5 ร้านบุฟเฟต์สุดปังในปี 2023
เริ่มต้นปีกระต่ายที่น่ารักสดใสไปพร้อมกับบรรยากาศงานเฉลิมฉลอง หลายคนถือโอกาสท่องเที่ยวและพักผ่อนกันแบบต่อเนื่อง แต่สายกินอย่างเราแน่นอนว่าร้านอร่อยคือปลายทาง ซึ่งที่ไหนจะจุใจเท่าร้านบุฟเฟต์ที่มีอาหารหลายประเภทให้เลือก หากปาร์ตี้ยังไม่สิ้นสุดอยากชวนมาปักหมุดที่ 5 ร้านบุฟเฟต์ห้ามพลาด
1.คุณนายทะเลดอง สาขาบรรทัดทอง
ร้านบุฟเฟต์ซีฟู้ดที่สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียล คุณนายทะเลดอง (สาขาบรรทัดทอง) คุณหนุ่ย เจ้าของร้านเล่าว่าเมนูทะเลดองเป็นเมนูโปรดที่คุณหนุ่ยและคนรักทำกินเองเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อจังหวะชีวิตลงตัว ทั้งคู่จึงเริ่มเปิดร้านขายแบบจริงจังที่ตลาดนัดนกฮูก ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกที่สาขาบรรทัดทอง
ไฮไลต์ของร้านอยู่ที่กุ้งหอยปูปลาส่งตรงจากเรือชาวประมงหลายแห่ง (แถมยังมีเรือของตัวเองด้วย) เรื่องคุณภาพและความสดจึงหายห่วง พ่วงด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจี๊ดจ๊าดจากน้ำมะนาวสด กินกับเมนูไหนก็แซ่บ และ “น้ำดอง” สูตรเด็ดที่ใครได้ลองก็ติดใจทั้งแบบดองซีอิ๊วและดองน้ำปลา แถมยังเลือกฟินได้กว่า 50 เมนูตลอด 2 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท+, 699 บาท+, 899 บาท+ และ 999 บาท+
ต้นปีแบบนี้เราเชียร์ให้เลือกราคา 999 บาท+ จะได้กินกุ้งมังกรที่มีทั้งแบบซาชิมิสดหวานและแบบเบิร์นไฟ
ส่วนเมนูอื่นๆ ก็จัดว่าเด็ด ไม่ว่าจะเป็นอูนิไทยรสเค็มๆ มันๆ กุ้งลายเสือ โฮตาเตะ หอยนางรม กุ้งแม่น้ำเผา ปูม้านึ่งแกะพร้อมกิน แซลมอน ปลาหมึก ปูไข่นึ่ง ปูไข่ดอง กั้งดอง ปูทะเลดอง ปูม้าดอง กุ้งดอง ฯลฯ
อย่าพลาดปลากะพงทอดน้ำปลาอันเป็นทีเด็ด เพราะทางร้านทำน้ำปลาเอง รสเค็มนิดหวานหน่อย ส่งกลิ่นหอมฟุ้งมาแต่ไกล ปิดท้ายด้วยของหวานที่มีให้เลือกอีกเพียบ ข้าใจแล้วว่าทำไมเป็นร้านฮิตติดเทรนด์
พิกัด : 1499 ถนนบรรทัดทอง (ปากซอยจุฬาฯ 18) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 12.00-23.00 น.
โทร. 09-0264-2649
2.Greenery Café @Rama Gardens Hotel Bangkok
บุฟเฟต์ในตำนานภายในโรงแรมรามา การ์เด้นส์ ย่านถนนวิภาวดีรังสิต ที่รวมทั้งอาหารไทยและนานาชาติมาไว้ในที่เดียว ห้องอาหารกว้างขวางนั่งสบาย รองรับลูกค้าได้จำนวนมาก จะมาก๊วนใหญ่แค่ไหนก็ไม่ใช่ปัญหา
เริ่มต้นที่สเตชันเรียกน้ำย่อย เลือกซุปมาอุ่นท้องสักถ้วยแล้วตามด้วยสลัดบาร์ ตักผักสดราดด้วยน้ำสลัด โรยด้วยขนมปังกรอบและชีส ติดกันเป็น Cheese Station มุมโปรดของคนรักชีส
ถัดมาเป็นมุมอาหารญี่ปุ่น ซูชิและข้าวปั้นแต่ละชิ้นหน้าล้นจนมองแทบไม่เห็นข้าว
ต่อกันที่มุมย่างและอบ วันนี้เราได้ชิมหมูย่างกับเป็ดอบซอสส้ม น้ำซอสเข้มข้นแทรกซึมถึงเนื้อใน อีกทั้งความนุ่มฉ่ำยังถึงระดับที่ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งเพลิน
มาถึงมุมยำแซ่บที่เปลี่ยนความคิดเดิมๆ ว่าอาหารโรงแรมมักจะมีรสชาติกลางๆ เพราะทั้งยำทะเลและพล่าหมูย่างเปรี้ยวแซ่บถึงอกถึงใจจริง ๆ
ต่อด้วย Hot Dish ที่มีก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ข้าวขาหมู ข้าวหน้าไก่ย่าง และขนมจีนน้ำยาปู กินแกล้มไข่ต้มยางมะตูมและผักสด
ส่วนเมนูกับข้าวอื่นๆ ก็ชวนลิ้มลองไม่น้อยหน้าไม่ว่าจะเป็นผัดคะน้าหมูกรอบ ทะเลผัดฉ่า ปลาทอดซอสมะขาม หมูอบซอสแอปเปิล
ปิดท้ายที่ของหวาน เค้กมะพร้าวใบเตย ตามด้วยเค้กเผือกฝอยทอง พุดดิง มูส ไอศกรีม และผลไม้ เมนูคับคั่งขนาดนี้ต้องบริหารพื้นที่ในท้องให้ดีแล้ว!
