ่มเติมสำหรับการจองล่วงหน้า ที่สำคัญ การ Walk-Ins มันเห็นได้ชัดว่าเรายังไม่ที่พัก ถ้าในช่วงนั้นดันเหลือแต่ห้องราคาแพงแต่เราก็อยากมีที่นอน ก็ต้องยอมจ่าย
  • เวลายืดหยุ่น ที่พักส่วนมากจะกำหนดเวลาเช็กอินไว้ เราก็จะรู้ว่าต้องไปเช็กอินเวลาไหน รวมถึงที่พักบางที่สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบได้ว่าเราจะไปถึงเวลาไหน ต้องทำอย่างไรบ้างถ้าไปถึงก่อนเวลา อย่างน้อยก็สามารถฝากกระเป๋าสัมภาระไว้ที่ที่พักได้
  • สิทธิพิเศษในการอัปเกรดห้องพัก อย่างในช่วง Low Season ก็มีโอกาสที่ทางที่พักจะอนุญาตให้พนักงานอัปเกรดห้องพักให้ลูกค้าได้ ซึ่งผู้ที่จองมาแล้วล่วงหน้าจะมีโอกาสนั้นมากกว่า

ข้อเสีย

  • มีโอกาสได้ห้องพักราคาสูงกว่าคนอื่นอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่จองล่วงหน้านาน ๆ เพราะส่วนใหญ่การจองล่วงหน้าจะทำให้ที่พักเห็นว่าต้องจัดการอย่างไร มีห้องเหลืออยู่เท่าไร ซึ่งถ้าอยากปล่อยห้องให้หมด ก็อาจจะออกโปรโมชันมาในช่วงโค้งสุดท้าย หากเราจองล่วงหน้าไปแล้ว ห้องพักเราอาจจะราคาสูงกว่าคนที่จองทีหลังเราก็ได้
  • โอกาสเจอที่พักไม่ตรงปก แน่นอนว่าการทำโฆษณาคงไม่มีใครเอาภาพเก่า ๆ โทรม ๆ ของห้องพักมาลงอยู่แล้ว น่าจะผ่านการปรับสีปรุงแต่งบ้าง ที่สำคัญเราก็ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ยินเสียง หากเข้าพักแล้วเจออะไรแบบนี้ คงหมดอารมณ์เที่ยว แล้วทำเอาทริปนั้นกร่อยไปเลย
  • การเปลี่ยนแปลงวันเข้าพักและขยายเวลาอยู่ต่อทำได้ยาก เพราะเราจองมาแล้วในช่วงเวลานี้ ซึ่งก่อนหน้าหรือหลังจากเราก็น่าจะมีคนจองไว้แล้ว ถ้าเราเกิดเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง ต้องการเลื่อนวัน ก็จะกระทบกับลูกค้าคนอื่น ๆ จะเปลี่ยนห้องก็ยากเหมือนกัน อาจต้องควักเงินจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • อาจต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างเหมือนกัน ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีแบบจ่ายวันเข้าพักได้ แต่เพื่อกันลูกค้าเท ทางที่พักก็คงจำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน อย่างน้อยก็ต้องมีวางมัดจำ หรือไม่ก็ล่อลูกค้าด้วยโปรโมชัน หากจ่ายเลยทันทีจะได้ส่วนลดเพิ่มเติมก็ว่ากันไป
  • หากยกเลิกจะขอเงินคืนยาก การจองที่พักผ่านเว็บไซต์บางเว็บไซต์เราสามารถยกเลิกการจองแล้วของเงินคืนได้ หากจ่ายไปแล้วด้วยการตัดบัตรเครดิต หรือเดบิตไปก่อน กว่าจะได้เงินคืนอาจนานถึงขั้นลืมได้ แล้วบางเว็บไซต์ที่ไม่มีสำนักงานในไทยที่จะดำเนินการเรื่องนี้ได้ อาจต้องอีเมลหรือคุยกับเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ จะไปคุยภาษาไทยกับเขาก็คงไม่รู้เรื่อง

การจองที่พักแบบ Walk-Ins

เป็นรูปแบบการเที่ยวของคนที่ชอบความลุ้นระทึกตื่นเต้น เพราะมันเป็นการเที่ยวแบบค่ำไหนนอนนั่น จึงมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยที่อาจจะไม่มีที่นอน หรือต้องจำใจจ่ายเพื่อให้มีที่นอน ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น และไม่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเลยเสียทีเดียว นี่คือข้อดี-ข้อเสียของการจองที่พักแบบ Walk-Ins มีดังนี้

ข้อดี

  • เงินไม่จม อย่างที่กล่าวไปตอนแรก ที่พักบางทีหรือเว็บไซต์ตัวแทนบางเว็บไซต์จะต้องจากเงินทันทีที่จอง ตัดบัตรเครดิตบ้าง ตัดบัตรเดบิตเป็นเงินสดบ้าง บางคนจองที่พักล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ ในช่วงเวลานั้น เงินจำนวนนั้นนำไปทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างก่อนเดินทางจริง
  • ยืดหยุ่นเรื่องการเที่ยวต่างเมือง ในกรณีที่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน ที่เมืองนี้ยังเก็บที่เที่ยวไม่ครบก็คงมีอาการงอแงอยากอยู่ต่อ ถ้าเราเลือกที่จะ Walk-Ins แต่แรก ค่ำไหนนอนนั่น เราก็ไปหาที่พักที่เมืองนั้นได้เลย ไม่ต้องกลับมานอนที่โรงแรมที่จองไว้แล้ว
  • โอกาสได้ห้องราคาถูกกว่าหน้าเว็บไซต์ก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน สำหรับที่พักขนาดเล็ก หรืออยู่ในที่ที่ไม่ใช่โซนท่องเที่ยวสำคัญ ส่วนใหญ่จะราคาถูกกว่าที่พักที่อยู่แถวแลนด์มาร์กอยู่แล้ว และที่พักกลุ่มนี้ก็ไม่ได้รับจองผ่านตัวแทนเว็บไซต์ด้วย
  • เลือกที่พักได้เอง หากดูสภาพที่พักหรือห้องพักแล้วไม่ถูกใจ ก็แค่ไปหาดูที่อื่นเท่านั้นเอง

ข้อเสีย

  • เสี่ยงมาก ๆ ที่จะไม่ผ่านตม. สำหรับการเที่ยวต่างประเทศ โอกาสผ่านแทบไม่มี แต่โอกาสโดนไล่กลับประเทศหรือโดนแบนไม่ให้เข้าประเทศสูงมาก เพราะการจะผ่านด่านตม. เราต้องกรอกเอกสารที่เรียกว่าใบขาเข้า ในนั้นเราต้องระบุว่าพักที่ไหน รวมถึงอาจต้องแสดงเอกสารการจองที่พักด้วย ก็เพื่อทางประเทศปลายทางจะได้มั่นใจว่าเราจะกลับประเทศจริง ๆ ไม่ได้หาโอกาสมาเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หรือไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การท่องเที่ยว
  • เสี่ยงต่อการไม่มีที่นอน การเดินดุ่ม ๆ ไปหาจองเอาหน้างาน อาจจะเจอที่พักที่เต็มแล้ว หรือมีแต่ห้องแบบที่ไม่ต้องการ เพราะห้องพักส่วนมากถูกจองล่วงหน้าไปหมดแล้ว
  • ถ้าอยากมีที่นอน ก็ต้องจำใจจ่าย ในกรณีที่ที่พักอื่นถูกจองเต็มหมด เหลือที่นี่แค่ที่เดียว แถมยังเหลือห้องแบบทีไม่ต้องการ ไม่ปลื้ม แต่ก็จนปัญญาจะหา ก็ต้องจำใจจ่ายห้องใหญ่ ห้องแพง ราคาเต็ม
  • ได้ห้องพักราคาเต็ม อย่างที่บอกว่าการที่เรา Walk-Ins มันแปลว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่เลือกไม่ได้ หรือเลือกยากนิดหน่อย ราคาห้องพักหน้างานจะเป็นราคาเต็ม ไม่ผ่านโปรโมชัน รวมถึงที่พักเองก็ต้องตั้งราคาที่พักหน้างานแพงกว่าที่นำลงเว็บไซต์ เพราะถ้าตั้งถูกกว่า คนก็แห่มา Walk-Ins กันหมด เว็บไซต์จะขายได้อย่างไร
  • คุมงบประมาณลำบาก เพราะการเที่ยวแบบค่ำไหนนอนนั่น ค่าที่พักไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า ต้องไปเสี่ยงทายเอาดาบหน้าว่าจะเจอที่แพงหรือเจอที่ถูก
  • เสียเวลา ทั้งการเดินเทียบแบบที่ต้องการและเทียบราคา เราอาจต้องเดินเข้าที่นี่ออกที่นั่น (ในกรณีที่พอมีเวลา) ในขณะที่การจองออนไลน์เราเปิด 2 จอเทียบราคา เทียบสิ่งอำนวยความสะดวก เทียบคุณภาพได้หมด และยังเสียเวลาสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ เพราะที่พักต่างประเทศหาได้น้อยมากที่จะมีภาษาไทยไว้บริการคนไทย ถึงจะมีภาษาอังกฤษ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสื่อสารได้ แต่การจองผ่านเว็บไซต์ บางเว็บมีภาษาไทย เว็บที่ไม่มีก็ยัง copy ไปแปลได้ ซึ่งง่ายกว่ากันเยอะเลย
  • ต้องเผื่อเวลาหาที่พักด้วย เวลาเที่ยวของเราจะต้องเผื่อเวลาบางส่วนมาตามหาที่พักด้วย ก็จะเที่ยวได้ไม่หนำใจ ที่สำคัญเที่ยวมาทั้งวันก็เหนื่อยพอแล้ว ยังหาที่พักไม่ได้ทันทีอีก ร่างจะพังเอาก่อนได้เที่ยววันต่อไปนะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook