อร่อยระดับโลกตั้งแต่สตรีทฟู้ดสู่มิชลินสตาร์ ชวนสำรวจร้านอาหารใน Siam Paragon

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กับการตะลอนกินอย่างจุใจของแพทและเรดาร์ 2 คู่ซี้แห่ง Tamago ตะลอนทัวร์ คราวนี้ไปกันที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เจ้าของตำแหน่ง World Class Food Destination “สวรรค์ของนักกิน” ใจกลางกรุงเทพฯ ที่รวบรวมร้านอาหารตั้งแต่สตรีทฟู้ด อาหารท้องถิ่น ไปจนถึงระดับมิชลินสตาร์มาไว้ในที่เดียว! อัดแน่นด้วยเครื่องดื่มและอาหารคาว-หวานจากทั่วโลกกว่า 200 ร้าน มากกว่า 7,000 เมนู ทั้งไทย ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อินเดีย อิตาเลียน อังกฤษ ฯลฯ บนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร รวมชั้น G และชั้น 4 Food Passage 

2 สาวเริ่มต้นประสบการณ์ความอร่อยโดยพาไปทัวร์ชั้น 4 กับแสนแซ่บ ร้านอาหารไทยอีสานสไตล์โมเดิร์น ซึ่งโดดเด่นเรื่องวัตถุดิบคัดพิเศษ และการตกแต่งจานที่ชวนน่าทาน พลาดไม่ได้กับเมนูแนะนำ เช่น ตำปลาร้ากุ้งสด ไก่ย่างแสนแซ่บ และผัดหมี่กระเฉดกุ้ง 

ทานของคาวแล้วต้องต่อด้วยของหวาน แพทกับเรดาร์พาไปเพิ่มพลังที่ชั้น G ซึ่งชั้นนี้จะแบ่งเป็นโซนอาหารย่อยๆ อีก 3 โซน ได้แก่ GOURMET MARKET ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ มีสินค้ากว่า 50,000 รายการ พร้อมเคาน์เตอร์ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งที่ดีที่สุดอย่าง James Madison Premium Butcher Shop เคาน์เตอร์ขายเนื้อคุณภาพระดับโลก 80’ Below by Thammachart Seafood ซีฟู้ดบาร์คอนเซ็ปต์ใหม่ รวมทั้งล่าสุด TAKA Marche ซึ่งมีแต่วัตถุดิบส่งตรงจากญี่ปุ่น แต่เคาน์เตอร์ที่ควรไป (ชิม) อย่างยิ่งคือ You Hunt We Cook ที่สามารถเลือกวัตถุดิบสดใหม่มาให้เชฟสร้างสรรค์จานโปรดได้ด้วยตัวเอง

 

โซนต่อมาในชั้น G คือ GOURMET GARDEN ตกแต่งสวยงามจนเหมือนเดินเล่นในสวน อลังการด้วยงานหวายและงานไม้โทนน้ำตาลอ่อน ไล่ตั้งแต่เพดานจนถึงพื้น เสริมความเขียวขจีและมีชีวิตชีวาด้วยดอกไม้พร้อมสัตว์จำลองต่างๆ โซนนี้มีร้านหลายสัญชาติ ถ้าระดับเวิลด์คลาสต้องลอง Tasty Congee and Noodle Wantun จากฮ่องกงหรือ Crab & Claw ที่เสิร์ฟบุฟเฟต์ล็อบสเตอร์ด้วย

สำหรับแพทและเรดาร์ ทั้ง 2 คนเลือกแวะทานขนมหวานที่ Brix Dessert Bar แน่นอนว่าไม่ลืมสั่งเมนูซิกเนเจอร์ที่ทำให้ร้านโด่งดังอย่าง Signature Miracle Pancake แพนเค้กเนื้อนุ่มเด้ง Musketeers Croissants เมนูยอดฮิตแห่งยุค เป็นครัวซองต์อัลมอนด์สามทหารเสือซึ่งมี 3 ชิ้น 3 รสชาติ Fresh Milk Black Bubble นมสดไข่มุก และ Black Sugar Bubble Milk Tea ชานมไข่มุกที่ใช้ชาจากไต้หวันและศรีลังกา 2 แหล่งมาเบลนด์รวมกัน 

 

และโซนสุดท้ายในชั้น G คือ GOURMET EATS ฟู้ดคอร์ตรวมร้านดังในตำนานของไทย รวมถึงร้านระดับมิชลินไกด์ เช่น ครัวพรละมัย หอยทอดเยาวราช, ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี, รสดีเด็ด, หมูกรอบนายไซ และอีกมากมาย ซื้ออาหารเสร็จแล้วสามารถหาที่นั่งทานได้ทันที แต่ร้านที่แพทกับเรดาร์เลือกชิมคือ So Vegan ร้านอาหารมังสวิรัติซึ่งมีประวัติด้านอาหารเจกว่า 10 ปี มีเมนูอาหารหมุนเวียนมากกว่า 100 เมนู หลากหลายและน่าลองทุกจาน เช่น ข้าวกะเพราเจโบราณ เย็นตาโฟทรงเครื่อง และไก่ป๊อปเจ 

 

นอกจากนี้ยังมีโซน TAKE HOME ซึ่งทุกคนสามารถเลือกซื้อกลับบ้านได้อย่างสะดวกสบาย ถ้าเป็นร้านอาหารคาว แพทกับเรดาร์ขอแนะนำ ชัยปลาหมึกย่าง ร้านคิวยาวจากย่านเสาชิงช้าที่เด็ดมากเรื่องน้ำจิ้มและเป็นร้านที่เพิ่งขึ้นห้างครั้งแรกด้วย ส่วนของหวานก็ต้องเป็นร้านการิมโรตี มะตะบะ ร้านเก่าแก่บนถนนพระอาทิตย์ มีเมนูโรตีมะตะบะทั้งไส้คาวและไส้หวาน มีเมนูชวนดื่มคล่องคอ เช่น ชานม และชาดำเย็น

 

และพิเศษสุดกว่าที่ไหนๆ อิ่มท้องแล้วยังได้ของขวัญติดกระเป๋าหลังจบมื้ออาหารด้วย เพราะสยามพารากอนจัดแคมเปญ “Siam Paragon World Class Food Destination” รับประทานอาหารในร้านที่ร่วมรายการครบ 1,000 บาทขึ้นไป จะได้รับ Siam Gift Card มูลค่า 100 บาท และ Gourmet Eats Voucher มูลค่า 100 บาทด้วย รวมมูลค่าทั้งหมด 450,000 บาท แคมเปญนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม–30 เมษายน 2564 ที่สยามพารากอนที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ชวนกันมาสะสมบิลอาหารเหมือนแพทกับเรดาร์กันเถอะ

แล้วพบกับอาหารชวนหิวแบบนี้ได้อีกทาง Facebook Fanpage, Youtube Channel: Tamago Free Magazine, และเว็บไซต์ Sanook.com