“บันทึก 5 วันการเดินทาง ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น”

“บันทึก 5 วันการเดินทาง ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น”

“บันทึก 5 วันการเดินทาง ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ตั้งอยู่ระหว่างกรุงโตเกียว (Tokyo) และฮอกไกโด (Hokkaido) ประกอบด้วย 6 จังหวัด ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นในท้องถิ่นที่หลงเหลืออยู่ ท่ามกลางธรรมชาติแสนงดงาม และภูมิภาคนี้ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้นมาก (จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยในปี 2562 เพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อนหน้า)

ในครั้งนี้ คุณพรรษณา นิคาอิโดะ นักเขียนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางไปยังภูมิภาคโทโฮคุ เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอันน่าทึ่งและความอบอุ่นของผู้คนผ่านสายตาของคนไทยที่ใช้ชีวิตในญี่ปุ่น โดยได้แบ่งปันบันทึกการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยได้เตรียมความพร้อมแพลนการท่องเที่ยวก่อนเปิดประเทศกันไปเลย

วันที่ 1 - จังหวัดมิยากิ (Miyagi)

ภัตตาคารโชเคคาคุ (Shokeikaku)


อดีตเคยเป็นคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเมจิ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นภัตตาคารที่ยังคงอบอวลด้วยกลิ่นอายในอดีต สามารถลิ้มรสอาหารชั้นเลิศที่เสิร์ฟออกมาจากตู้ลิ้นชักซึ่งทำจากไม้ และเหล็กสุดประณีต เรียกว่าตู้เซนไดทันสุ (Sendai Tansu) เป็นงานฝีมือขึ้นชื่อที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวของเมืองเซนได (Sendai) ประกอบไปด้วยซาชิมิ เทมปุระ เมนูย่าง เมนูนึ่ง ผักดอง ข้าวอบ ไปจนถึงของหวาน ทุกจานปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ทำให้ได้รสชาติอุมามิอย่างแท้จริง

ที่อยู่: 143-3 Hitokitanishi, Moniwa, Taihaku-ku, Sendai, Miyagi
เว็บไซต์: https://visitmiyagi.com/articles/shokeikaku/
แผนที่: https://goo.gl/maps/AM9bweWxfRX7h2Qq6

หมู่บ้านศิลปหัตถกรรมอะคิอุ (Akiu Traditional Crafts Village) 

 

หมู่บ้านศิลปะของเหล่าช่างฝีมือทั้ง 9 หลัง สามารถเยี่ยมชมการผลิตงานศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด และสัมผัสประสบการณ์การทำงานฝีมือต่าง ๆ ด้วยตัวเองผ่าน"การเพ้นท์สีตุ๊กตาโคเคชิ (Kokeshi)" เราสามารถวาดแต่งแต้มใบหน้า และลงสีลงบนตัวของตุ๊กตาได้ตามใจชอบ ตามขั้นตอนที่สอนให้เข้าใจได้ง่าย ทั้งสนุก และได้เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นไปพร้อม ๆ กัน แถมยังได้ของฝากที่มีชิ้นเดียวในโลกกลับบ้านไปด้วย

ที่อยู่: 54 Uehara, Yumoto, Akiu, Taihaku, Sendai, Miyagi
เว็บไซต์: https://www.tohokuandtokyo.org/spot_144/
แผนที่: https://goo.gl/maps/xA8XhH9GSCkP1q5w8 

 ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น้ำตกอะคิอุ (Akiu Otaki Falls) 


น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความกว้าง 6 เมตร ความสูงกว่า 55 เมตร ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามจนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สุดยอดน้ำตกที่เป็นจุดชมวิวชื่อดังของญี่ปุ่น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทิวทัศน์โดยรอบจะถูกย้อมกลายเป็นสีส้มปนเหลืองสลับแดงดูสดใสมีชีวิตชีวา ระหว่างทางเดินไปชมน้ำตกยังมีวัดอะคิอุ โอทะกิ ฟุโดซน (Akiu Otaki Fudoson) ด้านในมีต้นแปะก๊วยขนาดยักษ์ใบสีเหลืองทองงดงามช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ที่อยู่: Otaki, Baba, Akiumachi, Taihaku, Sendai, Miyagi 
เว็บไซต์: https://visitmiyagi.com/articles/akiu-otaki-falls/
แผนที่: https://goo.gl/maps/53EEU6sfZ3NsH86X8

ไดคงโนะฮานะ (Daikon no Hana)  

 

ที่พักสไตล์ญี่ปุ่นสุดหรู ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกว้างใหญ่ มีห้องพักประเภทวิลล่าจำนวน 18 หลัง พร้อมอนเซ็นส่วนตัว และห้องอาหารที่เสิร์ฟเมนูมื้อค่ำอาหารญี่ปุ่นแบบคอร์สสุดหรู นอกจากนี้ยังมีอนเซ็นกลางแจ้งของโรงแรมที่เป็นน้ำพุร้อนจากธรรมชาติทั้งหมด 4 บ่อ และบ่อรวมใหญ่ (แยกชาย- หญิง) 1 บ่อ น้ำร้อนของที่นี่ใส อ่อนโยนต่อผิวพรรณ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นอกจากการแช่อนเซ็นแล้วทางโรงแรมยังมีจักรยานไว้ให้ปั่นชมวิวรอบ ๆ ได้ด้วย

ที่อยู่: 21-7 Togatta Onsen Kitayama, Zao, Katta, Miyagi
เว็บไซต์: https://www.daikon-no-hana.com/en/
แผนที่: https://g.page/onsensansou_daikonnohana?share

วันที่ 2 - จังหวัดมิยากิ (Miyagi) และจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)

อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay)  

1 ใน 3 จุดชมวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนคือ “การพายซับบอร์ด (SUP Board)” ชมวิวอ่าวมัตสึชิมะ ที่รายล้อมด้วยเกาะแก่งน้อยใหญ่กว่า 260 เกาะ รวมทั้งหินผา ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดคือการถ่ายภาพตอนกำลังยืนอยู่บนซับบอร์ด โดยมีสะพานสีแดงหรือวิหารโกะไดโด (Godaido) วัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอ่าวมัตสึชิมะเป็นฉากหลัง สำหรับคนที่ไม่เคยพายก็ไม่ต้องกังวล เพราะไกด์จะอธิบายวิธีการพายที่ปลอดภัย และข้อควรระวังอย่างใจเย็น พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด

ที่อยู่: Matsushima, Miyagi
เว็บไซต์: https://www.yayusup.org/
แผนที่: https://goo.gl/maps/XsvpniUGFv95Mgzf8

 ภัตตาคารทะริทสึอัน (Taritsuan)    

 

ภัตตาคารเก่าแก่ที่สามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์อลังการของอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ที่นี่เสิร์ฟอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่คุณภาพดีจากในท้องถิ่นเป็นหลัก เมนูขึ้นชื่อ ได้แก่ “อะนาโงะ ฮิทสึมะบุชิ (Anago Hitsumabushi)” หรือข้าวหน้าปลาไหลทะเลย่าง เชฟของทางร้านคัดเฉพาะอะนาโงะ (Anago) หรือปลาไหลทะเลที่มีเนื้อหนา ย่างจนหอมกรุ่น ราดด้วยซอสหวานรสชาติเข้มข้นสูตรพิเศษซึ่งปรุงมาจากโชยุที่ ไม่ไกลจากตัวร้านยังมีจุดชมวิวอุมะโนะเสะ (Umanose) ที่ทอดยาวไปในทะเล คุณสามารถสั่งเบนโตจากที่ร้านไปนั่งทานอย่างผ่อนคลายได้ที่จุดชมวิวนี้

ที่อยู่: 132-2, Idojiri, Akanuma, Rifu-cho, Miyagi-gun, Miyagi
เว็บไซต์: https://www.ichinobo.com/taritsuan/ 
แผนที่: https://g.page/taritsuan?share

ฟาร์มเฮ้าส์ เซโฮเอ็น (Farmhouse Seihou-en)


ที่พักในรูปแบบฟาร์มสเตย์ของครอบครัวชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตัวบ้านมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 100 ปี ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นฟาร์มสเตย์ที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความเอาใจใส่และการต้อนรับที่อบอุ่นแบบโอโมเตะนาชิ (Omotenashi) ระหว่างเข้าพักสามารถทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อคุณแม่เจ้าของบ้านผู้ใจดีได้ เช่นการเก็บผักสด ๆ จากในไร่มาทำอาหารเอง ผักโขมสดไซส์ใหญ่ นำมาทำเป็นเมนูชาบูชาบู หรือทำขนมดังโงะ (Dango) โดยเรียนรู้วิธีทำตั้งแต่ตัวแป้งดังโงะไปจนถึงซอสราดเลยทีเดียว

