รีวิวดาลัด 3 วัน 2 คืน Little Europe แห่งเวียดนาม เมืองสวยบนยอดเขาที่หนาวตลอดปี
ดาลัด หนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทยในการไปเที่ยวเวียดนาม ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี บวกกับบรรยากาศสุดแสนจะน่ารักภายในเมืองที่พอได้ลองเดินเล่นแล้วจะมีกลิ่นอายของความเป็นยุโรปอยู่เยอะมากทั้งตึกรามบ้านช่องต่างๆ รวมไปถึงเครื่องแต่งกายแบบเมืองหนาวของชาวเมือง
ซึ่งหลังจากที่โลกของเราได้ประสบกับปัญหาโควิด -19 มานั้นทำให้การเดินทางสู่ดาลัดของชาวไทยได้หยุดชะงักลงไปชั่วคราว ล่าสุดหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มจะคลี่คลายลงและการท่องเที่ยวได้กลับมาเริ่มต้นใหม่ ดาลัดจึงกลับมาเป็นจุดหมายที่เราสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวกันได้อีกครั้ง โดยมีเส้นทางมีบินตรงจากกรุงเทพฯ - ดาลัด ของสายการบิน Vietjet Air ที่กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่านี่คือเส้นทางที่ง่ายและสะดวกสบายที่สุดเลยในการมาเที่ยวดาลัด เพราะใช้เวลาเดินทางบินตรงเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณเท่านั้น มาเที่ยวดาลัดได้แบบเวลาใกล้เคียงกับบินไปเชียงใหม่เลย
สำหรับทริปนี้เราแพลนการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด 3 วัน 2 คืน เป็นทริปสั้นๆ ที่เราจะได้มีโอกาสสำรวจเมืองดาลัดในวันที่การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาอีกครั้ง ใครจะไปเที่ยวดาลัดในช่วงนี้อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวมาให้พร้อม เพราะแค่ลงเครื่องมาก็สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นของอากาศในช่วงปลายปีแบบนี้แล้ว
ตลอด 3 วันนี้เราใช้บริการที่พักของโรงแรม Dalat Prince Hotel เป็นโรงแรมที่ถือว่าโลเคชันดีมากๆ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เงียบสงบ และไม่วุ่นวายแถมเดินทางง่ายด้วย ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมด้วย Rooftop Bar ที่มองเห็นวิวเมืองดาลัดแบบพาโนรามา แนะนำเลยสำหรับใครจะมาเที่ยวที่นี่
Day 1
จุดแรกที่เราจะไปเยือนกันในวันนี้คือที่ Domain De Marie Convent โบสถ์สวยที่ตั้งอยู่บนยอดเขา อย่างที่บอกไปว่าเมืองดาลัดนั้นมีความคล้ายคลึงกับยุโรปมาก เราจะได้เห็นโบสถ์หลายๆ แห่งที่นี่ และที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโบสถ์สวยที่ควรค่าแก่การมาเยือน
โบสถ์แห่งนี้มีสีเลือดหมูตัดกับสีชมพู รายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ บรรยากาศด้านในเงียบสงบ และงดงาม
Day 2
เราตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อรีบไปเช็กอินที่คาเฟ่สวยบนยอดเขาของเมืองดาลัดที่ Con Tu Li Coffee&Homestay ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และโฮมสเตย์ที่พักแบบน่ารักมากๆ บรรยากาศของคาเฟ่จะเป็นทรงแบบ Cabin มองเห็นวิวภูเขาที่สลับซับซ้อนด้านหน้า ได้ลองชิมกาแฟดาลัดในยามเช้าพร้อมวิวบรรยากาศแบบนี้บอกเลยว่าฟิน
ช่วงสายๆ เราไปเที่ยวต่อกันที่ Dalat Railway Station ไปขึ้นรถไฟนำเที่ยวสุดคลาสสิค ที่เหมือนย้อนเวลากลับไปในยุคอดีต รถไฟจะพาเราชมความสวยงามของเมืองดาลัดตลอดสองข้างทาง วิวสองข้างทางจะเป็นภูเขาและสวนดอกไม้ บอกเลยว่าใครมาดาลัดห้ามพลาดกิจกรรมนี้มันดีจริงๆ โดยเฉพาะสายคอนเทนต์ได้รูปสวยๆ แน่นอน
หลังจากนั้นก็ได้เวลาอาหารกลางวัน เราไปทานข้าวเที่ยงกันที่ Dalat View ร้านอาหารวิวภูเขา ที่เซอร์ไพรซ์เรามากๆ เพราะแค่มาทานอาหารไม่คิดว่าจะได้เจอวิวสวยปังขนาดนี้ ทางร้านได้จัดมุมถ่ายรูปเป็นสกายวอล์คทางเดินให้เราได้เดินไปถ่ายภาพวิวด้านหลังของภูเขากัน เป็นอีกหนึ่งมุมห้ามพลาดที่มาแล้วต้องเช็กอิน
ส่วนอาหารนั้นก็ถือว่าถูกปากคนไทย มีรสชาติใกล้เคียงกับอาหารไทยเลย ใครกลัวมาเวียดนามแล้วจะกินไม่ได้บอกเลยว่าสบายๆ หายห่วง
อิ่มท้องกันแล้วหนังตาเริ่มจะหย่อนต้องเติมพลังด้วยกาแฟดาลัดอีกสักแก้ว เราจึงมุ่งหน้าสู่ Up mat vo rung cafe อีกหนึ่งคาเฟ่วิวสวยของดาลัดที่จัดตกแต่งร้านได้สวยเก๋มากๆ มีมุมให้ได้ถ่ายรูปหลายมุมเลย จากจุดนี้จะสามารถมองเห็นวิวเมืองดาลัดได้แบบกว้างๆ สวยงามมากๆ เป็นคาเฟ่ที่อยากให้ทุกคนจดไว้เลยครับหากมาเที่ยวดาลัด
ส่วนเมนูแนะนำของที่นี่ มาเวียดนามทั้งทีก็ต้องลองกาแฟเวียดนามที่จะมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร แถมด้วยชาเขียวนมแบบสดชื่นๆ เติมพลังระหว่างวัน อร่อยทั้งสองเมนู
เติมพลังกันเต็มที่แล้วได้เวลาไปเที่ยวต่อ ซึ่งจุดต่อไปนี้ถือเป็นไฮไลท์ของดาลัดเลยก็ว่าได้ กับสวนไฮเดรนเยีย ซึ่งน่าจะคุ้นตาสำหรับคนไทยแบบเรา เพราะสวนแห่งนี้ทำให้หลายๆ คนได้รู้จักกับดาลัดนั่นเอง
สวนดอกไฮเดรนเยียแห่งนี้ถือว่าอลังการงานสร้างมากๆ ดอกไม้สีฟ้าสดใสบานสะพรั่งเต็มสวน มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เดินถ่ายภาพกันได้แบบเพลินๆ ไม่มีเบื่อเลย
และมีไฮไลท์หลักคือสะพานมือพาดผ่านทุ่งดอกไม้ เป็นมุมไฮไลท์ที่ใครต่อใครมาก็ต้องมาเก็บภาพความประทับใจที่นี่ อย่าลืมเตรียมชุดเก่งของคุณมาถ่ายรูปกันรับรองได้ภาพเป็นความทรงจำแน่นอน
ไปต่อกันอีกหนึ่งที่เที่ยวของดาลัดที่คนรักสัตว์ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง! กับ Puppy Farm Dalat ฟาร์มน้องหมาที่จะให้เราได้ใกล้ชิดกับน้องหมานานาพันธุ์แบบน่ารักมากๆ สามารถเล่นกับน้องหมากันได้แบบชิลๆ เลย น้องแต่ละตัวก็รับแขกดีมาก ใครรักหมานี่คือใจฟูสุดๆ
ด้านหลังฟาร์มยังมีสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีทั้งดอกไฮเดรนเยีย ดอกลาเวนเดอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ให้คุณได้มาถ่ายรูปเช็กอินกันก่อนจะจากด้วย มาที่เดียวได้เที่ยวครบเลย
ปิดท้ายในช่วงเย็นกับแลนด์มาร์คของเมืองดาลัดที่ Lam Vien Square ชมสถาปัตยกรรมรูปทรงแปลกตา ที่เป็นสัญลักษณ์ของดาลัดเลยก็ว่าได้ ที่นี่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นเวียดนามกันในจุดนี้ เปรียบดั่งเป็นย่านสยามของเมืองไทยอย่างนั้นเลย
ในช่วงค่ำเราไปเดินเล่นหาของกินอร่อยๆ กันที่ Dalat Night Market แหล่งรวมเสื้อผ้าและอาหารของดาลัด ตลาดกลางคืนที่เดินชิลมาก เพราะอากาศเย็นสบายไม่ร้อน แต่คนจะเยอะสักหน่อย มาแล้วต้องห้ามพลาดกับสตรีทฟู้ดดาลัด ที่มีขายอยู่ตลอดทางในตลาด เป็นอีกหนึ่งวันที่เที่ยวอย่างเต็มที่และกินอย่างเต็มเหนี่ยวจุใจจริงๆ ครับ
Day 3
วันสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับ วันนี้คือวันที่เราจะออกตามหามุมถ่ายรูปสวยในเมืองดาลัด เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ออกไปหาของอร่อยๆ กินกันก่อนที่ร้านขนมปังฝรั่งเศส Lien Hoa ร้านนี้ขนมเยอะและอร่อย แถมราคาไม่แพงด้วย เช้าๆ แบบนี้แนะนำให้แวะมาครับ
ต่อจากนั้นเราไปกันที่บริเวณสะพานทางเชื่อมเข้าตลาด Cho Dalat ซึ่งในมุมนี้หลายๆ คนบอกว่ามีความคล้ายกับฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปที่สวยมากๆ เลย ของดาลัด เราจะเห็นวัยรุ่นเวียดนามมาถ่ายในมุมนี้กันเยอะมาก มาแล้วต้องได้ภาพไปประดับ IG กันครับ
เดินทะลุมาอีกนิดที่ตรงบันไดทางขึ้นแถว Dalat Night Market ที่เรามากันในคืนก่อน ตรงบันไดนี้เป็นอีกหนึ่งมุมสวยที่ได้ฟีลเหมือนอยู่ยุโรปเลยก็ว่าได้
ออกมาแต่เช้าทั้งทีภารกิจถ่ายรูปจะจบแค่นี้ไม่ได้ เราไปกันต่อที่ Con Ga Church หรือ โบสถ์ไก่ที่คนไทยรู้จัก โบสถ์แห่งนี้มีศิลปะแบบฝรั่งเศส เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของดาลัด สวยงามวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก หากมาเที่ยวดาลัดลองแวะมาชมกันครับ
เพิ่มเติมอีกนิด หากใครอยากจะหามุมถ่ายรูปสวยๆ กับโบสถ์แห่งนี้แนะนำให้ลองเดินลงบริเวณถนนทางลงเขาด้านหน้าโบสถ์ จะเห็นมุมของอุโมงค์ต้นไม้ที่ล้อมตัวโบสถ์เอาไว้พอดี ได้รูปสวยแน่นอน
และจุดสุดท้ายของเราในวันนี้จะต้องนั่งรถออกไปไกลจากตัวเมืองสักหน่อย ได้เชื่อเถอะว่าสวยคุ้มค่า กับถนนหน้า Persimmon Cafe ปักหมุดไปที่คาเฟ่นี้ได้เลย ทางขึ้นจะชันและแคบเล็กน้อยแต่รถผ่านได้สบายๆ
วิวถนนด้านหน้าคาเฟ่นั้นจะเห็นวิวเมืองดาลัดอยู่ด้านหลัง เดินถ่ายรูปเก๋ๆ บนถนน มีวิวต้นสนและเมืองเป็นแบ็คกราวด์ Mode & Tone ดีงามมากๆ ปิดท้ายวันแห่งการถ่ายรูปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และนี่ก็คือทั้งหมดของการเดินทางเที่ยวดาลัดแบบ 3 วัน 2 คืนของเรา ดาลัดยังคงมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่เราให้นักท่องเที่ยวได้ไปสำรวจ ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรม เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่ารักมากๆ ของเวียดนามอากาศเย็นสบายเที่ยวได้แบบชิลๆ และคิดว่าจะต้องกลับมาซ้ำที่นี่อีกสักครั้งอย่างแน่นอน
อัลบั้มภาพ 113 ภาพ