5 เกาะภาคใต้ เที่ยวสนุก สบายใจ ช่วงซัมเมอร์

เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์เต็มตัวแล้ว มักจะเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการทะเล ความรู้สึกต้องการความสดชื่น และเพื่อเป็นการเติมพลังให้กับชีวิต ขอแนะนำ 5 เกาะทางใต้ของประเทศไทยที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก มาเก็บกระเป๋า ทำใจให้ผ่อนคลาย ปล่อยกายปล่อยใจพักผ่อนให้เต็มที่ไปพร้อม ๆ กับเกาะทั้ง 5 ดังต่อไปนี้

1.เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล

 

ถ้าเอ่ยถึงเกาะภาคใต้ ต้องไม่พลาดที่จะไปชมความงดงามของเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ซึ่งถือเป็นเกาะยอดนิยมในฝั่งทะเลอันดามัน ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะต้องไปให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นทะเลที่เรียกได้ว่า สวยจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายได้ครบองค์ประกอบจริง ๆ ไม่ว่าจะหาดทรายขาวละเอียดที่ตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกต รวมถึงฟ้าใส ๆ มองแล้วให้ความรู้สึกถึงชีวิตที่มีชีวาอย่างน่าประหลาด และยังมีจุดดำน้ำตามเกาะต่าง ๆ ที่สำคัญมีที่พัก ร้านอาหาร เดินทางสะดวกสบายสุด ๆ

2.เกาะหินซ้อน จังหวัดสตูล

 

ใครชอบความโรแมนติก ขอแนะนำว่าต้องไปเยือนเกาะหินซ้อนที่เป็นหนึ่งใน หมู่เกาะดง เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูลดูสักครั้ง เพราะตั้งแต่ที่ย่างเท้าเหยียบเกาะ ก็จะพบเจอความอัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว นั่นก็คือ ก้อนหินที่ซ้อนกันสองก้อน ในบางมุมหากมองจากไกล ๆ หลายคนอาจมองเป็นน้องหมา แต่อีกมุม บางคนก็อาจมองว่าเป็นเรือดำน้ำ ดังนั้นจุดนี้ จึงถือเป็นแลนด์มาร์คของเกาะหินซ้อนเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพายเรือคายัคกับดำน้ำรอบเกาะ ชมปะการังหลายชนิด รวมถึงดอกไม้ทะเลหลากสี และฝูงปลาหลากชนิด โดยเฉพาะปลาน่ารักปุ๊กปิ๊กอย่างปลานีโม ส่วนความโรแมนติกที่กล่าวไว้ก็คือ หลังจากชื่นชมความสวยรอบ ๆ เกาะแล้ว ตกเย็นสามารถนั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดินชิลล์ ๆ ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจได้อีกด้วย

3.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

 

สำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์นี้ บอกได้เลยว่า ใครมาต้องพูดได้ว่าครบรสอย่างแท้จริง เพราะมีกิจกรรมทั้งการดำน้ำที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังได้สัมผัสธรรมชาติกับน้ำทะเลสีเขียวใส หาดทรายขาวเนียนละเอียด นุ่มทุกการก้าวเดิน และยังได้พบกับวิถีชีวิตชุมชนของชาวมอแกนที่พบเห็นที่ไหนไม่ได้อีกด้วย และในส่วนเรื่องที่พักนั้นก็จะมีทั้งลานกางเต็นท์ หรือจะเป็นบ้านพักก็แล้วแต่ความสะดวกของนักท่องเที่ยวแต่ละท่านจะเลือกสรร

4.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่คนรักทะเลต้องจัดให้อยู่ในลิสต์ว่าต้องมาเที่ยวชมให้เห็นด้วยตาตัวเอง และได้สัมผัสสายลม แสงแดด เกลียวคลื่นให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นทะเลที่ชวนฝัน สวรรค์ของนักท่องเที่ยวก็ว่าได้ ก่อนอื่นต้องเล่าบอกก่อนว่า อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองนี้ ตั้งอยู่ในอ่าวไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เกาะต่าง ๆ อีกกว่า 40 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะนั้นต่างก็ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นวิวยอดเขา หรือสีของน้ำทะเลที่สวยสดงดงามท่ามกลางความเงียบสงบ พูดได้ว่าใครมาเห็นเป็นต้องประทับใจอย่างแน่นอน

5.อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา

เมื่อกล่าวถึงอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา สำหรับใครที่เคยมาแค่หลับตาได้นึกถึง ก็สัมผัสได้กับความครบรสของบรรยากาศทะเลที่มีความสมบูรณ์ในทุก ๆ เรื่อง เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องขององค์ประกอบอย่างความสงบ ทะเลสวย หาดแจ่ม และเกาะที่หลากหลาย ยังครอบคลุมถึงป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ยังคงสภาพธรรมชาติดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี จึงไม่น่าแปลกใจว่าหากใครที่มาแล้วก็มักจะได้กลับมาเที่ยวอีก และมีการไปบอกต่อกันปากต่อปากอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เที่ยวทั้งทีต้องผ่อนคลาย สะดวกสบายทั้งการติดต่อสื่อสาร และเมื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินต้องเข้าถึงแพทย์ได้ทันที

 

เมื่อมาพักผ่อนแน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องการความสะดวกสบาย ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของที่พัก และอาหารการกินแล้ว เรื่องการติดต่อสื่อสารก็มีความสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะโทร แชต เล่นเน็ต เกาะติดโลกโซเชียล รวมถึงในยามจำเป็นฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย หรือ อุบัติเหตุต่างๆ ก็ไม่ต้องกังวล เพราะทรูมูฟ เอช ดูแลคุณภาพสัญญาณและเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งบนบก บนเกาะ หรือในทะเล โดยขับเคลื่อนโครงการ First Mover Best User Experience วางกลยุทธ์เชิงยุทธศาสตร์ การปรับปรุงคุณภาพสัญญาณ และการบำรุงรักษา เพื่อให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น อย่างเช่นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยทีมวิศวกรเครือข่ายได้ลงพื้นที่ภาคใต้ เตรียมความพร้อมรับฤดูกาลท่องเที่ยว สำรวจสัญญาณในทุกเกาะ ทุกตำแหน่งสำคัญ ตลอดจนกลางทะเล เส้นทางที่มีการสัญจรของเรือโดยสารอยู่ตลอดเวลา และเนื่องจากพื้นที่บนเกาะบางแห่งจะพบปัญหาไฟดับบ่อย ทีมวิศวกรจึงได้เข้าไปตรวจเช็กและปรับปรุงระบบพลังงานสำรอง (Power Supply) ที่มีทั้งโซล่าร์เซลล์ แบตเตอรี่ เจนเนอเรเตอร์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการจ่ายไฟให้กับสถานีฐาน (Base Station) เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจได้ว่าจะมีกระแสไฟฟ้าสำรองพร้อมให้ชุมชนใช้งานสื่อสารได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และยิ่งถ้าเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน ก็สามารถพบแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอดี” (Mordee) ปรึกษาปัญหาสุขภาพเบื้องต้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีบริการส่งยาถึงบ้านหรือที่พัก เรียกได้ว่าหมออยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วสัมผัสก็ว่าได้  

เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม ก็เก็บกระเป๋าตะลุยทะเลต้อนรับซัมเมอร์กันเลย!