เปิดเส้นทาง "ถ้ำนาคี" แหล่งเที่ยวเชิงธรรมชาติสุดอันซีน
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ ถ้ำนาคี จ.นครพนม ในช่วงสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย จ.นครพนม ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสำคัญ ที่หลายคนยังให้ความสนใจ และอยากไปชื่นชมสัมผัสความอัศจรรย์ ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะ เทือกเขาภูลังกา ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
ประวัติเทือกเขาภูลังกา
เทือกเขาภูลังกา เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยป่าเขา มาแต่อดีต มีเนื้อที่มากกว่า 30,000 ไร่ ครอบคลุมเนื้อที่ ทอดยาวผ่านอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ทอดยาวไปยัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งในอดีตไม่เพียงเป็นเทือกเขาที่มีตำนานลี้ลับ ได้แก่
- ตำนานราชาที่ถูกสาปเป็นหิน
- ตำนานแห่งดินแดนเมืองบังบด หรือเมืองลับแล
- ตำนานเมืองพญานาค
- ตำนานดินแดนประสูติพระเจ้า 5 พระองค์
- ดินแดนสนามรบกิเลสของเถราจารย์ชื่อดังหลายรูป
- ตำนานอาถรรพ์อันศักดิ์สิทธิ์
- ดินแดนสมุนไพร ในเรื่องรามเกียรติ์ ตอนพระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์
ทั้งนี้ปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้มีการเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติ รวมถึง ตามรอยเส้นทางเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลายรูป อาทิ หลวงปู่วัง หลวงปู่มั่น หลวงปู่ตอง ที่เคยขึ้นไปเจริญภาวนา และเชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับ ที่มีเรื่องราวน่าอัศจรรย์ มีชาวบ้านหลายคน เคยได้สัมผัส พบเจอมาหลายเรื่องราว
อุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เดิมประชาชน นักท่องเที่ยวให้ ความสำคัญ คือ ความสวยงามของยอดเขาภูลังกา ที่จะต้องเริ่มเดินทางจากที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 -3 ชั่วโมง เลียบเลาะขึ้นไปตามป่าเขา ยิ่งในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศยามเช้า จะได้ชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นจากฝั่งโขงทางฝั่งลาว เป็นแสงแรกที่สวยงาม และชื่นชมความสวยงามทางธรรมชาติสองฝั่งโขง
นอกจากนี้ ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่ขึ้นไปยัง เขาภูลังกา ยังจะได้มีโอกาสไปกราบไหว้ขอพร เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา คือ เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ที่สร้างขึ้นจากแรงศรัทธา ของพระสงฆ์ และญาติโยม ที่มีความเคารพศรัทธา ต่อเขาภูลังกา ที่เชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และในอดีตมีพระอรหันต์สายหลวงปู่มั่น หลายรูป มีปฏิบัติธรรมกรรมฐาน จนสำเร็จพระอรหันต์ ทำให้ชาวบ้านเคารพศรัทธา เชื่อว่าเขาภูลังกา หากใครได้ไปท่องเที่ยว เขาภูลังกา ไม่เพียงได้ชมความสวยงาม ยังจะทำให้มีโชคลาภอีกด้วย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีน ของ จ.นครพนม ที่น่าสนใจที่ประชาชน นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ในช่วงฤดูหนาวปีนี้
ล่าสุด อีกสถานที่สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ ถ้ำนาคี หลังมีเจ้าหน้าที่ รวมถึงนักสำรวจ มีการค้นพบ ความอัศจรรย์ของหินภูเขา ที่มีรูปร่างคล้ายเกล็ดงู ไม่แตกต่างจาก ถ้ำนาคา ที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง อยู่ทางฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
ส่วน ถ้ำนาคี มีการสำรวจพบ ทางฝั่ง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเป็นเขาลูกเดียวกัน หากจะเปรียบเทียบกันให้เข้าใจได้ง่าย คือ ทั้งสองถ้ำอยู่คนละฝั่ง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงได้ตั้งชื่อถ้ำแห่งนี้ว่า ถ้ำนาคี ที่สำคัญยังความสวยงามไม่แพ้กันเลย อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับตำนานเรื่องเล่าความเชื่อของถ้ำทั้งสองแห่งนี้ คือ พญานาค หรือ งูยักษ์ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน เพราะมีรูปร่างลักษณะเป็นงูยักษ์มีเกล็ดหินสวยงามลงตัว คดเคี้ยวไปตามหุบเขา และบางจุดยังมีลักษณะคล้ายหัวงูยักษ์ กลายเป็นที่สนใจของประชาชน นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีเส้นทางไม่ไกล เดินเท้าจากที่ตั้งอุทยานแห่งชาติภูลังกา ประมาณ เกือบ 2 กิโลเมตร เท่านั้น แต่เป็นเส้นทางผจญภัยเดินเลียบเลาะไปตามป่าเขา และปีนบันไดลิง ประมาณ 200 เมตร ก่อนขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาถ้ำนาคี ตลอดเส้นทางยังจะได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติดอกไม้ป่านานาพันธุ์
ประวัติ ตำนาน ถ้ำนาคี
สำหรับ ตำนานราชาที่ถูกพญานาคสาปเป็นหิน มาจากความเชื่อตำนานเรื่องเล่าของชาวบ้านในท้องถิ่น จะกล่าวถึง เจ้าปู่อือลือ ที่ข้องเกี่ยวกับ ถ้ำนาคา และ ถ้ำนาคี ว่า เกิดจากการล่มสลายเมืองของพญานาค ซึ่งเหตุมาจากความรักอันไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เคยเจริญรุ่งเรืองล่มสลาย
เชื่อว่าเดิมเป็นที่ตั้งเมืองชื่อ รัตพานคร มีพระอือลือราชา เป็นผู้ครองนคร มเหสีชื่อ นางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อ พระนางเขียวคำ ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อ เจ้าชายฟ้ารุ่ง ต่อมา เจ้าชายฟ้ารุ่ง ได้อภิเษกสมรสกับ นาครินทรานี
ซึ่งเป็นพระธิดาของพญานาคราชแห่งเมืองบาดาลที่แปลงกายมาเป็นมนุษย์ งาน จัดเฉลิมฉลองถึง 7 วัน 7 คืน เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธไมตรี ระหว่างพญานาคราชกับพระเจ้าอือลือราชาในโอกาสนี้ด้วย หลังสมรส ทั้งสองอยู่กินกันมาเป็นเวลา 3 ปี ก็ไม่สามารถจะมีผู้สืบสายสกุลได้ เพราะธาตุมนุษย์ จึงไม่สามารถจะมีผู้สืบสายสกุลได้ จึงทำให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจกับทั้งสอง
ต่อมาเจ้าหญิง นาครินทรานีล้ม ป่วยลง ทำให้ร่างกายของนางที่เป็นมนุษย์กลายเป็นนาคตามเดิม โดยข่าวนี้ได้แพร่สะพัดออกไปทั่วกรุงรัตพานคร และถึงแม้นางจะร่ายมนต์กลับเป็นมนุษย์แล้วก็ตาม ประชาชนและพระเจ้าอือลือก็ไม่พอใจ จึงได้ขับไล่นางนาครินทรานีกลับสู่เมืองบาดาลดังเดิม โดยได้แจ้งให้พญานาคราชมารับตัวกลับ แต่ก่อนกลับพญานาคราช ได้ขอเครื่องกกุธภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาไม่สามารถคืนให้ได้ เนื่องจากนำไปแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ทำให้พญานาคราชกริ้วมาก และประกาศว่าจะทำลายเมืองรัตพานคร พร้อมยกพลมาถล่มเมืองรัตพานครจนราบคาบเป็นหน้ากลอง ไม่มีใครรอดพ้นจากฤทธิ์ของนาคได้
จนพื้นดินที่เคยเป็นเมืองรัตพานครในอดีต ถล่มจมหายกลายเป็นหนองน้ำเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ชาวเมืองล้มตายเป็นจำนวนมาก ส่วนเมืองรัตพานครหลังถูกถล่มจนกลายเป็น บึงหลงของ เหตุที่ได้ชื่อนี้เพราะพระอือลือราชา ได้ปิดบังลุ่มหลงเอาสมบัติทรัพย์สินของคนอื่นมาเป็นของตน และเวลาต่อมาได้เพี้ยนกลายเป็น บึงโขงหลง ในปัจจุบัน จากพื้นดินอันเป็นที่ตั้งของรัตพานครจึงกลายเป็นเวิ้งน้ำ
อย่างไรก็ตาม ตำนานได้กล่าวไว้ว่าพระอือลือราชา รวมถึงบริวารบางส่วน ไม่ได้สิ้นพระชนม์ไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ถูกพระยานาคราชจับตัวไว้ พร้อมกับสาปให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาคเฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพระยานาคราชได้ ดังนั้น ก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายพญานาค ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าคือพระอือลือราชาที่ถูกสาปให้เป็นงูใหญ่แล้วกลายเป็นหิน
ค่าบริการ อุทยานแห่งชาติภูลังกา เส้นทางท่องเที่ยวถ้ำนาคี
- ทางอุทยานแห่งชาติภูลังกาเก็บค่าเข้าชมคนละ 20 บาท
- บริการที่จอดรถอีกคันละ 30 บาท
บริเวณด้านใน อุทยานแห่งชาติภูลังกา ถ้ำนาคี
ระหว่างทาง อุทยานแห่งชาติภูลังกา จะมีการ ทำป้ายเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับผืนป่า แมลง และสมุนไพร ให้เราได้หยุดพักศึกษา มีจุดแวะพักดื่มน้ำริมน้ำตก พร้อมชมหินที่คล้ายหัวพญานาค
นอกจากนี้ในเส้นทางเดียวกัน จะได้เห็นสายน้ำบางจุดไหลลอดใต้ก้อนหินไปโผล่อีกแห่งหนึ่ง ลักษณะคล้ายน้ำตก ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูลังกา และจะมีหินลักษณะ คล้ายเศียร หรือหัวนาคี คล้ายพญานาคก้มหัวลงมาพ่นน้ำ
อีกทั้งในเส้นทางยังจะได้ชื่นชมความสวยงามของ ผานาคี เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตก รวมถึงสามารถชื่นชมความสวยงามของ น้ำตกธรรมชาติ อาทิ น้ำตกไทรงาม น้ำตกผาสวรรค์ และ น้ำตกตาดโพธิ์ ที่ไหลลงจากภูลังกา สู่ลำห้วยหล่อเลี้ยงเกษตรกรปลูกพืชและชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภค ตลอดปี
สอบถามเส้นทาง ติดต่ออุทยานแห่งชาติภูลังกา
- ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติภูลังกา เบอร์โทร 084-7923505, 081-7252684
- เว็บไซต์ www.dnp.go.th
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