11 จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี โซล สวยโรแมนติกเหมือนในซีรีส์

เหลืออีกแค่ประมาณเดือนกว่าๆ ฤดูใบไม้ร่วง ที่ประเทศเกาหลีก็จะกลับมาอีกครั้ง..!! โดยปกติฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลีจะอยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน พิกัดยอดฮิตสำหรับการชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีก็จะอยู่ตามป่าเขา หรืออุทยานต่างๆ แต่ถ้าใครไม่อยากเดินทางออกนอกเมือง เที่ยวในเมืองหลวงที่ กรุงโซล ก็มีสถานที่สวยๆ บรรยากาศดีให้เราได้ไปถ่ายรูปปังๆ กับวิวใบไม้เปลี่ยนสีเช่นกัน แถมอยู่ในเมืองก็ได้ฟีลไปอีกแบบ อย่างกับอยู่ในซีรีส์เลย พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ชวนมาปักหมุด 11 จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี โซล เอาไว้ไปฟินกับธรรมชาติ ใครไป ทัวร์เกาหลี ต้องจด…!

1.พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace)

สถานที่แรกที่พี่เห็ดจะพาไปชม ใบไม้เปลี่ยนสี โซล นั่นก็คือ พระราชวังด็อกซูกุง (Deoksugung Palace : 덕수궁) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล เป็นพระราชวังที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของเกาหลี และสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกได้อย่างลงตัว พอถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภายในพื้นที่ของพระราชวังก็จะเต็มไปด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ล้อมรอบอาคารทรงเก่าแก่ ขึ้นไปชมจากมุมสูงก็จะเห็นวิวที่สวยงามมากๆ

เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 วอน, เด็ก (อายุ 7-18 ปี) 500 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี, ผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี และผู้ที่ใส่ชุดฮันบก เข้าชมฟรี
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน หรือ สาย 2 สีเขียว ลงสถานี City Hall ทางออก 1
แผนที่ : https://goo.gl/maps/5xj965NRikLpBQ3S8

2.ถนนชองดง (Jeongdong-gil)

นอกจากภายในพระราชวังด็อกซูกุงแล้ว บริเวณถนนเลียบกำแพงพระราชวัง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ถนนชองดง (Jeongdong-gil : 정동길) ถนนที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกสุดๆ เป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโซลเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยจะมีคู่รักมากมายพากันมาเดินเล่นที่ถนนแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ตลอดทั้งถนนจะเต็มไปด้วยสีเหลืองทองของใบแปะก๊วย ใครเช่าชุดฮันบกใส่เข้าวังแล้ว อย่าลืมเดินมาถ่ายรูปบริเวณนี้กันต่อ ได้รูปสวยแน่นอน

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 1 สีน้ำเงิน หรือ สาย 2 สีเขียว ลงสถานี City Hall ทางออก 1
แผนที่ : https://goo.gl/maps/8UsnsS5vKcVQmVPL7

3.พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)

จุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี โซล ที่ต่อมาคือที่ พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace : 경복궁) เป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุด มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงโซล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่บรรดา ทัวร์เกาหลี หรือแม้แต่ผู้ที่ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ต่างก็ต้องแวะเวียนไปเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่อลังการของพระราชวังแห่งนี้ตลอดทั้งปีอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี พระราชวังเคียงบกกุงก็จะกลายเป็นฉากหลังของบรรยากาศอันแสนโรแมนติกราวกับอยู่ในซีรีส์เกาหลีย้อนยุค ซึ่งถ้าเราใส่ชุดฮันบกมาเที่ยวพระราชวังก็สามารถเข้าชมได้ฟรีเลยค่ะ

เวลา เปิด-ปิด : 09.00 – 18.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,000 วอน, เด็ก (อายุ 7-18 ปี) 1,500 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี, ผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี และผู้ที่ใส่ชุดฮันบก เข้าชมฟรี
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม ลงสถานี Gyeongbokgung Palace ทางออก 5
แผนที่ : https://goo.gl/maps/ZR1M68JNW9BFhKh28

4. สวนสาธารณะซัมชอง (Samcheong Park)

ใครอยากชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสี โซล ให้จุใจ ต้องมาที่ สวนสาธารณะซัมชอง (Samcheong Park : 삼청공원) เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเกาหลีเอง ที่มาชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่โอบล้อมสวนสาธารณะแห่งนี้ สูดอากาศสดชื่นท่ามกลางธรรมชาติในเมืองหลวง บรรยากาศสงบ เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนชิลๆ โดยคนเกาหลีมีความเชื่อแบบน่ารักๆ กันว่า ถ้าได้มาเดทกับคนรักที่สวนสาธารณะซัมชองแห่งนี้ ในอนาคตก็จะได้แต่งงานกันค่ะ ก็เลยจะเห็นคู่รักมาเดินเล่นที่นี่กันเต็มไปหมด

เวลา เปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม ลงสถานี Anguk ทางออก 1 เดินมุ่งหน้าไปยังพระราชวังเคียงบกกุง แล้วเลี้ยวขวาเดินเลียบกำแพงวังไปจนสุดถนนก็จะเจอกับ สวนสาธารณะซัมชองดง
แผนที่ : https://goo.gl/maps/YMVSBJvqirxHhwrD9

5. อุทยานนัมซานพาร์ค (Namsan Park) และ หอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower)

อุทยานนัมซานพาร์ค (Namsan Park : 남산공원) เป็นสวนสาธารณะบนภูเขากลางกรุงโซลที่มีชื่อเสียง ที่ทั้งชาวเกาหลีและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาพักผ่อน เดินชมธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับวิวสวยๆ ของกรุงโซล บริเวณยอดเขาเป็นที่ตั้งของ หอคอยเอ็นโซลทาวเวอร์ (N Seoul Tower : 엔 서울타워) โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่ปกคลุมภูเขาทั้งลูก ใครมาเที่ยวกับแฟนต้องไม่พลาดไปเช็กอินบริเวณระเบียงดาดฟ้า ที่สามารถคล้องกุญแจแห่งความรักกันด้วยนะคะ

เวลา เปิด-ปิด N Seoul Tower : เปิดทุกวัน 10.00 – 23.00 น. (วันเสาร์ 10.00 – 00.00 น.)
ค่าเข้าชม Observatory : ผู้ใหญ่ 16,000 วอน, เด็กและผู้สูงอายุ  12,000 วอน
การเดินทางไป N Seoul Tower :
– เคเบิ้ลคาร์ นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานี Myeongdong ทางออก 3 แล้วเดินเข้าซอยทางขวามือของโรงแรม Pacific Hotel ตรงไปตามถนนประมาณ 10-15 นาทีก็จะถึงสถานีเคเบิ้ลคาร์
– รถบัสเวียนนัมซาน นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 สีฟ้า ลงสถานี Chungmuro ทางออก 2 จากนั้นเดินไปรอ Namsan Sunhwan Shuttle Bus สาย 02 หรือ 05 ที่หน้า Daehan Cinema
แผนที่ : https://goo.gl/maps/y3cmJENCESrtwonQ9

6. ถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil)

ถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil) ตั้งอยู่ในย่านกังนัม หรือมีชื่อเล่นว่า “ถนนศิลปิน” โดยเป็นที่ช้อปปิ้งนิยมของหนุ่มสาวชาวโซล เต็มไปด้วยร้านค้าชิคๆ ให้ช้อปปิ้งกันเพลินๆ รวมถึงมีร้านอาหาร คาเฟ่เก๋ๆ มากมาย ชื่อของ ถนนกาโรซูกิล หมายถึง ถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้สองข้างทาง ซึ่งสองข้างทางของถนนนี้เต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย หรือ ต้นกิงโกะ (Ginkgo) เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง สวยงามน่าเดินเล่นมากๆ

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 สีส้ม ลงสถานี Sinsa ทางออก 8 แล้วเดินตรงไปตามถนนประมาณ 250 เมตร ก็จะเจอถนนกาโรซูกิลอยู่ทางซ้ายมือ
แผนที่ : https://goo.gl/maps/Zzs8nHFm7XSF1tBC6

7. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Woman University)

มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Woman University : 이화여자대학교) เป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนลำดับต้นๆ ของประเทศเกาหลี โดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมและบรรยากาศภายในมหาวิทยาลัย โดยตัวอาคารส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ตะวันตก และมีจุดถ่ายรูปอยู่ที่บันไดที่ทอดยาวสุดลูกตา ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภายในมหาวิทยาลัยจะเต็มไปด้วยภาพความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มาเดินชมและถ่ายรูปเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน แถมบริเวณหน้ามหาวิทยาลัย ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งของคุณสาวๆ ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ต่างๆ และยังมีร้านอาหารกับคาเฟ่อีกมากมาย ฟินกับใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็แวะช้อปปิ้งต่อได้เลย

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Ewha University Station ทางออก 2,3 ใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟไปยังมหาวิทยาลัยเพียงแค่ 5 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/CUR5Qv91b1Wdnomm8

8. ทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake)

ทะเลสาบซอกชน (Seokchon Lake : 석촌호수) ทะเลสาบแห่งกรุงโซล อยู่ในย่านจัมชิล ลักษณะเป็นทะเลสาบที่ถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง มีถนนกั้นกลาง ล้อมรอบด้วยต้นไม้ตลอดแนว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง รอบทะเลสาบมีทางเดินและทางสำหรับจักรยาน นอกจากนี้ในพื้นที่เดียวกันยังเป็นที่ตั้งของ LOTTE World Tower ตึกที่สูงที่สุดในเกาหลี ส่วนที่ทะเลสาบอีกฝั่งเป็นที่ตั้งของสวนสนุก Lotte World Adventure นั่นเองค่ะ

การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Jamsil (Songpa-gu Office) ทางออก 1 หรือ 2
แผนที่ : https://goo.gl/maps/77Fr2CBQtNJFaqyYA

9. สวนสาธารณะโอลิมปิก (Seoul Olympic Park)

มาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันให้จุใจที่ โอลิมปิกปาร์ค หรือ สวนสาธารณะโอลิมปิก (Seoul Olympic Park : 올림픽공원) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ในพื้นที่กว่า 1.45 ล้านตารางเมตร ในพื้นที่มีจุดท่องเที่ยวมากมาย เช่น สนามกีฬาที่เคยใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน เมื่อปี ค.ศ. 1988, ฮอลล์สำหรับจัดกีฬาและคอนเสิร์ต, ลานโล่งที่มี “ต้นไม้โดดเดี่ยว” หรือ นาฮลโลนามู (나홀로나무) รวมถึง ประตูสันติภาพโลก (The world peace gate) ใครอยากไปเดินเล่นที่จุดไหนต้องดูให้ดีนะคะ เพราะพื้นที่ใหญ่มากจริงๆ แต่รับรองว่าตรงไหนก็เจอใบไม้เปลี่ยนสีแน่นอน

การเดินทาง : ลงได้ 2 สถานี คือ สถานี Olympic Park (สาย 5) และ สถานี Mongchontoseong (สาย 8)
แผนที่ : https://goo.gl/maps/fKNZnS7TK2NH4qnf9

10. สวนป่ากรุงโซล (Seoul Forest)

สวนป่ากรุงโซล (Seoul Forest : 서울숲) สวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางกรุงโซลที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ เป็นพื้นที่โครงการพัฒนาเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนไปกับธรรมชาติ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงทั่วทั้งสวนจะเต็มไปด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสี และถ้าไม่อยากเดินเที่ยวเฉยๆ จะเช่าจักรยานปั่นไปรอบๆ ก็ได้นะ แถมใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของ ตึกใหม่ SM Entertainment ค่ายเพลงชื่อดังอีกด้วย

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสถานี Seoul Forest ทางออก 3 หรือ สถานี Ttukseom ทางออก 8
แผนที่ : https://goo.gl/maps/h87RkPSy4xiPGtEH6

11. สวนสาธารณะฮานึล (Haneul Park)

เปลี่ยนบรรยากาศจากการดูใบไม้เปลี่ยนสีมาเดินเล่นในทุ่งดอกหญ้ากันบ้าง ที่นี่คือ สวนสาธารณะฮานึล (Haneul Park : 하늘공원) ที่เที่ยวยอดฮิตในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ซึ่งอยู่ในฤดูใบไม้ร่วงพอดี ทั่วพื้นที่ของฮานึลปาร์คจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกหญ้าสีน้ำตาลทอง เป็นช่วงไฮไลท์ที่ใครๆ ก็อยากมาถ่ายรูปแบบได้ฟีลเกาหลีสุดๆ นอกจากนี้ก็ยังมี ทุ่งโคเคีย (Kochia) หรือไม้พุ่มสีแดงเล็กๆ และ ทุ่งหญ้าสีชมพู (Pink Muhly) อีกด้วย ใครมาเที่ยวช่วงนี้ต้องได้รูปกลับไปเพียบแน่นอน

การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 6 (สีน้ำตาล) ลงที่สถานี World Cup Stadium Station ทางออก 1 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/E2PDKKegMGBQ31WC9