อัปเดต แจกแพลนเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน แบบคนเท่ๆ ฉบับ 2023
เมื่อวันหยุดน้อย ก็ต้องใช้สอยให้คุ้มค่า มีเวลาแค่ 3 วัน 2 คืนจะไปเที่ยวสิงคโปร์อย่างไรให้เก็บครบทุก Landmarks พร้อมถ่ายรูปลงโซเชียลให้คนกดไลก์รัว ๆ
ขึ้นชื่อว่า 'สิงคโปร์' ประเทศเพื่อนบ้านของเราที่เต็มไปด้วยแหล่งรวมความบันเทิงระดับโลกไว้มากมาย อีกหนึ่งประเทศท็อป 10 ที่คนไทยมักเลือกปักหมุดไปท่องเที่ยวกันบ่อยมากๆ แต่วันหยุดก็มีจำกัด จะเที่ยวยังไงให้ครบดีล่ะ ? วันนี้ KlookTH เรารวบรวม 9 สถานที่ของประเทศสิงคโปร์มาให้แล้ว รับรองว่าเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน จะเป็นช่วงเวลาที่สุดพิเศษที่ไม่มีวันลืม
วันที่ 1 : บุกตะลุย Universal Studios Singapore แล้วดินเนอร์รอบเย็นบนเรือ Royal Albatross
1. สวนสนุก Universal Studios Singapore
สวนสนุกยูนิเวอร์แซล Universal Studio Singapore
ในเมื่อเรามีเวลาเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน ... ความสนุกก็ต้องเริ่มตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากสนามบินด้วยการบุกตะลุยสวนสนุกระดับโลกอย่าง Universal Studios Singapore สตูดิโอแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีจัดเต็มด้วยเครื่องเล่นสุดสนุก การแสดงสุดน่าประทับใจ และแหล่งท่องเที่ยวสุดตื่นเต้นเต็ม ๆ วันไปเลย
บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์
พาตัวเองหลงเข้าไปในดินแดนแห่งโลกการ์ตูนที่จะคอยเติมเต็มความมหัศจรรย์วัยเด็กให้ทุกคน Complete กับจินตนาการที่เคยใฝ่ฝัน พบเจอกับเหล่าตัวละครจากภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Minions, Madagascar, Shrek, Transformers, Sesame Street และอื่น ๆ อีกมากมาย
สวนสนุกยูนิเวอร์แซล Universal Studio Singapore
รับรองว่าเป็นใคร ก็ไม่อย่าโบกมือลาจากดินแดนแห่งความสนุกที่นี่อย่างแน่นอน เพราะทั้ง 7 โซนได้อัดแน่นความบันเทิงและความพิเศษให้เต็มอิ่มสุด ๆ อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคลิกที่นี่เลย
2. ล่องเรือ Royal Albatross
เรือ Royal Albatross
หลังจากหลงในโลกแห่งจินตนาการทั้งวัน ก็ต้องแวะไปพักกาย หย่อนใจ เติมพลังกับดินเนอร์สุดหรูบนเรือ Royal Albatross ชมวิวดวงอาทิตย์ตกดินอันงดงาม พร้อมแสงสีในเมืองสุดตระการตา อย่าลืมที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพ อวดลงโซเชียลกันนะ เพราะนี่คือหนึ่งในจุด Highlight ของประเทศสิงคโปร์ก็ว่าได้เลยแหละ
ดินเนอร์บนเรือ Royal Albatross ขอบคุณภาพจาก FB : Royal Albatross Superyacht
วันที่ 2 : ออกผจญภัยไปกับ VR ชมวิวบนกระเช้าลอยฟ้า แล้วเติมความสร้างสรรค์ปิดท้ายวัน
3. HeadRock VR
เฮดร็อก วีอาร์ (HeadRock VR)
วันที่ 2 มาสนุกให้เต็มที่กับสวนสนุกโลกเสมือนจริง HeadRock VR ที่จะทำให้อะดรีนาลีนในร่างกายของคุณพุ่งสุดๆ ด้วยธีมที่แตกต่างกันถึง 8 ด่าน อาณาจักรเกมกลางแจ้งที่จำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยี VR (Virtual Reality)
เฮดร็อก วีอาร์ (HeadRock VR)
สวนสนุกแห่งโลกอนาคตนี้ตั้งอยู่ที่ Resorts World™ Sentosa (รีสอร์ทเวิลด์ เซ็นโตซ่า) ประกอบด้วยเครื่องเล่น 11 ประเภทที่รวบรวมความสนุกครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น ความน่าสยองขวัญ การผจญภัย และความแฟนตาซี ก็จัดเต็ม
4. กระเช้าลอยฟ้า Singapore Cable Car Sky Pass
Singapore Cable Car Sky Pass
พักเหนื่อย ก่อนจะตะลุยในสถานที่ต่อไป อยากเชิญชวนนักเดินทางทุกคนมาชมพักชมทิวทัศน์รอบเมืองของประเทศสิงคโปร์ทางใต้แบบ 360 องศากับ Singapore Cable Car Sky Pass กระเช้าลอยฟ้า พร้อมมุ่งหน้าไปยังยอดเขาเฟเบอร์ชื่อดัง
Singapore Cable Car Sky Pass
Singapore Cable Car Sky Pass ถือเป็นอีกหนึ่งการเดินทางเข้าเกาะเซ็นโตซ่าที่เป็นเอกลักษณ์ แอบกระซิบได้เลยว่า หากใครไม่ได้ขึ้นกระเช้าที่นี่ ก็เหมือนไม่ได้มาถึงสิงคโปร์เลยนะ นอกจากนี้สามารถแวะรับประทานอาหารกลางวันด้วยเมนูสุดอร่อยที่สถานี Mount Faber Peak อีกด้วย
5. พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ (ArtScience Museum)
พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ ArtScience Museum
เที่ยวสิงคโปร์ทั้งที ก็ต้องรู้จักประเทศนี้ด้วย ปิดท้ายวันด้วยการเดินทางไปเที่ยวเสพผลงานศิลป์ของประเทศที่เก่าแก่กว่า 700 ปี ที่พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ (ArtScience Museum)
ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ (ArtScience Museum)
วันที่ 3 : เที่ยวสิงคโปร์ก่อนกลับบ้าน ด้วยการชมธรรมชาติ และชีวิตสัตว์น้ำ
6. ร้านอาหาร Tong Ah Eating House
ร้านอาหารทะเล Tong Ah Eating House ในย่านไชน่าทาวน์
มาถึงวันสุดท้ายของการเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน ก็ควรค่าแก่การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจด้วยการเติมพลังด้วยมื้อเช้าที่ร้านอาหารเช้าในตำนานอย่าง Tong Ah Eating House ในย่านไชน่าทาวน์ของสิงคโปร์
เซตเมนู Combo A: Traditional Kaya Toast Set
ร้านอาหารสไตล์สิงคโปร์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนซึ่งเปิดมานานนับสิบปี มีเมนู Signature คือ ขนมปังทาเนย Kaya (เนยเฉพาะถิ่นที่พบได้ในคาบสมุทรมลายู) แล้วก็ไข่ลวก นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังขึ้นอย่าง กาแฟร้อน โกโก้ร้อน ร้านนี้เองถูกพูดต่อกันปากต่อปากจากนักท่องเที่ยวกันเอง จนหลายคนต้องติดใจกลับมาทานต่อ
7. สวนพืชพรรณและดอกไม้ Gardens by the Bay
Gardens by the Bay
เดินทางไปรับบรรยากาศและสูดอากาศอันบริสุทธิ์ท่ามกลางสวนพืชพรรณและดอกไม้ที่มีความโดดเด่นและความเป็นเอกลักษณ์อย่าง 'Gardens by the Bay' สถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์แห่งหนึ่ง
จุดชมวิว Supertree Grove ในสิงคโปร์
สวนพืชพรรณและดอกไม้ Gardens by the Bay คือ จุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักเดินทางเกือบทุกคนที่มาเที่ยวสิงคโปร์ เพราะที่นี่รายล้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนริมน้ำ และเรือนกระจก รวมถึงจุดชมวิว Supertree Grove ที่เป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์จากทั่วทุกมุมโลก
นาวีแห่งแพนดอร่า
นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีงานจัดแสดงในธีมภาพยนต์หนังชื่อดังอย่าง Avatar อยู่ภายในเรือนกระจกป่าเมฆอีกด้วยนะ แฟนหนังตัวจริง ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด!
8. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซี อควาเรียม (S.E.A. Aquarium)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซี อควาเรียม (S.E.A. Aquarium) ในสิงคโปร์
รู้จักธรรมชาติบนบกแล้ว มาดำดิ่งสู่การเรียนรู้ใต้ทะเลที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซี อควาเรียม (S.E.A. Aquarium) ที่รีสอร์ท เวิลด์ เซ็นโตซ่า ซึ่งเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลมากกว่า 100,000 ตัว 1,000 สายพันธุ์ในแหล่งที่อยู่อาศัยที่หลากหลายกว่า 45 แห่ง
โซน Open Ocean Habitat
ดูการจัดแสดงของสัตว์ทะเลเกือบ 80 สายพันธุ์ที่ถูกคุกคาม รวมทั้งกระเบนราหู ปลานโปเลียน และปะการังหลากหลายชนิดที่สะท้อนสภาพแวดล้อมทางน้ำดั้งเดิม อย่าลืมถ่ายรูปน้องปลาเก็บไว้ด้วยล่ะ
นักท่องเที่ยวดูสัตว์น้ำที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซี อควาเรียม สิงคโปร์
9. ร้าน Curry Times
ร้าน Curry Times ในสิงคโปร์
เติมพลังมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นสนามบินกันที่ ร้านแกงกะหรี่ชื่อดังอย่าง Curry Times โดยสามารถเลือกสาขาที่สะดวกแก่การเดินทางได้เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า Novena, สนามบินสิงคโปร์ชางงี (Changi Airport), จูรงตะวันออก (Jurong East) และยี่ชุน (Yishun)
แกงกะหรี่ ร้าน Curry Times ในสิงคโปร์
สำหรับเมนูที่แนะนำสำหรับร้าน Curry Times ได้แก่ Curry Fish Head, Curry Chicken Ramen, Curry Chicken บอกได้เลยว่า ทั้ง 3 เมนูนี้ ใครมาที่นี่ ก็ต้องชิม!
ถ้า 9 ที่ไม่จุใจ ก็ไปต่อไม่หยุดกับแหล่งท่องเที่ยวที่อื่น ๆ เพิ่มเติม
แต่สำหรับใครที่มีเวลาท่องเที่ยวมากกว่านี้ หรือต้องการเปลี่ยนแพลนที่เราแนะนำไป ก็ไม่ต้องห่วงเลยนะ เพราะเราก็รวบรวมสถานที่น่าสนใจเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ และความบันเทิงอีกมากมาย ไปดูกันต่อเลย
สัมผัสความสะดวกสบายกลางเมืองที่ Marina Bay Sands
Marina Bay Sands
ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดกับโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ Marina Bay Sands ซึ่งเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำวิว 360 องศา ชวนให้คุณได้เติมเต็มบรรยากาศของประเทศสิงคโปร์ให้มากกว่า นอกจากนี้บริเวณโดยรอบของโรงแรม เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ หากได้พักผ่อนที่นี่ รับรองว่าจะช่วยประหยัดเวลาเดินทางได้แน่นอน
ไหว้พระขอพรรับความมงคลที่วัดพระเขี้ยวแก้ว
วัดพระเขี้ยวแก้วในสิงคโปร์
ขอพรต้อนรับการเดินทางไม่ว่าจะไปหรือกลับที่วัดพระเขี้ยวแก้วที่ได้รับอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมมาจากราชวงศ์ถัง โดยพระเขี้ยวแก้วที่นำมาประดิษฐานถูกค้นพบตั้งแต่ปี 1980 ที่สถูปแห่งหนึ่งของประเทศพม่า ทั้งนี้วัดดังกล่าวนี้ตั้งอยู่ที่ย่าน Chinatown หากมาสักการะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราแนะนำให้เดินเล่นตะลุยชิมอาหารในย่านนี้ต่อเลยนะ
ตะลุยชิมอาหารและเดินชมเมืองในย่าน Chinatown
พบกับไกด์และกลุ่มทัวร์ของคุณที่รูปปั้น Chinatown Food Trail
ตะลุยดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่ง Landmark ดังของสิงคโปร์ นั่นก็คือ 'ย่านไชน่าทาวน์' ที่ ๆ จะชวนทุกคนมาชิมอาหารเมนูท้องถิ่น ออนทัวร์รอบย่านรับกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนแท้ระหว่างทาง
ดื่มด่ำกับข้าวมันไก่ยอดฮิต พร้อมกับอาหารพื้นเมืองอื่น ๆ อีก 4 เมนู
นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับเมนูอาหารสุดคลาสสิกอย่าง 'ข้าวมันไก่สิงคโปร์' ที่ใครมาก็ต้องลองชิม
ตามหาโรงคั่วกาแฟแบบดั้งเดิมที่หาดูยากในปัจจุบัน
โรงคั่วกาแฟแบบดั้งเดิม หาดูได้ยากในปัจจุบัน
ชวนย้อนอดีตไปช่วงทศวรรษ 1960-1980 ที่โรงคั่วกาแฟแบบดั้งเดิม เพื่อเรียนรู้วิธีที่ผู้คั่วในฉบับของคนท้องถิ่น ไปต่อด้วยการดูเบื้องหลังโรงงาน ‘โลติ’ แบบดั้งเดิม ทั้งยังพบกับหนึ่งในปรมาจารย์ด้านการทำบ้านกระดาษและค้นหาความเกี่ยวข้องของประเพณีจีนอีกด้วย
ในที่สุดก็ครบแล้ว สำหรับการเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน กับ 9 สถานที่สำคัญที่ต้องปักหมุดมาให้ได้เลย หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะ
อัลบั้มภาพ 26 ภาพ