ครบ 7 ปี กำเนิดพญานาค 7 เศียร นครพนม จากพลังศรัทธาสู่การพัฒนาการท่องเที่ยว

ที่ จ.นครพนม ย้อนไปเมื่อปี 2559 ถึงปัจจุบัน ครบรอบ 7 ปี  นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ จ.นครพนม ภายหลังมีผลักดันก่อสร้างแลนด์มาร์คเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่ ของชาว จ.นครพนม รวมถึงเป็นการสร้างสัญลักษณ์เมืองการค้าเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ภายใต้ความเชื่อเกี่ยวกับ องค์พญานาค ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ที่ดูแลปกปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รวมถึงองค์พระธาตุพนม ภายหลังมีการวางแผนออกแบบก่อสร้างมานานเกือบ 5 ปี จนกระทั่งสมบูรณ์แบบ นำมาประดิษฐาน เมื่อปี 2559 ได้นามว่า องค์พญาศรีสัตตนาคราช  ได้ถูกก่อสร้างขึ้นด้วยโลหะทองเหลือง เป็นองค์พญานาคขดตัวชูเศียรพ่นน้ำ จำนวน 7 เศียร มีความสูงตั้งแต่ฐานลำตัว ประมาณ 9 เมตร ขดลำตัวกว้างประมาณ 6 เมตร และตั้งบนแท่นประดิษฐานสูง ประมาณ 5 เมตร มีน้ำหนักรวมประมาณ 9 ตัน โดยจะประดิษฐานหันหน้าไปทางน้ำโขง พ่นน้ำทั้ง 7 เศียรลงสู่แม่น้ำโขง ใช้งบประมาณเฉพาะองค์พญานาค ประมาณ 9 ล้านบาท ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่มีความสวยงาม โดดเด่น เชื่อมกับเส้นทาง 3 ที่สุด ของ จ.นครพนม ประกอบด้วย สวยที่สุด คือ 1. สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นครพนม – คำม่วน 2. งามที่สุด จะเป็นตัวเมืองที่มีความสวยงามเรื่องวิวทิวทัศน์ 2 ฝั่งโขง รวมถึงองค์พญานาคแลนด์มาร์ค และ 3. ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คือ องค์พระธาตุพนม ที่จะเป็นจุดขาย ประชาสัมพันธ์กระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ดึงดูดประชาชน นักท่องเที่ยว สนใจมาเที่ยวชม ทำให้ปัจจุบัน นครพนม มีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวพักผ่อน เพิ่ม หลายเท่าตัว จากข้อมูลเคยมี นักท่องเที่ยว เฉลี่ยปีละ 4 -5 แสนคน เพิ่มเป็นปีละเกือบ 2 ล้านคน ในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา รวมถึงปัจจุบันถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด แต่ยังมีประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่ไม่ขาดสาย ส่งผลดีต่อ ภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ถูกจับจองเต็ม ทุกวันหยุดยาว หรือช่วงวันสำคัญต่างๆ

ทั้งนี้ ในช่วง วันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี จังหวัดนครพนม จะได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง จัดงานประเพณีสำคัญขึ้น คือ งาน บวงสรวงบูชาองค์พญาศรีสัตตนาคราช นอกเหนือจาก งานประเพณีไหลเรือไฟออกพรรษา ประจำปี รวมถึงงานนมัสการองค์พระธาตุพนม โดยปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 7 – 13 กรกฎาคม 2565 ส่วนไฮไลน์ของการจัดกิจกรรม ทุกวันจะมีการจัดรำบวงสรวง เพื่อเป็นสิริมงคล โดยมีสาวงาม จากชนเผ่าต่างๆ รวม 8 ชนเผ่า ทั้ง 12 อำเภอ เข้า รวมวันละกว่า 500 คน ในชุดพื้นเมืองประจำชนเผ่า  แสดงออกถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่เป็นเอกลักษณ์ของ จ.นครพนม    ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ ชื่นชม ถึงความสวยงาม อลังการ และความอ่อนช้อยงดงาม อีกทั้งเป็นการเชิญชวนประชาสัมพันธ์กระตุ้น เศรษฐกิจการท่องเที่ยว หลังมีการปลดล็อกจากสถานการณ์โควิด ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย ชาวลาว มาร่วมกราบไหว้ขอพร แสดงออกถึงความเคารพศรัทธา ซึ่งตลอดช่วง 7 ปี ที่ผ่านมา หลังการก่อสร้าง มีประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เคารพศรัทธา ได้โชคลาภ ถูกรางวัลที่ 1 มาหลายครั้ง มากสุด ได้รับรางวัล มากกว่า 90 ล้านบาท เมื่อปี 2561

นายพิเชฏฐ์ หลั่งทรัพย์ ประธานชมรมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพุทธศิลป์และการท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า ชาวลุ่มน้ำโขงมีความเชื่อศรัทธาเกี่ยวกับองค์พญานาคมายาวนาน เชื่อว่าเป็นผู้ปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม ตามตำนานความเชื่อ ที่เกี่ยวข้องกับองค์พระธาตุพนม มาแต่อดีต ทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอยากมาก โดยเฉพาะพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง พระสุนทรธรรมากร  หรือ หลวงปู่คำพันธ์  โฆสปัญโญ  อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สายวิปัสนากรรมฐาน  ซึ่งเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีศิษยานุศิษย์เคารพศรัทธา และได้ฉายาว่าเทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง ได้เคยทำนายไว้ว่า ก่อนที่จะละสังขาร เมื่อปี 2546 จะมีการอัญเชิญองค์พญานาค พญาศรีสัตตนาคราช พญานาค 1 ใน 9 ขององค์ นาคาธิบดีแห่งสองฝั่งโขง ทั้งไทย และลาว ที่เป็นพญานาคที่มีบุญบารมีคู่กับ องค์พ่อปู่ศรีสุธโธนาคราช ผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม จะมาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับ จ.นครพนม  จนกระทั่งมีการก่อสร้าง แลนด์มาร์คศักดิ์สิทธิ์ขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับ จ.นครพนม ภายในระยะเวลา 5 -6 ปี ทั้งเศรษฐกิจการค้าขาย คึกคัก มีประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ส่งผลดีต่อประชาชนในพื้นที่ โรงแรม ร้านค้าร้านอาหาร เกิดขึ้นจำนวนมาก จนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ของอีสาน อีกทั้งยัง มีองค์พระธาตุพนม รวมถึงพระธาตุประจำวันเกิด 8 พระธาตุ ใครได้มีโอกาสมากราบไหว้ขอพร ถือเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิต ยิ่งในช่วงวันสำคัญ วันที่ 7 เดือน 7 จะมีการบวงสรวงองค์พญาศรีสัตนาคราช ทำให้บรรยากาศคึกคักทุกปี  ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวสายศรัทธามาร่วมรำบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช 7วัน 7 คืน เสริมความเป็นสิริมงคลให้ชีวิต  ซึ่งโอกาสดีดี แบบนี้ ใน 1 ปี มีครั้งเดียว  เท่านั้น ถ้าไม่มาปีนี้ต้องรออีกทีปีหน้า