ทำความรู้จักโอลีฟวากิว เนื้อหายากที่ถูกเลี้ยงด้วยมะกอก ในไทยมีขายเพียง 3 ร้าน!
จังหวัดคากาว่า ส่งตรงเนื้อโอลีฟวากิวคุณภาพระดับพรีเมียมจากเกาะโชโดชิมะ ให้ชาวไทยได้ลิ้มลองความอร่อย รับประกันความพิเศษด้วยเนื้อลายหินอ่อนสวย มีมันแทรกในชิ้นเนื้อ รสชาติ หวาน นุ่ม ละมุนลิ้น
“โอลีฟวากิว” มีต้นกำเนิดจากจังหวัดคากาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มต้นจากการที่เกาะโชโดชิมะซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการปลูกมะกอกในเชิงเศรษฐกิจ และถูกขนานนามว่าเป็น “แหล่งกำเนิดของการปลูกมะกอกในญี่ปุ่น” มะกอกประมาณ 90% ของญี่ปุ่นผลิตในจังหวัดคากาว่า นอกจากนั้นเกาะโชโดชิมะก็ยังเป็นเป็นสถานที่แรกในญี่ปุ่นที่เริ่มเลี้ยงเนื้อโคขุนในช่วงต้นทศวรรษ 1900 เนื้อวัวที่ผลิตในคากาว่าได้รับการยกย่องจากผู้คนในเกียวโต โอซาก้า และโกเบ และถูกขนานนามว่า “ซานุกิวากิว” ความมุ่งมั่นของเกษตรกรและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยช่วยพัฒนาเทคโนโลยีการขุนให้ดียิ่งขึ้น
การผลิต “ซานุกิวากิว” ให้ได้คุณภาพสูงนั้นขึ้นอยู่กับความรู้และทักษะที่มีมาอย่างยาวนาน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลิตเนื้อซานุกิให้เป็นหนึ่งในแบรนด์เนื้อคุณภาพเยี่ยมของญี่ปุ่นที่มีรสชาติเฉพาะของคากาว่า จึงได้มีความคิดที่จะสร้างเนื้อคุโรเกะวากิวระดับพรีเมียมเฉพาะในคากาว่าที่เลี้ยงด้วยกากมะกอก ภายใต้ชื่อ “โอลีฟวากิว” โดยการนำกากมะกอกไปตากแห้ง ทำให้น้ำตาลในมะกอกให้กลิ่นหอมคล้ายคาราเมล สามารถนำมาเป็นอาหารให้กับวัวได้ ความลับของความอร่อยของเนื้อโอลีฟวากิวอยู่ที่กรดโอเลอิกและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในมะกอก ทำให้เป็น “เนื้อวัวเพื่อสุขภาพที่มีไขมันที่ไม่เลี่ยน” มีความนุ่มของเนื้อและให้รสชาติที่กลมกล่อม
“โอลีฟวากิว” เป็นเนื้อวากิวพรีเมียมจากจังหวัดคากาว่าที่ได้รางวัลการันตีจาก JMGA (Japanese Meat Grading Association) Beef Carcass Grading Standard โดยที่ได้เกรดปริมาณเนื้อและเกรดคุณภาพเนื้อที่ระดับสูงสุดที่เกรด A5 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเนื้อที่มีปริมาณเนื้อมากที่สุดและคุณภาพดีที่สุด ทำให้มั่นใจในคุณภาพและแหล่งกำเนิดที่เชื่อถือได้ มีคุณค่าทางโภชนาการ สามารถนำไปปรุงได้หลากหลายรูปแบบ รับประทานได้ทั้งแบบดิบ และแบบปรุงสุกในอุณหภูมิที่ต่างกัน อีกทั้งเมื่อนำไปปรุงอาหารจะได้เห็นถึงความสวยงามของเนื้อที่มีมันแทรกเป็นลายหินอ่อนสวย สีชมพูของเนื้อสลับสีขาวของไขมันที่แทรกทั่วชิ้นเนื้อ
ทางด้านเชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ Executive Chef จากโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ได้รังสรรค์เมนู Special Olive Wagyu Japanese Set lunch (GOZEN) โดยมีจุดเด่นที่การเมนูจากเนื้อโอลีฟวากิวมาผ่านกรรมวิธีและเทคนิคการปรุงที่มีความหลากหลาย ภายใต้คอนเซ็ปต์การใช้ทุกส่วนของเนื้อสตริปลอยน์หรือเนื้อสันติดมันของเนื้อโอลีฟวากิว A5 โดยทั้งส่วนเนื้อและส่วนไขมันของเนื้อโอลีฟวากิวจะถูกนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ทั้งในเมนูเรียกน้ำย่อยและเมนูหลักที่มีความหลากหลาย
