10 ข้อผิดพลาดควรหลีกเลี่ยง สำหรับการเดินทางคนเดียว

การได้เดินทางสำรวจโลกในฐานะ “นักเดินทางคนเดียว” ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและมีอิสระ คุณสามารถตัดสินใจที่จะทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้ด้วยวิจารณญาณของตนเองเท่านั้น คุณสามารถเลือกจุดหมายปลายทางที่จะไป เลือกพักในโรงแรมไหนก็ได้ที่คุณต้องการ เลือกที่จะไปสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปมากที่สุด เลือกกินอาหารที่ร้านที่ดึงดูดใจ และสามารถทำทุกอย่างที่คุณต้องการ ฟังดูเหมือนความฝันเลยถูกไหม? แต่ในความเป็นจริง มันอาจมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเป็นตัวแปรได้หากคุณเผลอทำข้อผิดพลาดบางประการ ซึ่งท้ายที่สุด มันจะทำให้การเที่ยวของคุณไม่สนุกและไม่น่าประทับใจ

ดังนั้น คุณควรรู้และหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านั้นล่วงหน้า ต่อไปนี้จะเป็นเคล็ดลับสำหรับการเดินทางคนเดียว ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดทั่ว ๆ ไปที่คุณควรหลีกเลี่ยง เพื่อที่คุณจะได้มีทริปพักผ่อนตามลำพังที่สนุก น่าจดจำ และน่าประทับใจ

1. อย่าขนสัมภาระมากจนเกินไป

เพราะว่าตลอดการเดินทาง คุณอยู่ตัวคนเดียว! ตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบนเครื่องบินหรือที่โรงแรม ก็ไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ที่จะคอยช่วยคุณยกกระเป๋าเสมอไป เพราะฉะนั้น ให้แพ็กสัมภาระเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นสำหรับคนคนเดียวก็พอ นอกจากนี้ กระเป๋าเดินทางก็ไม่ควรใหญ่จนเกินไป เนื่องจากคุณต้องแบกเองเป็นเวลานาน เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา เลือกขนาดที่สามารถบรรจุข้าวของจำเป็นทั้งหมดลงไปได้ หากของมีเยอะเกินไป ให้พยายามคัด เลือก และจัดใหม่อีกครั้ง

2. อย่ากำหนดระยะเวลาเป๊ะ ๆ ในทุกนาที 

ก็ทริปนี้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวคุณเองอยู่แล้ว คุณก็อาจจะอยากดูนั่น ทำนี่ กินโน่น ตลอดทั้งวันมันมีอะไรมากมายที่ดึงดูดใจคุณเต็มไปหมด คุณเลยพยายามกำหนดเวลาเป๊ะ ๆ เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังทุกที่ได้ดังใจหวัง แต่ในความเป็นจริง คุณไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนั้น คุณควรจะเผื่อช่วงเวลาให้ตัวเองได้พักหายใจหายคอบ้าง นอกจากนี้มันยังอาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้การเดินทางเกิดความล่าช้าได้ด้วย ทำให้การเปลี่ยนสถานที่จากจุดนี้ไปยังจุดใหม่อาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ รวมถึงคุณอาจพบว่าตัวเองต้องการเวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยที่ร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์ หรือแวะเข้าสปา อย่าเครียดกับเวลา และก่อนออกเดินทางไปยังจุดใหม่ อย่าลืมแก้ไขตารางเวลาใหม่สำหรับเดินทางด้วย

3. อย่าลืมมีแผน B

แม้ว่าคุณจะจัดกระเป๋าเดินทางเสร็จเรียบร้อยแล้วและมีตารางการเดินทางไปชมสถานที่ต่าง ๆ แน่นเอี๊ยด แต่คุณต้องมีแผนสำรองในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นด้วย การมีแผนสำรองจะช่วยให้คุณได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมื่อมีข้อผิดพลาดต่าง ๆ เกิดขึ้น และยังรักษาความสนุกสนานในการเที่ยวไว้ได้ ยกตัวอย่างเช่น การถูกยกเลิกการจองที่พักหรือไปเจอสภาพของจุดหมายปลายทางที่น่าผิดหวัง คุณจะไม่ตกใจและเคว้งคว้างมากนัก หากคุณมีที่พักอื่นหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงอยู่ในรายการแผนสำรอง คุณสามารถมุ่งหน้าไปยังที่นั้นได้ทันที

4. อย่าประเมินค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่ำจนเกินไป

ในขั้นตอนของการวางแผน คุณจะต้องประเมินค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคุณอยู่แล้ว เคล็ดลับคือคุณควรประเมินค่าใช้จ่ายให้สูงกว่าที่ต้องใช้จริงสักเล็กน้อย และจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรพกเงินสดติดตัวไว้ด้วย เพราะราคาค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นนั้น ๆ อาจแพงกว่าที่คุณคำนวณไว้ หรือค่าโดยสารรถแท็กซี่อาจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การให้ทิปก็มักจะเป็นตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การกำหนดงบประมาณให้สูงกว่าความเป็นจริงจะช่วยให้คุณไม่ต้องพบเจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์ชวนน้ำตาตกในในระหว่างเดินทาง

5. อย่ากลัวที่จะสุรุ่ยสุร่ายบ้างเล็กน้อย

จากเรื่องการกำหนดงบประมาณเมื่อข้อที่ผ่านมา เช็กให้แน่ใจว่างบประมาณที่คุณประเมินไว้สูงกว่าความเป็นจริง คุณได้รวมเอาค่าใช้จ่ายพิเศษของตัวคุณเองเข้าไว้ด้วยแล้ว เพราะการเดินทางคนเดียวควรจะเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยการค้นพบตัวเองและได้ตามใจตัวเอง (บ้าง) คุณอาจจะ walk-in เดินเข้าไปจองที่พักที่ดีกว่าที่นอนเมื่อคืน หรือคุณจะจองทำสปาทรีตเมนต์ เดินเข้าร้านอาหารหรูที่คุณใฝ่ฝัน หรือจะไปร่วมทัวร์วีไอพีสุดเอ็กซ์คลูซีฟก็ได้ เพราะคุณไม่ได้ออกเดินทางเที่ยวทุกวันนี่นา คุณจึงควรทำให้มันน่าจดจำมากที่สุด คุณคู่ควรกับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว

6. อย่ารู้สึกกลัวที่จะอยู่กับความเงียบเหงา

การเดินทางคนเดียวอาจเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับใครหลายคน เป็นไปได้ว่าคุณไม่ค่อยคุ้นเคยกับการอยู่คนเดียวนั่นเอง แต่บ่อยครั้งนะที่คนเราก็โหยหาการได้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวเหมือนกัน ซึ่งการเดินทางคนเดียวแปลว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น มันเป็นเรื่องปกติมากสำหรับการใช้ชีวิตคนเดียว มันอาจจะดูเงียบเหงาไปบ้าง แต่คุณก็ลองใช้ความเงียบนี้ทำความรู้จักตัวเองให้ดีขึ้นจากการเดินทางครั้งนี้ดูก็ได้

7. อย่ากลัวที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่

บางทีคุณอาจจะรู้สึกตรงกันข้ามกับความเหงา นั่นก็คือรู้สึกท้าทายที่จะเดินเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่นั่นเอง ซึ่งคุณไม่ต้องกลัวเลย มิตรภาพเกิดขึ้นได้ทุกที่ ดีไม่ดีเพื่อใหม่ที่คุณพบระหว่างการเดินทางอาจจะเปลี่ยนเป็นเพื่อนที่คบหากันยืนยาวก็ได้ใครจะไปรู้ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดในการพบปะผู้คนใหม่ ๆ คือการเข้าร่วมทัวร์ พักที่โฮสเทลห้องรวม หรือใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม หรือจะใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อกับนักเดินทางคนอื่น ๆ โดยดูจากกลุ่มการเดินทางบน Facebook หรือดาวน์โหลดแอปฯ อย่าง Bumble ที่จะทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับผู้คนทั่วโลกที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ

8. อย่าลืมบอกคนใกล้ชิดว่าคุณกำลังจะเดินทางไปที่ไหน

การเดินทางคนเดียวเป็นสิ่งที่ดี แต่ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้น คุณควรมีใครสักคนที่สามารถขอความช่วยเหลือได้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณควรจะอัปเดตแผนการเดินทางของคุณให้กับคนใกล้ชิดได้รู้อยู่เสมอ อาจจะเป็นสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงที่เชื่อถือได้ ข้อมูลที่คุณควรจะแจ้งพวกเขาก็คือชื่อของที่พักและหมายเลขโทรศัพท์ของที่พัก อัปเดตพวกเขาเมื่อคุณเปลี่ยนสถานที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรืออัปเดตเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงในระหว่างทาง ต่อให้คุณเดินทางไปยังดินแดนที่ปลอดภัยที่สุดในโลกมากแค่ไหน แต่เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งคุณก็ควรจะคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นอันดับแรกนั่นเอง

9. อย่าพลาดประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่ง

คุณอาจรู้สึกว่าสถานที่เที่ยวบางแห่งมันเหมาะที่จะมากับคู่รักหรือสนุกสนานกับเพื่อนฝูง อย่าตกหลุมพรางสิ่งเหล่านี้! หากคุณอยากจะเดินทางไปที่ไหนก็ลงมือวางแผนแล้วไปเลย ถ้าคุณโตแล้ว หาเงินใช้เองได้ คุณก็ไม่จำเป็นต้องรอการอนุญาตจากครอบครัวของคุณเช่นกัน ชีวิตนี้มันสั้นนะ! อย่ามัวแต่รี ๆ รอ ๆ ลังเลอยู่นั่น ให้โอกาสตัวเองได้ใช้เวลาอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิตเพื่อทำในสิ่งที่คุณต้องการทั้งหมดด้วยสองมือสองขาของตัวคุณเอง

10. อย่าละเลยสัญชาตญาณตัวเอง

บนโลกนี้ หากจะมีสิ่งหนึ่งที่คุณไว้ใจได้ นั่นก็คือสัญชาตญาณของตัวคุณเองนั่นแหละ โดยเฉพาะเรื่องการเดินทาง หากมีอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย มันก็มักจะเป็นเช่นนั้น ดังนั้น จงทำตามสัญชาตญาณของตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี ถ้าคุณเจอร้านอาหารที่ดึงดูดคุณ แต่มันกลับไม่มีรีวิว 5 ดาวให้คุณอ่าน ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรที่จะเข้าไปเสี่ยงดู คุณอาจจะค้นพบความมหัศจรรย์ที่สามารถนำไปคุยโวกับทุกคนเมื่อคุณกลับถึงบ้านก็ได้ หรือถ้าสถานที่ไหนทำให้คุณขนลุกและวังเวงเกินไป ก็เปลี่ยนสถานที่เที่ยวซะ จงเชื่อสัญชาตญาณของคุณ ส่วนใหญ่มันจะถูกตามนั้น