ทวาราวดี รีสอร์ท : พักกายใจในกลิ่นอายประวัติศาสตร์ทวารวดี

ทวาราวดี รีสอร์ท : พักกายใจในกลิ่นอายประวัติศาสตร์ทวารวดี

ทวาราวดี รีสอร์ท : พักกายใจในกลิ่นอายประวัติศาสตร์ทวารวดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประวัติศาสตร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่องค์ความรู้ แต่ประวัติศาสตร์สามารถเปลี่ยนเป็นโลกแห่งงานสร้างสรรค์และออกแบบได้ เช่นเดียวกับ โรงแรมทวาราวดี (Tawaravadee Resort) จังหวัดปราจีนบุรีที่หยิบจับประวัติศาสตร์ทวารวดีในพื้นที่มาเปลี่ยนเป็นเอกลักษณ์งานดีไซน์ ชวนให้คนที่เข้ามาเช็กอินอยากจะรู้จักความยิ่งใหญ่แห่งทวารวดีมากยิ่งขึ้น

343735

Stay

เพียงเดินทางไปถึงบริเวณทางเข้าของ โรงแรมทวาราวดี (Tawaravadee Resort) จังหวัดปราจีนบุรี สองข้างทางก็ต้อนรับการมาถึงด้วยอุโมงค์ของต้นก้ามปูที่แอบแว่วมาให้เราติดตามว่าในอนาคตถนนเส้นนี้อาจเป็นจุดหมายของถนนคนเดินสำหรับสินค้าโลคอล และด้วยความที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสมุนไพร เวลคัมดริงก์ของที่นี่ก็ไม่รอช้า เสิร์ฟมาด้วยรส Cinnamon Citrus ให้กลิ่นหอมชัดเจนของสมุนไพรเครื่องพะโล้ที่ทอปปิงขอบแก้วมาด้วยซูมัก (Sumac) สมุนไพรผงสีแดงที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมแฝงไว้ด้วยความหวานสดชื่นของเนื้อส้ม

tavarawadee2
tawaravadee9

หลังจากรีแบรนด์และปรับปรุงห้องพักมาราว 3 ปี ปัจจุบันโรงแรมทวาราวดีอยู่ภายใต้การดูแลของ Best Western แต่ยังคงเอกลักษณ์การตกแต่งที่ให้กลิ่นอายของ“อาณาจักรทวารวดี”ในอดีตซึ่งอิงกับประวัติศาสตร์โบราณสถานในพื้นที่ อาทิ รูปแกะสลัก โทนสีหรือขั้นบันไดแบบก่ออิฐศิลาแลง และสิ่งหนึ่งที่สะท้อนคอนเซปต์ของที่นี่ได้ดีเพราะเดินไปทางไหนจะต้องเห็นคือตราสัญลักษณ์ของโรงแรมที่คล้ายกับเหรียญฟูนัน เหรียญจารึกในสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวทางศาสนา คติความเชื่อหรือสัญลักษณ์สื่อความหมายอันเป็นมงคล คล้ายกับเป็นเหรียญที่ระลึก ซึ่งสัญลักษณ์หลักของโรงแรมเข้าใจว่ามีลักษณะคล้ายกับรูปศรีวัตสะ และอีกด้านเป็นรูปพระอาทิตย์ สัญลักษณ์มงคลตามคติความเชื่อแบบอินเดียที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรือง

800x520
tavarawadee7

ด้านพื้นที่ภายในรีสอร์ตนอกจากความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ที่นี่ยังแวดล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียว ซึ่งมุมไฮไลต์เห็นจะเป็นโซนสระว่ายน้ำที่มุมหนึ่งหันเข้าลานน้ำตกและแปลงนาขนาดย่อมส่วนกลางของโรงแรม ส่วนอีกด้านหันออกไปทางทะเลสาบ ที่เช้าๆ สามารถพกรองเท้าวิ่งไปออกกำลังกายริมทะเลสาบได้อีกด้วย ที่สำคัญคือห้องดีลักซ์ทุกห้องของที่นี่สามารถตื่นเช้าเปิดม่านชมวิวยามเช้าของทะเลสาบได้ทันที บวกกับพื้นที่ใช้สอยของโรงแรมก็กว้างใหญ่มากให้ความผ่อนคลายที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวจากรอบนอก แถมยังมีโซนสปอร์ตครบทั้งฟิตเนส ลานเทนนิส สนามกอล์ฟหรือจะกิจกรรมเบา ๆ อย่างปั่นจักรยานก็สามารถเลือกจอยได้ตามความสนใจ

tavarawadee3
นอกจากกลิ่นอายประวัติศาสตร์ที่อยู่ในงานดีไซน์ของโรงแรมแล้ว อีกสิ่งที่โดดเด่นของที่นี่คือ ห้องอาหารทิวาราตรี ห้องอาหารหลักที่รองรับตั้งแต่มื้อเช้ายันค่ำ ภายใต้การดูแลของ เชฟกรวิชญ์ รุ่งฉัตร เชฟใหญ่ประจำโรงแรมที่เน้นความจัดจ้านในรสไทยและชำนาญอาหารใต้เพราะอยู่ภูเก็ตมาก่อนหน้านี้หลายปี มื้อที่เราประทับใจเป็นพิเศษคือมื้อแรกที่เชฟนำเสนออาหารไทยทวิสต์ที่ใส่ไอเดียใหม่ ๆ ลงไป อาทิ เมี่ยงคำปลากะพง ที่เชฟแทนที่ใบชะพลูด้วยกลีบบัวแดง ห่อความสดชื่นของตะไคร้ ปลากะพงทอดตัดรสด้วยน้ำเมี่ยงจากมะขามที่เชฟผสมตะไคร้ลงไปด้วย อีกเมนูที่สดชื่นไม่ต่างกันคือ ยำส้มโอราดซอสสมุนไพร ซึ่งเชฟเลือกใช้ปลาทูน่าเติมเข้ามาให้เต็มปากเต็มคำขึ้น ส่วนเมนูที่เหมือนจะธรรมดาแต่กินได้เรื่อย ๆ คือผักกระเฉดชะลูดน้ำ ผักพื้นบ้านของจังหวัดปราจีนบุรีที่มีความกรอบกว่าผักกระเฉดทั่วไป 

tawaravadee11

Like a Local

ซึมซับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ทวารวดีในห้องพักกันแล้ว ใครอยากลงลึกเห็นของจริง ไม่ใกล้ไม่ไกลยังสามารถไปศึกษาความรุ่มรวยของวัฒนธรรมแบบทวารวดีในพื้นที่ประวัติศาสตร์ของจริงในทริปเดียวกันได้เลย ห่างจากตัวโรงแรมราว 26 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็จะถึง  กลุ่มโบราณสถานสระมรกต ที่รวมกลุ่มอาคารโบราณสถานเล็กใหญ่สมัยทวารวดี เริ่มต้นจาก วัดต้นศรีมหาโพธิ์ วัดที่มีถนนผ่ากลาง ที่นี่เป็นที่ตั้งของต้นโพธิ์เก่าแก่ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นโพธิ์ต้นแรกในไทยที่มีการปลูกมาตั้งแต่สมัยทวารวดี โดย จิราพร กิ่งทัพหลวง นักโบราณคดีชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้ให้ข้อมูลว่าต้นโพธิ์ต้นนี้มีการลงบันทึกว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และเป็นลักษณะของพันธุ์ที่มาจากกลุ่มประเทศอินเดียหรือศรีลังกา มีความเชื่อว่าเป็นหน่อพระศรีมหาโพธิ ต้นโพธิ์ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าซึ่งอัญเชิญมา สังเกตได้จากใบโพธิ์ที่มีปลายเรียวแหลมกว่าพันธุ์พื้นถิ่น ซึ่งด้วยความที่เป็นต้นไม้เก่าแก่ที่มีมาก่อนศาสนสถาน บวกกับมีกลุ่มโบราณสถานแวดล้อมทำให้เกิดความเชื่อว่าต้นโพธิ์นี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อทางวัฒนธรรมที่เกี่ยวกับศาสนาตั้งแต่ช่วงแรกของยุคสมัยทวารวดีค่อนข้างแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็คาดการณ์ได้ว่าต้นโพธิ์ต้นนี้น่าจะมีอายุราว 1,300 ปีเมื่ออิงจากช่วงเวลาของสมัยทวารวดีที่เริ่มต้นในพุทธศตวรรษที่ 12 

เดิมทีสิ่งปลูกสร้างล้อมต้นโพธิ์นี้เป็นระเบียงไม้ทรงคด แต่ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นเป็นวิหารคอนกรีต ซึ่งการมีสิ่งปลูกสร้างล้อมต้นโพธิ์ซึ่งผูกพันกับศาสนาในแง่ต้นไม้แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านั้นก็มีพื้นฐานความคิดมาจากมนุษย์ด้วยเช่นกันนั่นคือแนวคิดของการมีขอบเขต การสร้างวิหารล้อมโพธิ์จึงเท่ากับเป็นการบ่งบอกว่าจุดนี้เป็นพื้นที่ทำพิธีกรรม โดยจิราพรกล่าวว่าในปี2565 นี้จะเริ่มมีการปรับภูมิทัศน์ขึ้นใหม่ ออกแบบโดยดอกเตอร์พรธรรม ธรรมวิมล

อีกหนึ่งศาสนสถานที่หากไปปราจีนบุรีแล้วจะต้องไปสักการะ คือ วิหารพระทวารวดี บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอศรีมโหสถ ซึ่งหลวงพ่อทวารวดีองค์นี้ขุดพบทางด้านทิศใต้ของเมืองโบราณ ภายในโรงพยาบาลชานคามิลโล อำเภอศรีมโหสถ เมื่อปี2514 เป็นพระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม เป็นประติมากรรมแบบทวารวดีนั่นคือการอิงมาจากสิ่งที่เห็นในธรรมชาติพระพักตร์จึงมีรูปลักษณะคล้ายคลึงกับคนพื้นเมืองในสมัยนั้น พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม พระโอษฐ์หรือปากมีความหนาและพระขนงหรือคิ้วที่ต่อกัน ความสำคัญหนึ่งของวิหารนี้จิราพร เล่าว่าเมื่อจะมีการอุปสมบทคนท้องถิ่นมักมากราบลากันที่นี่

tavarawadee11
กลุ่มโบราณสถานสระมรกต บริเวณด้านตะวันออกคือที่ตั้งของ สระมรกต สระทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่เกิดจากการขุดศิลาแลงธรรมชาติ ขนาดกว้างและยาว 18 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตรซึ่งบริเวณปากบ่อจะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกที่มีบันไดทางลง ที่นี่เป็นสระที่พระมหากษัตริย์ใช้ประกอบพิธีกรรมมาแต่โบราณ โดยในปัจจุบันเมื่อปี2562 ก็ได้มีการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และบ่อหน้าพระพุทธบาทคู่ เพื่อเตรียมน้ำอภิเษกสำหรับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

tavarawadee10
อีกสิ่งสำคัญที่ต้องชมของสระมรกตแห่งนี้คือรูปสัญลักษณ์ที่สลักลงบนขอบสระเป็นรูปสัตว์มงคล 45 ตัวเช่น ช้าง สิงห์ งูพันเสาหรือสัตว์ในจินตนาการอย่างมกร ที่แทนความหมายของน้ำและแผ่นดิน จุดนี้จึงเป็นข้อสังเกตว่าบ่อน้ำหรือสระมรกตนี้ต้องเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความอุดมสมบูรณ์

ศาสนสถานอีกจุดที่ทิ้งร่องรอยการทับซ้อนระหว่างสมัยคือบริเวณ อโรคยศาล หรือสถานพยาบาลที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แต่ราวประมาณ 300-400 ปีก่อนหน้านั้น ที่นี่ถือเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของสมัยทวารวดีมาก่อน เห็นได้จากการประดิษฐานของรอยพระบาทคู่ที่ขุดพบ ซึ่งสลักลงบนศิลาแลงธรรมชาติอันมีขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 14 นับเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันบทบาทและการมาถึงของพุทธศาสนาในเมืองนี้ตั้งแต่สมัยทวารวดี

อ้างอิง

Fact File

โรงแรมทวาราวดี ที่ตั้ง 77 หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี 
Google Map : goo.gl/maps/SrDUVM8of7EHHyKEA
เว็บไซต์ : tawaravadeehotel.com/th
โทร : 037-210-444

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ ทวาราวดี รีสอร์ท : พักกายใจในกลิ่นอายประวัติศาสตร์ทวารวดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook