ถ้ำปู่นาคา วัดแก่งคอย เมืองบาดาลแห่งสระบุรี
หากคุณชอบการท่องเที่ยวแนวสายมู พร้อมเรียนรู้เกร็ดประวัติศาสตร์ และยังเดินทางใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว ขอแนะนำ ถ้ำปู่นาคา วัดแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี บอกเลยว่าตอบโจทย์อย่างมาก เพราะสถานที่แห่งนี้เดินทางสะดวก มีเรื่องราวมากมายให้ศึกษา และยังน่าเก็บภาพสวย ๆ เพราะภายในถ้ำตระการตา สุดปังอลังการมาก ๆ
เรื่องราวของวัดเก่าแก่ ตำนานลูกระเบิดด้าน สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
วัดแก่งคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2330 แรกเริ่มเดิมทีชื่อว่า วัดแร้งคอย ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดแก่งคอย วัดแห่งนี้มีเรื่องราวเล่าขานกันมายาวนาน เกี่ยวกับลูกระเบิดในตำนานนั่นเอง ซึ่งเรื่องก็มีอยู่ว่า
ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 กลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกา ได้นำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดที่อำเภอแก่งคอย ส่งผลให้สถานที่ราชการ ตลาด วัด ตลอดจนบ้านเรือนของประชาชนเกิดเพลิงไหม้ มีผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ชาวแก่งคอยที่รอดชีวิตต้องหาที่พึ่งหลบลูกระเบิดภายในวัดแก่งคอย ซึ่งในสมัยนั้นหลวงพ่อลาเป็นเจ้าอาวาส
ช่วงเวลานั้นเองลูกระเบิดก็ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่ก็เกิดความอัศจรรย์เกินกว่าที่ใครจะนึกถึง เพราะลูกระเบิดเกิดด้าน ทำให้ชาวแก่งคอยรอดชีวิตมาได้ในที่สุด
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อมาทางวัดจึงได้สร้างอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น นอกจากนี้ในวันที่ 2-3 เมษายน ของทุกปี ทางอำเภอแก่งคอยยังได้มีการจัดงาน “ย้อนรอยแก่งคอยสงครามโลก” ภายในงานมีการตกแต่งสถานที่จำลองในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนแต่งตัวย้อนยุคอย่างสวยงาม มีการแสดงแสง สี เสียง ริมแม่น้ำป่าสัก สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ก็มีขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษวิ่งตรงมาที่สถานีชุมทางแก่งคอยโดยเฉพาะ
นอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ สายมูต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะที่วัดแก่งคอยมี “ถ้ำปู่นาคา” ที่สวยงามเหมือนกับภาพวาด ราวกับได้ลงไปอยู่ในโลกใต้บาดาลเลยก็ว่าได้
สัมผัสถ้ำปู่นาคา เนรมิตโลกใต้บาดาลที่อยู่บนดิน
ก่อนเข้าสู่ถ้ำปู่นาคา นักท่องเที่ยวจะพบกับเจดีย์ศรีป่าสัก ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังวัด โดยองค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ และเมื่อสักการะบูชาแล้ว เดินถัดเข้าไปจะพบรูปปั้นพญานาค 2 องค์ อยู่ขนาบข้างปู่ฤาษี ที่ด้านหลังเป็นแม่น้ำป่าสัก ส่วนถ้ำปู่นาคาจะอยู่ทางขวามือ ก่อนเข้าสู่ตัวถ้ำจะมีบันไดขึ้นไปด้านบนเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้สักการะบูชาพระธาตุอินแขวนสีทอง แห่งประเทศพม่าแบบจำลอง
เมื่อสักการะบูชาพระธาตุอินแขวนสีทองแบบจำลองเพื่อความเป็นสิริมงคลเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเข้าไปสัมผัสความสวยงามของถ้ำปู่นาคา เมื่อก้าวย่างเข้าไปจะรู้สึกเหมือนได้อยู่ในโลกใต้บาดาลเลยทีเดียว ในถ้ำแห่งนี้มีทั้งรูปปั้นพญานาค องค์ปู่ฤาษี และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สายมูได้ขอพรกันเต็มที่ และบอกเลยว่านอกจากนักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจกับรูปปั้นพญานาคองค์ใหญ่ที่ดูเหมือนกับเลื้อยโค้งไปโค้งมาแล้ว ต้องอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพแสงสีอันสวยงามจากการประดับประดาหลอดไฟหลากสีไปตลอดอาณาบริเวณภายในถ้ำที่กว้างขวาง ซึ่งสามารถเดินทะลุถึงกันได้ในหลาย ๆ จุด บอกเลยว่าเดินไปถ่ายรูปไปเพลินสุด ๆ
ได้เข้าไปชมถ้ำสวย ๆ และเก็บภาพที่น่าประทับใจกันแล้ว แน่นอนว่าใคร ๆ ก็ต้องอยากโพสต์ลงโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ อวดความสวยงามให้ครอบครัวและเพื่อนได้เห็นไปพร้อมกัน แต่หลายคนอาจจะคิดว่า ภายในถ้ำซึ่งเป็นพื้นที่ปิดทึบ จะต้องไม่มีสัญญาณมือถือแน่ ๆ ต้องรอกลับออกมาถึงจะเล่นโซเชียลได้ สำหรับถ้ำปู่นาคา วัดแก่งคอย บอกเลยว่า ไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้เลย
เที่ยวอย่างสบายใจ ต้องติดต่อได้ ใช้โซเชียลสะดวก
ถ้ำปู่นาคา วัดแก่งคอยแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ เพราะนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีต่อใจแล้ว เรื่องของอาหารการกินก็หาง่ายเพราะภายในบริเวณวัดมีร้านขายของกินอร่อย ๆ มากมาย และนอกจากเรื่องของอาหารซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำหรับการท่องเที่ยวแล้ว อีกสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ไม่แพ้กันก็คือเรื่องของการติดต่อสื่อสาร ที่ไม่ว่าไปที่ไหนต้องติดต่อได้สะดวก นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวถ้ำปู่นาคา วัดแก่งคอยก็สบายใจคลายกังวลได้ เพราะที่นี่มี TRUE 5G ที่ช่วยตอบโจทย์ทั้งเรื่องของสัญญาณที่แรงและเสถียร โทรติดต่อได้ง่าย หรือจะใช้โซเชียลมีเดียก็ลื่นไหลไม่สะดุด ไม่ว่าจะในถ้ำหรือนอกถ้ำ ส่วนใครต้องการจะไลฟ์ รวมถึงถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ก็สามารถทำได้ทันทีเช่นกัน สะดวกสบายมาก ๆ หรือถ้าเดินเที่ยวนาน ๆ แล้วรู้สึกเหนื่อย อยากพักสักนิด ก็สามารถหาที่นั่งพักดูซีรีส์ เล่นเกมออนไลน์แบบไหลลื่น ริมแม่น้ำป่าสัก ฟิน ๆ กันไปอีกแบบ เรียกได้ว่าอยู่กับทรูก็จะมีเทคโนโลยีที่เร็วและแรง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้ในทุกที่ ทุกเวลา
การได้เปิดหูเปิดตาในสถานที่ใหม่ ๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเยียวยาจิตใจในวันที่พลังชีวิตเริ่มหมด ฉะนั้นหากในเวลานี้ใครรู้สึกเหนื่อยหนัก ให้วางและพัก ออกเดินทางเพื่อชาร์จพลังและกลับมาใช้ชีวิตให้มีความสุขกันดีกว่า