ที่อยู่: 38 Shionosaku, Higashiniidono, Nihonmatsu, Fukushima
เว็บไซต์: https://seihouen.site/ 
แผนที่: https://goo.gl/maps/jT1gwHvEs9yYMcLz5

วันที่ 3 - จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)

เอบิสึ เซอร์กิต (Ebisu Circuit)

 

หนึ่งในสนามแข่งดริฟท์รถชั้นนำของโลก ที่มีเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขานิฮงมัตสึ (Nihonmatsu) สามารถสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเร้าใจในสนามแข่งจริงบน “Drift Taxi” รถแท็กซี่ดัดแปลงเป็นรถสำหรับดริฟท์โดยเฉพาะ แม้แต่คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์นั่งรถดริฟท์มาก่อนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ที่ขับรถให้เป็นนักแข่งดริฟท์มืออาชีฟระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น หลังจากสวมหมวกกันน็อคและนั่งเข้าที่ตามคำแนะนำแล้ว คนขับก็จะเร่งสปีดพาไปสำรวจสนาม และลองดริฟท์เบา ๆ จากนั้นจะเปลี่ยนไปดริฟท์อย่างรุนแรงดุดันมากยิ่งขึ้น ขณะที่นั่งบนรถดริฟท์จะได้ยินเสียงกระหึ่มและกลิ่นไหม้ของยางรถที่เสียดสีไปกับพื้นถนน สนุกเร้าใจในทุกโค้งแน่นอน

ที่อยู่: 1 Sawamatsukura, Nihommatsu, Fukushima
เว็บไซต์: http://www.ebisu-circuit.com/2019top/english3.pdf
แผนที่: https://goo.gl/maps/spEFCPLfKx82FSgg8

ซีฟู๊ด เรสเทอรองท์ เม็กซิโก (Seafoods Restaurant MEXICO) สาขาโคริยามะ (Koriyama) 

ร้านอาหารที่เน้นเมนูจากปูเป็นหลัก ภายใต้แนวคิด "คำนึงถึงเรื่องสุขภาพผ่านอาหารการกิน" ที่สาขาโคริยามะ (Koriyama) ตกแต่งอย่างร่มรื่นเหมือนกับยกสวนป่ามาไว้ในร้าน มีนกฟลามิงโกตัวจริงให้ดูอย่างใกล้ชิดระหว่างทานอาหาร เมนูอาหารมีหลากหลาย ได้แก่ สเต็ก พาสต้า อาหารญี่ปุ่น และอาหารเม็กซิกัน สำหรับเมนูเด็ดขึ้นชื่อคือ "คานิ พิราฟุ (Kani Pirafu)" ข้าวผัดดั้งเดิมของชาวเม็กซิกันซึ่งใส่ปูซุไว (Suwai Crab) ชิ้นโตในปริมาณที่ล้นหลาม กลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ในราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เมนูนี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า

ที่อยู่: 1 Kuneshita, Tomitamachi, Koriyama, Fukushima
เว็บไซต์: http://www.mehico.com
แผนที่: https://goo.gl/maps/8HSdrQjcyWsHDUq9A

สวนดอกโบตั๋นสุคะกาวะ (Sukagawa Peony Garden)

สวนดอกไม้เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมดอกโบตั๋นราว 7,000 ดอก กว่า 290 สายพันธุ์จะบานสะพรั่งทั่วทั้งสวน นอกจากดอกโบตั๋นแล้วในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณกลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ต้นโมมิจิจะผลัดใบ ย้อมให้ป่าทั่วทั้งบริเวณสวนกลายเป็นสีแดงสลับส้ม เหลืองสวยงาม เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดของทริปนี้ที่อยากแนะนำ ภายในสวนมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีกระจายไปทั่วทั้งสวน ตั้งแต่บริเวณทางเข้าหลักจะมีต้นโมมิจิเรียงรายไปตามทางเดินจนถึงบริเวณบ่อน้ำซึ่งมีสะพานทอดยาว เป็นจุดถ่ายภาพสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาด

ที่อยู่: 80-1 BotanenSukagawa, Fukushima
เว็บไซต์: https://fukushima.travel/destination/sukagawa-botan-en-peony-garden/154
แผนที่: https://goo.gl/maps/mpyJdQcPWwevpUQM6

อุระบันได เลค รีสอร์ต (Urabandai Lake Resort)

 

รีสอร์ตแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ รายล้อมด้วยทะเลสาบฮิบะระ (Lake Hibara) และภูเขาบันได (Mt. Bandai) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น บรรยากาศภายในรีสอร์ตตกแต่งอย่างหรูหรา มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสานกับความหรูหราคลาสสิคในสไตล์ยุโรป ภายในโรงแรมมีห้องอาหารฝรั่งเศส “Maple” ที่สามารถชมวิวทะเลสาบฮิบะระได้อย่างชัดเจน แนะนำให้รีบมาตั้งแต่ช่วงเย็นก่อนที่ท้องฟ้าจะมืด เพื่อจะได้ชมทัศนียภาพระหว่างทานอาหารไปด้วยได้ นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ รีสอร์ตยังมีกิจกรรมมากมายที่ผู้เข้าพักจะได้ใกล้ชิดธรรมชาติกันได้ทั้งครอบครัว เช่น สกี ทัวร์ เดินป่าท่ามกลางหิมะขาวโพลนด้วยสโนว์ชูส์ (Snow Shoes)

ที่อยู่: 1171-1 Yudaira-yama, Hibara, Kita-shiobara, Yama-gun, Fukushima
เว็บไซต์: https://www.lakeresort.jp/niji/
แผนที่: https://goo.gl/maps/yDNhQLwGTNgaxnA19

วันที่ 4 -จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)

ภูเขาอาดาตาระ (Mount Adatara) 

ภูเขานี้เป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงตุลาคมที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง และถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักปีนเขา อีกกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือการปั่นจักรยานล้อโต (Fat Bike) ชมธรรมชาติ สำหรับมือใหม่ หรือเด็ก ๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะจะมีการสอนวิธีขี่ให้ก่อน พร้อมทั้งมีไกด์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่างทางไกด์จะอธิบายเกี่ยวกับภูมิทัศน์ และบอกจุดถ่ายรูปสวย ๆ ไปพร้อม ๆ กับชมต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ 

ที่อยู่: 1-7, Dake Onsen, Nihonmatsu, Fukushima
เว็บไซต์: https://mt-inn.jp/th/  
แผนที่: https://goo.gl/maps/tRgjNf1f7D1y8qzD9

รถไฟสายเจอาร์ ทะดะมิ (JR Tadami Line) จากสถานี Aizu-Takada

 

รถไฟท้องถิ่นที่วิ่งเชื่อมระหว่างเมืองไอซุวะกะมัทสึ (Aizuwakamatsu) จังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima) และเมืองอุโอะนุมะ (Uonuma) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) ระหว่างที่โดยสารรถไฟจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางที่แตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล ช่วงปลายเดือนตุลาคมต้นไม้บนภูเขาจะเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นสีส้มแดงสลับกันไป ไฮไลท์สำคัญบนเส้นทางรถไฟสายนี้อยู่ที่ "จุดชมวิวและจุดถ่ายภาพยอดนิยมบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำทะดะมิ หมายเลข 1 (Tadami River First Bridge)" ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Aizu-Miyashita ในจังหวะที่รถไฟกำลังวิ่งข้ามสะพานนั้นถือเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด

ที่อยู่: Yanagidai, Aizumisato, Onuma, Fukushima
เว็บไซต์: https://tadami-line.jp/digital_book/pht_tadami-line_guidebook2020-english/HTML5/pc.html#/page/1 
แผนที่: https://goo.gl/maps/E9M6dMfMQ2YRja9j6

ร้านขนมโคอิเคะ (Koike Confectionary Shop)

 

อะวะมันจู (Awa Manju) เป็นขนมหวานขึ้นชื่อของเมืองยานาอิสุ (Yanaizu) ขนมอาวะมันจูทำมาจากข้าวฟ่าง และข้าวเหนียวสอดไส้ด้วยถั่วแดงกวน ถ้าอยากลิ้มลองรสชาติอาวะมันจูต้องนึกถึงร้านขนมโคอิเคะที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่น ทางร้านใช้ข้าวฟ่างและข้าวเหนียวจากเกษตรกรในท้องถิ่น 100% ไส้ถั่วแดงกวนโฮมเมดผลิตมาจากถั่วแดงที่ปลูกในญี่ปุ่น นอกจากอาวะมันจูแบบปกติแล้ว ทางร้านยังมีอาวะมันจูพิเศษตามฤดูกาล เช่น อาวะมันจูซากุระที่จำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรืออาวะมันจูเกาลัดที่สามารถทานได้เฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ลองทำอาวะมันจูด้วยตัวเองได้ด้วย

ที่อยู่: 206 Iwazakamachiko, Yanaizu, Kawanuma, Fukushima
เว็บไซต์: https://fukushima.travel/blogs/making-awamanju-in-yanaizu/86   
แผนที่: https://goo.gl/maps/Tw218xCdku76Wf9c8

ซะชิโกะ โคโบ โซโชอัน (Sashiko Kobou Soushoan)

 

ที่นี่เปิดสอนกิจกรรมการปักผ้าแบบ "ซะชิโกะ" (Sashiko) หรืองานฝีมือดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่จะนำเส้นด้ายไปเย็บปักลงบนเนื้อผ้า เพื่อให้เกิดลวดลายต่าง ๆ ทำให้เนื้อผ้ามีความทนทาน และช่วยให้ร่างกายอบอุ่นมากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชอบงานฝีมือหรือมือใหม่ก็สามารถเข้าร่วมได้ เพราะคุณครูจะคอยสอนได้ตั้งแต่เริ่มชิ้นงานจนจบสมบูรณ์อย่างใจเย็น จนได้เป็นผ้าผืนเล็ก ๆ ที่มีลวดลายสวยงามสไตล์ดั้งเดิมกลับไปเป็นของฝาก การปักผ้าต้องใช้ความประณีตจึงเป็นกิจกรรมที่ฝึกสมาธิได้ดีแบบหนึ่ง เรียกได้ว่าเป็นงานฝีมือที่แสดงถึงภูมิปัญญา และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อคนรับเลยก็ว่าได้

ที่อยู่: 1-1-11 Montomachi, Yonezawa, Yamagata
เว็บไซต์: https://sashiko.club
แผนที่: https://goo.gl/maps/ogvJ45qswk8Uk7R5A

คามิโนะยามะอนเซ็น ซากิยะ โฮเทล (Kaminoyama Onsen Sagiya Hotel)

โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นที่ผู้มาเยือนสามารถใช้เวลาสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด มีห้องพักหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งห้องพักที่มีอ่างอาบน้ำในห้อง หรือห้องพักที่มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งแบบส่วนตัวสำหรับแช่น้ำพุร้อนจากคามิโนะยามะอนเซ็น (Kaminoyama Onsen) นอกจากนี้ยังได้เต็มอิ่มกับอาหารแสนอร่อยที่ปรุงมาจากผักสด และข้าวที่เก็บเกี่ยวมาจากในโรงแรม พร้อมทั้งยังมี “เนื้อยามากาตะ (Yamagata Beef)” หนึ่งในเนื้อวัวขนดำที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ภายในโรงแรมมีกิจกรรมมากมายให้ทำทั้งเก็บผักสด ๆ จากแปลงผักในโรงแรม ไปเดินเล่นผ่อนคลายริมทุ่งนาฟังเสียงนกร้องสบายใจ หรือจะเล่นโยคะท่ามกลางธรรมชาติก็ได้

ที่อยู่: 283 Takamatsu, Kaminoyama, Yamagata
เว็บไซต์: https://www.sansorai.com/
แผนที่: https://goo.gl/maps/uUA6Xh8kGR57bZME8 

วันที่ 5 - จังหวัดยามากาตะ (Yamagata)

อุเอะสุงิ ฮะคุชะคุเท (Uesugi Hakushakutei)  และศาลเจ้าอุเอะสุงิ (Uesugi Shrine) 

 

อุเอะสุงิ ฮะคุชะคุเท คือ คฤหาสน์เก่าของอุเอะสุงิ โมชิโนริ (Uesugi Mochinori) เจ้าเมืองผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 14 ของตระกูลอุเอะสึงิ (Uesugi) นอกจากจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่แล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมมาสวมชุดกิโมโนทอแบบดั้งเดิมของโยะเนะซะวะ (Yonezawa Ori) ชุดเกราะซามูไร หรือชุดนินจา ออกไปเดินเล่นชื่นชมทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีในบริเวณรอบ ๆ หรือไปสักการะศาลเจ้าอุเอะสุงิ (Uesugi Shrine) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล หลังจากเดินเล่นจนทั่วแล้วยังสามารถแวะมานั่งพักจิบมัทฉะ หรือเพลิดเพลินไปกับไอศกรีมเจลาโต้หลากรสที่คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นพร้อมชมความงามของสวนสไตล์ญี่ปุ่นได้ด้วย

ที่อยู่: 1 Chome-3-60 Marunouchi, Yonezawa, Yamagata
เว็บไซต์: https://hakusyakutei.jp/   
แผนที่: https://goo.gl/maps/B3wmwR5SSXfriB2w6

ร้านเบโคยะ (Bekoya) 

 

ร้านอาหารที่เสิร์ฟเนื้อวัวโยะเนะซะวะ (Yonezawa Beef) ซึ่งเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) เคล็ดลับความอร่อยมาจากการคัดสรรเนื้อวัวคุณภาพสูง ลายหินอ่อนละเอียด มีไขมันแทรกอยู่อย่างพอดี รวมทั้งยังมีน้ำจิ้มสูตรเด็ดซึ่งใช้กรรมวิธีดั้งเดิมเหมือนตั้งแต่สมัยที่ก่อตั้งร้าน เมนูที่แนะนำให้ลองคือ สุกี้ยากี้เนื้อวัวโยะเนะซะวะ จะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักตามฤดูกาล พนักงานที่ร้านจะนำผักลงไปผัดพอสุกในกระทะแบน ๆ และนำเนื้อวัวใส่ลงไป พร้อมกับน้ำซุปขลุกขลิก เมื่อเนื้อเริ่มสุกก็จะให้จุ่มลงในไข่ดิบแล้วนำเข้าปาก จะได้สัมผัสนุ่มลิ้นของเนื้อนุ่ม รสชาติหวาน ที่ชุ่มไปด้วยไข่แบบเต็ม ๆ

ที่อยู่: 3-2-34 Higashi, Yonezawa, Yamagata
เว็บไซต์: https://www.yonezawagyudining.jp/
แผนที่: https://goo.gl/maps/VU1fTrGQ5YJvmWmS8

ย่านนาโนะกะมะจิ โกะเต็นเซกิ (Nanokamachi-Gotenzeki) 

 

ย่านร้านค้าที่มีทั้งร้านค้าเก่าแก่ ร้านค้าสไตล์โมเดิร์นผสมผสานวัฒนธรรมยุคเก่าและยุคใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างของย่านนี้คือทางระบายน้ำซึ่งทำจากหิน สามารถเดินเล่นชมเมืองเก่าอย่างผ่อนคลายพร้อมสนุกกับการช้อปปิ้งได้ ขอแนะนำซอฟท์ครีมชาเขียวรสเข้มข้นจากร้าน Iwabuchi Tea Stall ร้านชาเขียวเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 140 ปี ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนบริเวณหน้าร้านค้าจะแขวนลูกพลับตากแห้งที่ดูคล้ายกับม่านไว้อย่างละลานตา ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอย่างเต็มตัวของชาวญี่ปุ่น

ที่อยู่: 2-7-6 Nanokamachi, Yamagata
เว็บไซต์: https://www.visityamagata.jp/en/spot-yamagata-gotenzeki-en/
แผนที่: https://goo.gl/maps/h62VVLCQHWkHPMVC8 

ศูนย์การค้าเอส-พาล ยามากาตะ (S-PAL Yamagata) 

 

ศูนย์การค้าที่เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี JR Yamagata มีสินค้ามากมาย ตั้งแต่สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง ร้านอาหารและของฝากที่หาได้เฉพาะในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีร้านค้าปลอดภาษีให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งอย่างเต็มที่

ที่อยู่: 1 Chome-1-1 Kasumicho, Yamagata
เว็บไซต์: https://www.s-pal.jp/yamagata/th/
แผนที่: https://goo.gl/maps/pcCP2LBXPXVedWaJ7

เที่ยวสนุก สุขใจ กับมิตรไมตรีที่โทโฮคุ ญี่ปุ่น - ดูแหล่งท่องเที่ยวโทโฮคุได้อีกที่เว็บไซต์ https://www.jnto.or.th/tohoku2022/

[Advertorial] 

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ

อัลบั้มภาพ 21 ภาพ ของ “บันทึก 5 วันการเดินทาง ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุ ประเทศญี่ปุ่น”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook