เคยลองกันไหม? ข้าวปุ้นน้ำนัวกะปิปลาร้า สูตรเด็ดถิ่นเรณูนคร นครพนม

ที่ จ.นครพนม หากประชาชน นักท่องเที่ยว ได้มีโอกาสมาท่องเที่ยว ยัง อำเภอเรณูนคร จ.นครพนม ถือเป็นอำเภอท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่ง ของ จ.นครพนม ที่เป็นที่สนใจ เนื่องจากเป็นถิ่นชนเผ่าผู้ไท ถิ่นอันได้ชื่อว่าสาวงาม เนื่องจากมีบรรพบุรุษอพยพย้ายถิ่นมาจาก เวียดนาม ก่อนที่จะมาอยู่ที่เมืองเว เรณูผู้ไท ในปัจจุบัน ทำให้เป็นชนเผ่าที่มีผิวพรรณดี ถือเป็นชนเผ่าที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมที่โดดเด่น เกี่ยวกับการฟ้อนรำผู้ไทแบบศิลปะชาวผู้ไท มีภาษาเป็นของตัวเอง โดยสืบสานมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ยังคงสืบทอดมาจากอดีต ที่สำคัญหากใครที่มาเยือน อ.เรณูนคร สิ่งที่พลาดไม่ได้จะต้องได้มีโอกาสมากราบไหว้ขอพร องค์พระธาตุเรณูนคร เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันอังคาร รวมถึงจะได้มีโอกาสไปกราบไว้ขอพร เจ้าปู่ถลา บรรพบุรุษ เจ้าเมืองนักรบเป็นที่เคารพสักการะของชนเผ่าผู้ไท เชื่อว่าใครได้ไปกราบไหว้ขอพรจะมีโชคลาภ ถือเป็นสิริมงคลกับครอบครัว

นอกจากนี้เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาเยือน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ประชาชน นักท่องเที่ยว จะได้ลิ้มรสความอร่อย ของเมนูสุดแซบ อาหารพื้นบ้านรสเด็ด ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวผู้ไท ที่สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้มาจากอดีต ถึงปัจจุบัน ทำให้บางรายร่ำรายจากอาชีพดังกล่าว คือ ข้าวปุ้น หรือ ขนมจีน ถือเป็นต้นตำหรับข้าวปุ้น ดั้งเดิมของอีสาน ที่ผสมน้ำนัว จากน้ำกะปิ น้ำปลาร้า ที่ปรุงรสแบบธรรมชาติ ทำให้มีความอร่อย ไม่เหมือนใคร  ที่สำคัญแป้งข้าวปุ้น จะผลิตจะแป้งข้าวเหนียวธรรมชาติ ข้าวปุ้นจะต้องคั้นสดใหม่ทุกจาน ทำให้ได้รสชาติถึงความ หอมอร่อย เมื่อนำมาปรุงรส กับ น้ำยา น้ำกะปิ ปลาร้า จะได้ลิ้มรสของความอร่อยอีกรูปแบบ บวกกับรับประทานกับรวมผักสด ผักลวก ตามความชอบ  กลายเป็นเมนูขึ้นชื่อ ที่ประชาชน นักท่องเที่ยว มาเยือน อ.เรณูนคร จ.นครพนม ต้องได้ชิม ถึงจะถือว่า มาถึงเมืองเวเรณูนคร ส่วนราคาขายจานละ 10 -20 บาท เท่านั้น  แต่สร้างรายได้วันละหลาย 1,000 บาท นับเป็นอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สร้างรายได้เงินหมุนเวียนสะพัด มายาวนาน ทำให้ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ พัฒนาเป็นแพคเกจใหม่ ในรูปแบบของข้าวปุ้นสำเร็จรูป ส่งขายทั่วประเทศ สามารถนำไปลวกน้ำร้อน ปรุงรับประทานได้เลย

ด้าน นางปัดจิน คัดทะจันทร์ อายุ 68 ปี หรือยายจิน เจ้าของร้านข้าวปุ้นใต้ถุน เปิดเผยว่า ตนสืบสานอาชีพข้าวปุ้น ภูมิปัญญาชาวบ้าน มานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่พ่อแม่ จนมาถึงรุ่นลูกหลาน ถือเป็นข้าวปุ้นต้นตำหรับ ของชาวผู้ไท มีสูตรเด็ดสำคัญจะต้องทำจากแป้งข้าวเหนียมคุณภาพ เริ่มจากในอดีตมาจากการตำครก จนมาพัฒนาใช้เครื่องบดสำเร็จรูป แต่ยังคงการบีบสดไว้ โดยจะต้องเป็นแป้งข้าวเหนียวที่มีคุณภาพ ผ่านการหมักด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ก่อนออกมาเป็นแป้งข้าวปุ้น นำมาบีบสดใส่น้ำร้อน แล้วตกขึ้นมาล้างน้ำเย็น เป็นเส้นข้าวปุ้นคั้นสด สะอาด สดคุณภาพ มีกลิ่นหอม ส่วนน้ำข้าวปุ้น จะรับประทานกับน้ำ กะปิ และปลาร้าน้ำนัว ถือเป็นต้นตำหรับข้าวปุ้นชาวผู้ไทเรณูนคร  มีเครื่องเคียงคือผักสด หรือผักลวก แล้วแต่ลูกค้าชอบ ส่วนน้ำจะทำจากน้ำกะปิ และปลาร้า ธรรมชาติ ที่ผ่านการต้มสุดสะอาด ถูกหลักอนามัย ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้มายาวนาน จนปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นแพคเกจ ข้าวปุ้นสำเร็จรูปเพื่อความสะดวกสำหรับลูกค้าอยู่ต่างจังหวัดนำไปรับประทาน