Olive Wagyu Ravioli (โอลีฟวากิวราวิโอลี่) ที่ใช้เนื้อตรงส่วนที่ติดมันตุ๋นและยัดไส้ในราวิโอลี่และทำให้สุกเพิ่มเติมหลังเสิร์ฟด้วยน้ำซุปดาชิแบบญี่ปุ่น เป็นการสร้างสรรค์เมนูแบบผสมผสานเทคนิคการปรุงแบบตะวันตกมาใช้กับวัตถุดิบจากญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นปรัชญาในการปรุงอาหารของโรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ
Olive Wagyu Tartar (โอลีฟวากิวทาร์ทาร์) เมนูที่เสิร์ฟโอลีฟวากิวแบบเนื้อดิบติดมันเล็กน้อย เนื้อโอลีฟวากิวเป็นเนื้อระดับพรีเมียมที่ทานได้ทั้งแบบปรุงสุกและแบบดิบ ไขมันที่ปนอยู่ในเนื้อก็เป็นไขมันดีที่อุดมไปด้วยกรดโอเลอิกและสารต้านอนุมูลอิสระ เมนูนี้จึงเป็นการนำเนื้อติดมันเล็กน้อยมาปรุงด้วยไม้ผลรสเปรี้ยวอย่างเคเปอร์ เบอรี่ เพิ่มรสชาติด้วยเกลือ พริกไทย
Olive Wagyu Striploin A5 ปรุงโดยใช้วิธีการควบคุมระดับความสุกและคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อโดยการซูวีและปิดท้ายด้วยการกริลแบบมีเดียมแรร์ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เพลิดเพลินกับรสชาติของเนื้อโอลีฟวากิวได้อย่างเต็มที่ โดยเนื้อยังคงความนุ่มละมุนพร้อมกับความฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวบาร์เลย์และเห็ดในรูปแบบของริซอตโตซึ่งเข้ากันได้ดีกับเมนูจานเนื้อ ตกแต่งด้วยหน่อไม้ฝรั่งย่าง กระเทียมและวาซาบิ โดยวาซาบิจะทำหน้าที่ช่วยตัดไขมันทำให้ได้รสชาติที่สดชื่นระหว่างทาน ปรุงรสด้วยเกลือคอมบุและทรัฟเฟิลเพื่อเพิ่มรสชาติให้เนื้อโอลีฟวากิว ให้อร่อยกลมกล่อม นุ่มละลายในปาก
สิ่งที่ทำให้เนื้อโอลีฟวากิวมีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็เนื่องมาจากการใช้เนื้อโอลีฟวากิวเป็นเมนูหลักในการรับรองฯพณฯท่าน ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในวาระที่ได้มาเยือนประเทศไทยในงาน “Japan-Thailand Tourism seminar: Embark upon a new adventure, Discover new treasures” ในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ซึ่งได้ผลตอบรับอันน่าประทับใจและเสียงชื่นชมจากแขกผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก
ท่านที่สนใจลิ้มลองรสชาติของเนื้อโอลีฟวากิวจากญี่ปุ่น สามารถไปชิมได้ที่
ร้าน Cocotte Farm Roast & Winery, สุขุมวิท 39 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 092-6646777
ร้าน Madison at Anantara Siam Bangkok Hotel, เริ่มจัดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566
ร้าน Yakiniku Horumon Sakaba Garcia ,สุขุมวิท 26 จัดจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 082-8377728
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