พิกัด : 9/9 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 11.30-14.00 น. (บุฟเฟต์) และ 11.30-23.00 น. (อะลาคาร์ต)
โทร. 0-2558-7888
3.รสดีเด็ด อิซากายะ เบอร์หนึ่งเรื่องวัตถุดิบพรีเมียม
“รสดีเด็ด” ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังแห่งสามย่านที่ยังคงปล่อยฝีไม้ลายมือในยุทธจักรนักกินอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดสู่ “รสดีเด็ดชาบู” และล่าสุด รสดีเด็ด อิซากายะ มุ่งเป้าเอาใจสายแฮงก์เอาต์ย่านบรรทัดทองให้มีพื้นที่นั่งกินดื่มอย่างออกรส ในแบบลานเบียร์ (ในร่ม) สไตล์อิซากายะ หรือร้านดื่มสไตล์ญี่ปุ่น
บรรยากาศร้านเรียบง่าย เน้นโต๊ะเก้าอี้ตัวใหญ่และมีสเปซระหว่างโต๊ะจึงไม่ต้องกังวลว่าจะรบกวนโต๊ะข้างๆ ด้านหนึ่งเป็นครัวเปิดที่เราจะได้เห็นมูฟเมนต์ของการปิ้งย่างอาหารเสียบไม้ตลอดเวลา ส่วนความพิเศษของอิซากายะร้านนี้ที่ไม่เหมือนร้านอื่นคือให้บริการแบบบุฟเฟต์ที่เลือกได้ 2 ราคา ได้แก่ 199 บาท และ 399 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) อิ่มจุใจกับอาหารหลากหลายเมนูได้นานถึง 2 ชั่วโมง
เมนูกินเล่นมี ไก่ทอดซอสนัมบัง ไก่คาราอาเกะ ไก่ทอดซอสเผ็ด และยำไก่ย่าง
เมนูเสียบไม้ย่าง อาทิ สะโพกไก่เสียบไม้ย่าง หมูสามชั้นเสียบไม้ย่าง เนื้อย่างเสียบไม้ ท้องปลาแซลมอนเสียบไม้ย่าง เมนูไฮไลต์ยกให้สเต๊กเนื้อแองกัส เนื้อนุ่มฉ่ำแทบละลายในปาก ตามด้วยเสือร้องไห้ และสเต๊กหมูคุโรบูตะ หมูนุ่มเคี้ยวง่ายหอมพริกไทยขึ้นจมูก
ส่วนเมนูข้าวลองข้าวผัดกระเทียม หมูสามชั้นผัดซอสญี่ปุ่น ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าหมู
ปิดท้ายด้วยโอเด้งร้อนๆ ซดคล่องคอ
พิกัด : ตึกรสดีเด็ด ถนนบรรทัดทอง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 17.00-24.00 น.
โทร. 06-3424-2698
4. Rain Tree Café
ใครอยากฉลองต้นปี 2023 แบบรื่นเริงหรูหรา ห้องอาหารเรน ทรี คาเฟ่ (Rain Tree Café) ของดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทลน่าจะตอบโจทย์ ทั้งเรื่องการออกแบบด้วยสไตล์ไทยนีโอ-โคโลเนียลที่ได้แนวคิดจากพระราชวังฤดูร้อนของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่รับแสงแดดอุ่น ส่วนพื้นปูด้วยเซรามิกสีดำสลับขาวลายตารางหมากรุก พร้อมด้วยห้องส่วนตัว 2 ห้องคือห้องวไลยา และห้องเดอะ ซีเครต การ์เด้น
สำหรับบุฟเฟต์ของเรน ทรี คาเฟ่ ดูแลโดยเอ็กเซ็กคูทีฟเชฟ Jeremy Harris เลือกอิ่มได้ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อค่ำ รวมถึงซันเดย์บรันช์ นอกจากเมนูนานาชาติยังมีเมนูพิเศษจากหัวหน้าเชฟของแต่ละห้องอาหารหมุนเวียนมาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นซุป ชีสและโคลด์คัต ซีฟู้ดสดใหม่ทั้งปูอะลาสกา กุ้งแม่น้ำ หอยนางรมสด กั้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ คาเวียร์ ซูชิและซาชิมิ พาสตา สเต๊กที่มีทั้งเนื้อวัวและเนื้อแกะนำเข้า เนื้อหมู ไส้กรอก
นอกจากนี้ยังมีอาหารอินเดีย อาหารไทย ติ่มซำร้อนๆ สลัดบาร์
พร้อมโซนขนมหวานที่สายหวานน่าจะถูกใจ เพราะเลือกได้ทั้งขนมไทย เบเกอรี่ ผลไม้และช็อกโกแลตฟองดู รวมถึงไฮไลต์อย่างไอศกรีมโฮมเมดเย็นฉ่ำหลากรสชาติ
แถมในช่วงเทศกาลที่ห้องอาหารจะมีเมนูพิเศษให้เฉลิมฉลองอย่างเต็มอิ่มอีกด้วย
พิกัด : ชั้นล็อบบี้ ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล 61 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : มื้อเช้า 06.00-10.30 น. (850 บาท++*), มื้อกลางวัน 12.00-14.30 น. (1,300 บาท++*), มื้อค่ำ 18.00-21.30 น. (1,800 บาท++* และ 2,100 บาท++* สำหรับวันศุกร์และเสาร์), ซันเดย์บรันช์ 11.45-15.00 น. (2,600 บาท++*)
สำรองที่นั่งโทร. 0-2650-8800
*ราคารวมน้ำดื่ม ไม่รวมภาษี และค่าบริการ
5. Great Harbour
ยินดีต้อนรับสู่ท่าเรือแห่งความอร่อย Great Harbour ร้านบุฟเฟต์นานาชาติคิวยาวแห่งไอคอนสยามที่จุได้ถึง 400 ที่นั่ง ให้สายบุฟเฟต์ได้เต็มอิ่มกับ 6 สเตชัน 4 สัญชาติ กว่า 80 เมนู
เริ่มต้นกันที่สเตชันแรกที่เดินเข้ามาแล้วต้องพุ่งตัวไปทันทีคือสเตชันอาหารญี่ปุ่น ที่นี่มีทั้งซูชิและซาชิมิ หลากเมนู ไม่ว่าจะเป็นหอยปีกนก ซาบะ แซลมอน ปลาไหล และทีเด็ดอย่างซูชิเนื้อวากิวซอสเทอริยากิชิ้นใหญ่
ใกล้ๆ กันมีอาหารทะเลสดใหม่ทั้งหอยนางรมสดจากสุราษฎร์ธานี กุ้ง หอยแมลงภู่ และกุ้งแม่น้ำเผา
ส่วนสเตชัน Western Food มีไฮไลต์เป็นเนื้อวัว เนื้อแกะ โคลด์คัตและชีส พร้อมด้วยเมนูค็อกเทลอย่างไข่ออนเซ็นน้ำมันทรัฟเฟิล แฮมอบน้ำผึ้ง ขาแกะอบสมุนไพร สตูเนื้อ และพลาดไม่ได้กับซุปเห็ดทรัฟเฟิลหอมๆ จับคู่กับมินิครัวซองต์ก็เข้ากันดี
ในขณะที่สเตชันอาหารจีนก็มาพร้อมเครปเป็ดย่างหนังกรอบเนื้อนุ่มที่เชฟใช้เวลาทำเกือบ 3 วัน นอกจากนี้ยังมีหมูแดง ติ่มซำ และซุปหม่าล่าที่ซดร้อนๆ แล้วคล่องคอ
ต่อกันด้วยสเตชัน Asian Food ที่อยากให้ลองก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว นอกจากเนื้อจะชิ้นใหญ่แล้ว น้ำซุปยังหอมและกลมกล่อม (ใครไม่กินเนื้อก็เปลี่ยนเป็นหมูสไลซ์ได้) รวมถึงอาหารไทยสุดแซ่บอย่างต้มยำกุ้ง ส้มตำ ยำเนื้อ ฯลฯ
แล้วปิดท้ายด้วยของหวานที่มีทั้งขนมไทยและเบเกอรี่
รวมถึงไอศกรีม Häagen-Dazs ที่เลือกฟินได้แบบไม่อั้น
พิกัด : ชั้น 6 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ 12.00-14.30 น. และ 17.30-21.00 น. ช่วงเทศกาลเปิดให้บริการ 12.00-21.00 น.
โทร. 0-2055-1888
จองที่นั่งผ่าน Line : @harbour
ราคา : 999 บาท++ (ผู้ใหญ่) และ 499 บาท++ (เด็ก)
*โปรโมชันจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน