เต่าตนุขึ้นวางไข่ริมชายหาดเกาะลิบง สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ

เจ้าหน้าที่ เขตห้ามล่า ร่วมกับจนท. ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง ชาวบ้านในพื้นที่ กลุ่มพิทักษ์ดุหยงร่วมกันตรวจสอบ โดยการขุดหาไข่เต่า ซึ่งมีชาวบ้านเข้ามาพบเมื่อเช้าที่ผ่านมา รวมจำนวน 3 หลุม โดยนายอาบีดีน จิเหลา ได้นำโดรนมาบินเพื่อถ่ายภาพไปลงโปรโมทการท่องเที่ยวและได้เจอร่องรอยคาดว่าน่าจะเป็นเต่าตนุขึ้นมาวางไข่ที่บริเวณอ่าวหมาดำ บริเวณปากคลองจาก ม .5 ต.เกาะลิบง หลังจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบโดยทำการขุดหลุมเพื่อหาไข่เต่าตนุ ประมาณหลุมที่ 3 ขุดลงประมาณ 70-80 ซม. ก็พบเจอไข่เต่าตนุมีไข่เต่าจำนวน 81 ฟอง สภาพสมบูรณ์ อยู่ห่างจากน้ำทะเลประมาณ 30 เมตร และที่บริเวณดังกล่าวนี้น้ำทะเลเพิ่มสูงกลัวว่าไข่เต่าจะเน่าเจ้าหน้าที่เลยเตรียมย้ายไข่เต่าขึ้นไปไว้ที่สูง รอฟักออกลูกใช้เวลาประมาณ 50 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายไข่ทั้งหมดหยิบใส่ลังโฟม แต่แตก 1 ฟอง เหลือจำนวน 80 ฟอง จึงนำไปใส่หลุมใหม่ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร  ห่างจากน้ำทะเลประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อว่าปลอดภัย น้ำท่วมไม่ถึง โดยเจ้าหน้าที่ได้ขุดหลุมใหม่ลึกประมาณ 50-60 ซม. และกว้างประมาณ 60 ซม..เท่าขนาดเดิม โดยการนำทรายจากหลุมเดิมไปโรยด้วย เพื่อให้คงสภาพเดิม จากนั้นนำไปวางและฝังทรายกลบ และเตรียมทำรั้วล้อมรอบป้องกันสัตว์ร้ายต่อไป และจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.เป็นเวลาประมาณ 50 -60 วัน จนกว่าเต่าจะฟักออกไข่ ขณะเดี่ยวกันเจ้าหน้าที่เตรียมติดตั้งกล้องถ่ายสัตว์ไว้ใกล้กัน เพื่อสังเกตุการณ์ และติดตามเฝ้าระวังเต่าฟักออกตัว และเฝ้าระวังภัยคุกคามต่าง ๆ

นายอาบีดีน จิเหลา เล่าว่า “มาหาหอยเป่าอื้อและปลิงทะเลกาหมาด มาเดินดูเรียบชายฝั่ง และได้นำโดรนมาด้วย วิวสวยก็เลยนำโดรนมาบินเพื่อนำรูปโปรโมทการท่องเที่ยวของเกาะลิบง แล้วก็มาเจอร่องรอยเต่าตนุเจอไข่ มีร่องรอยหลายหลุมก็รู้สึกแปลกดี จากนั้นก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่นายชัยพฤกษ์  วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ได้มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน    

นายชัยพฤกษ์  วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า การพบไข่เต่าตนุแสดงให้เห็นว่าเกาะลิบง ทะเลตรังมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเลหายาก ทั้ง เต่าทะเล โลมา และพะยูน โดยหลุมที่พบมี 3 หลุม ได้ทำการขุดพบในหลุมที่ 3 ซึ่งเป็นพบเจอไข่เต่าตนุเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี  ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.เจ้าหน้าที่พบหลุมไข่เต่าตนุเช่นกัน แต่พบตะกวดมากินไข่เต่าหมดเหลือเพียงร่องรอย ครั้งนี้ชาวบ้านพบจึงแจ้งเจ้าหน้าที่จึงมาขุดพบ เป็นไข่เต่าตนุ เพราะว่าลักษณะไข่ไม่ใหญ่เกิน และตรงนี้น้ำใหญ่จะท่วมถึง จึงต้องทำการเคลื่อนย้ายไปไว้ในที่น้ำท่วมไม่ถึง เพื่อไม่ให้ไข่เน่า และจะจัดเวรยามเฝ้าระวัง 24 ชม.ในระยะเวลาประมาณ 50 วัน จนกว่าจะฟักออกตัว และทำคอกด้วยไม้ไผ่ประมาณ 1.5X2 เมตร เพื่อที่จะป้องกันสัตว์เข้ามาคุ้ยเขี่ย และจะทำงานร่วมกับพี่น้องชาวบ้านเกาะลิบงและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อที่จะตามหาเบาะแสข่าวเกี่ยวกับเรื่องสัตว์ทะเลที่มีความสำคัญ เช่น พะยูน เต่า เพื่อเฝ้าระวังการเกยตื้น และตามหาไข่เต่าที่คาดว่าอาจมีอีก เพื่อร่วมกันดูแลให้อยู่รอดจากสัตว์ การที่มีชาวบ้านในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ช่วยชี้เบาะแสต่าง ๆ ความปลอดภัยของเต่า และสัตว์ทะเล ก็อาจจะทำให้เราได้เห็นเต่าขึ้นมาวางไข่ตรงนี้อีกหลายๆพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง