หอมกรุ่น-อุ่นท้อง สุดยอด 5 ร้านข้าวต้มปลา ไม่มาไม่ได้แล้ว
ครื้มฟ้าครึ้มฝนแบบนี้เห็นทีต้องหาอะไรร้อนๆ มาซดให้อุ่นท้องสักหน่อย แต่จะเป็นร้านธรรมดาๆ คงจะไม่ถึงใจ หญิงใหญ่กับพี่มะลิจึงขอปักหมุดไว้ที่ 5 ร้านข้าวต้มปลาระดับท็อปลิสต์ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง แค่ได้ยินชื่อก็ร้องอ๋อ! แต่ละร้านบอกเลยว่าไม่ธรรมดาทั้งการเลือกปลา ข้าว และสูตรน้ำซุป ใครอยู่ใกล้ร้านไหนตามไปอุดหนุนได้เลย
1.ข้าวต้มปลา by อุษณีย์ (เจ้าเก่าสะพานเหลือง)
ร้านข้าวต้มปลาในตำนานแห่งสะพานเหลือง แม้จะย้ายมาปักหลักแถววัดเทพศิรินทร์ แต่ลูกค้าขาประจำยังตามมากินแบบไม่ขาด เริ่มขายตั้งแต่สมัยอากงในราคาชามละ 6 สลึง จนถึงตอนนี้ดูแลโดยลูกชายของพี่อุษณีย์ซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว
ที่นี่การันตีว่าเนื้อปลาสด รสชาติข้าวต้มลึกล้ำตามต้นตำรับ เลือกได้ทั้งปลาเต๋าเต้ย (มีจำนวนจำกัดต่อวัน) ปลาเก๋า ปลากะพง ไข่ปลา รวมถึงกระเพาะปลาสดที่ใครอยากกินต้องโทรมาจองก่อนจะได้ไม่พลาด ส่วนข้าวใช้ข้าวหอมมะลิเก่า ต้มแล้วเมล็ดสวยเข้ากับน้ำซุปหอมกรุ่นที่ตุ๋นนานหลายชั่วโมง อุ่นเครื่องด้วยลวกจิ้มรวมมิตร รวมทุกอย่างไว้ใน 1 จานทั้งเนื้อปลา กุ้ง หอยนางรม เซ่งจี๊ กระเพาะ บะเต็ง ต่อด้วยข้าวต้มทะเล ให้ทั้งปลา กุ้ง หอยนางรม และบะเต็งอันเป็นทีเด็ดซึ่งใช้เวลาทำนานหลายชั่วโมง (ขายดีจนต้องทำเป็นกระปุกไว้ให้ซื้อกลับบ้าน) กินกับน้ำจิ้ม 3 แบบคือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว เต้าเจี้ยวทรงเครื่องรสจี๊ดจ๊าด และน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ทำได้แซ่บถึงใจ ส่วนเมนูมาแรงต้องยกให้ข้าวต้มแห้งปลากะพงสำหรับคนไม่โปรดของร้อน เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปถ้วยเล็กๆ ปิดท้ายด้วยข้าวต้ม 3 หมู อร่อยด้วยกระเพาะหมูตุ๋นจนนุ่ม เซ่งจี๊ชิ้นโตไม่มีกลิ่นคาวกวนใจ และบะเต็งหอมๆ ซดเพลินจนต้องขอเบิ้ลอีกชาม
พิกัด : 19/2 ปากซอยสุกี้ยศเส ถนนพลับพลาไชย (เลยธนาคารไทยพาณิชย์มาเล็กน้อย) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 16.00-21.30 น.
โทร. 08-1000-0671, 08-1868-5323
2. ข้าวต้มปลากิมโป้ (สาขาบรรทัดทอง)
เห็นปลาตัวบิ๊กเบิ้มแขวนอยู่หน้าร้านเมื่อไรเป็นอันรู้กันว่ามาถึงข้าวต้มปลากิมโป้แล้ว หลังจากสร้างตำนานที่ตรอกจันทน์จนโด่งดังคว้ามิชลิน เพลท มาครอง ตอนนี้ถึงเวลาของสาขาที่ 3 บนถนนบรรทัดทองโดยมีคุณหนุ่ยลูกชายเฮียฮ้อมาคอยดูแลด้วยตัวเอง
คุณหนุ่ยเล่าว่าที่ร้านเริ่มโชว์ชิ้นเนื้อปลาตั้งแต่สมัยอากงอาม่า ก่อนจะเปลี่ยนมาโชว์ปลาทั้งตัวในรุ่นคุณพ่อ (วันนี้เราได้เห็นทั้งปลาเต๋าเต้ยตัวยักษ์และปลาเก๋าแดงไซส์พี่บิ๊ก) ร้านนี้มีปลาค่อนข้างหลากหลายทั้งปลากะพง ปลาเก๋า ปลาเก๋าแดง เต๋าเต้ย วันดีคืนดีอาจมีปลากุเลามาให้กินด้วย ใครชอบปลาเนื้อนิ่มหน่อยแนะนำปลากะพง ถ้าชอบเนื้อหนึบต้องสั่งปลาเก๋า แต่ถ้ากินเต๋าเต้ยจะได้ความละมุนเนียนลิ้น ส่วนน้ำซุปหอมๆ ได้จากกระดูกปลา หอยลาย หัวกุ้ง เคี่ยวตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงเวลาเปิดร้าน อย่าพลาดปลากะพงรวมมิตรใส่หอย จุใจทั้งปลากะพง ปลาหมึก กุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่ หอยนางรม อีกชามคือข้าวต้มเก๋าแดง เนื้อปลาสีแดงน่ากินตามธรรมชาติ เนื้อหนึบหั่นติดหนัง อร่อยแบบเพิ่มคอลลาเจน รวมถึงข้าวต้มเต๋าเต้ยให้อิ่มได้ในราคาหลักร้อย ปิดท้ายด้วยเมนูลับที่ปรากฏตัวบางวันอย่างก้างปลาเต๋าเต้ยทอด 1 จานใช้ก้างปลา 1 ตัวเต็ม ทอดกรอบแบบเคี้ยวได้ทั้งชิ้นกินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ
พิกัด : 983, 985 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ (อยู่ระหว่างจุฬาซอย 12 และ 14)
เปิดบริการ : 17.00-23.30 น.
โทร. 09-4686-5666, 08-1659-2499
3. เฮียหวาน ข้าวต้มปลา
เทียบอายุร้านแล้วอาจไม่เก่าแก่เท่าร้านอื่นเพราะเปิดมาเพียง 9 ปี แต่เฮียหวาน ข้าวต้มปลา ก็นับว่าเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยการติดโผร้านบิบ กูร์มองด์ ในมิชลินไกด์มาแล้ว 4 ปีรวด ด้วยความสดใหม่ของปลาทะเลที่คัดมาอย่างดีไม่มีย้อมแมว ขายในราคาจับต้องได้ อย่างปลาเก๋าของที่นี่ต้องใช้ขนาด 12 กิโลกรัมขึ้นไป รวมถึงเครื่องเคราอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู ล้วนมาจากแหล่งที่ดีที่สุด
ทางร้านใช้ข้าวหอมมะลิ นุ่มแต่ไม่เละ เข้ากับน้ำซุปที่ได้จากกระดูกปลาหลายชนิดต้มนานกว่า 8 ชั่วโมง ได้รสชาติทะเลแบบไม่ต้องพึ่งผงปรุงรส เริ่มมื้อนี้ด้วยข้าวต้มปลาเต๋าเต้ย เพิ่มกุ้งและกระเพาะสด เครื่องแน่นมองไม่เห็นข้าว มีทั้งเนื้อปลาเต๋าเต้ยชิ้นโต กุ้ง และกระเพาะสดอันเป็นขวัญใจลูกค้ารุ่นใหญ่ ต่อด้วยโจ๊กปู เมนูไฮไลต์ที่ใช้ปูทะเลสดไซส์ใหญ่จากจันทบุรีแกะให้พร้อมกินในเนื้อโจ๊กเนียนละเอียดคล้ายครีม ทำจากข้าวเกรดดีสำหรับส่งออกเท่านั้น หอมปูและมีรสเค็มอ่อนๆ กินเพลินจนทำเอาลืมโจ๊กร้านอื่นไปเลย และพลาดไม่ได้กับกุ้งกระเทียม กุ้งคัดไซส์พิเศษขนาด 5-6 ตัว/กิโลกรัม ผัดกับซอสรสเค็มหวาน โรยด้วยกระเทียมเจียวกรอบๆ ปิดท้ายมื้อนี้แบบอิ่มแปล้
พิกัด : 816 ปากซอยจันทน์ 32/2 ถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 16.00-23.00 น.
โทร. 0-2211-0829
4. ข้าวต้มปลา 5 แยก (พลับพลาไชย)
ยกให้เป็นร้านข้าวต้มปลาสุดเก๋าสำหรับข้าวต้มปลา 5 แยก (พลับพลาไชย) ที่อยู่ยั้งยืนยงมานานกว่า 95 ปีแล้ว ตอนนี้ดูแลโดยรุ่นหลานที่สืบทอดสูตรลับตั้งแต่สมัยเหล่ากงเหล่าม่า คุณเฟิร์นเล่าย้อนไปว่าร้านโด่งดังจากการทำข้าวต้มปลากะพงและปลาเก๋า ส่วนข้าวต้มรวมมิตรและข้าวต้มแห้งเป็นเมนูที่ทำเพิ่มในยุคหลัง
ปลาเด่นๆ ของร้านแน่นอนว่าเป็นปลากะพงทะเล ปลาเก๋าทะเล และปลาเต๋าเต้ยตัวใหญ่ เรื่องความสดเชื่อใจทางร้านได้ การันตีด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน เมนูขายดีแน่นอนว่าเป็นเมนูดั้งเดิมอย่างข้าวต้มปลากะพงทะเล ชามนี้อิ่มกำลังดี เนื้อปลาสด ส่วนน้ำซุปหอมกลมกล่อม ซดแล้วคล่องคอ สบายท้อง กินกับน้ำจิ้ม 3 อย่างคือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว พริกน้ำส้ม และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน ใครไม่อยากกินข้าวเราแนะนำเกาเหลาเต๋าเต้ยและเกาเหลาเนื้อเก๋าให้ได้ฟินกับเนื้อปลาล้วน แบบจุใจ นอกจากนี้ยังมีข้าวต้มรวมมิตร หัวปลาเกาเหลา และข้าวต้มหัวปลาที่รอให้ทุกคนได้ลิ้มลอง กระซิบไว้ก่อนว่าร้านเริ่มตั้งโต๊ะให้นั่งได้ตอน 6 โมงเย็น อยากกินของอร่อยต้องรอหน่อยนะ
พิกัด : 439 ถนนหลวง แขวงเทพศิรินทร์ เขตพลับพลาไชย กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 18.00-22.00 (หยุดวันจันทร์) (เดลิเวอรีเริ่มสั่งได้ตั้งแต่ 17.00 น.)
โทร. 08-0599-9342
5. เซี่ยงกี่
ปิดท้ายที่เซี่ยงกี่ ร้านข้าวต้มเตาถ่านในตำนานแห่งเยาวราช เจ้าของสูตรลับจากอากงที่ถ่ายทอดกันมานานกว่า 90 ปี จนถึงตอนนี้น้ำซุปรสล้ำลึกกลมกล่อมจากการเคี่ยวด้วยเตาถ่านก็ยังเป็นที่โปรดปรานของลูกค้าอยู่เสมอ
ข้าวต้มปลาเต๋าเต้ยและข้าวต้มปลากะพงของร้านนี้จัดว่าเป็นทีเด็ด ใช้ปลาไซส์ใหญ่เนื้อสดหวาน ไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจ ลวกอย่างเชี่ยวชาญ จัดใส่ชามแบบท่วมข้าว แล้วจัดแจงราดน้ำซุปหอมกรุ่นลงไป ซึ่งใน 1 ชามทางร้านจะให้ทั้งส่วนเนื้อปลา ครีบ หาง และส่วนท้องมาครบ ใส่กุ้งแห้งหอมๆ โรยกระเทียมเจียวตบท้าย กินกับบะเต็งเค็มๆ หวานๆ เข้ากันดี นอกจากนี้ทางร้านยังขึ้นชื่อเรื่องข้าวต้มหอยนางรมที่ให้แน่นจนเต็มชาม หอยสดลวกพอสะดุ้ง ตักเข้าปากไปแล้วได้เนื้อสัมผัสนุ่มๆ กับรสทะเลแบบเต็มคำ เสริมทัพด้วยบะเต็ง กินกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเข้มข้น ซดเพลินจนขอสั่งอีกชาม
พิกัด : 54 ซอยบำรุงรัฐ ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 16.00-22.00 น.
โทร. 08-9968-6842
อัลบั้มภาพ 32 ภาพ