แจกคู่มือเที่ยว “World of Frozen" โซนใหม่ล่าสุดที่ Hong Kong Disneyland แบบไม่พลาดทุกไฮไลท์
ฮาลู!!! แฟนโฟรเซ่นได้เวลา Let it go ตามเก็บให้ครบทุกไฮไลท์ เที่ยวให้คุ้มสมกับที่รอคอยการเปิดโซน "World of Frozen" อาณาจักร Arendelle ที่เหล่าจินตนากรของวอลต์ ดิสนีย์ ถอดแบบภาพเมืองและตัวละครจากภาพยนตร์ “โฟรเซ่น” ให้กลายเป็นโซนเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดของ Hong Kong Disneyland
เครื่องเล่นไหนห้ามพลาด ต้องจองตั๋วอย่างไร มุมไหนต้องมีใน IG ช้อปปิ้งตรงไหน ต้องชิมเมนูอะไร นี่คือคู่มือที่แฟนโฟรเซ่นต้องมีก่อนจะเดินทางเข้าสู่เมืองเอเรนเดลล์
“World of Frozen” เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต้องบอกว่ากระแสตอบรับดีเกินคาดเพราะคิวเข้าโซนยาวมากๆ แต่ไม่ต้องท้อใจไป เพราะนอกจากเราจะพาชี้จุดไฮไลท์ของโซน ยังมีทริกเก็บให้ครบทุกเครื่องเล่นมาบอก
เล่าก่อนว่า “World of Frozen” ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ คือ Arendelle Village (ฝั่งเมือง) และ Arendelle Forest (ฝั่งป่า) โดยมี King Agnarr Bridge หรือ สะพานข้ามทะเลสาบเอเรนเดลล์ คั่นกลาง
หลังจากเดินเข้าประตูหลักของโซน ทุกคนจะได้พบกับโซน Arendelle Village หรือฝั่งเมือง ซึ่งมีจุดเช็คอินมากมายขอเริ่มกันที่
น้ำพุแห่งมิตรภาพ
ประติมากรรมน้ำแข็งรูปเกล็ดหิมะที่เอลซ่าใช้พลังของเธอสร้างขึ้นมา จุดนี้ไม่ว่าจะถ่ายจากมุมไหนก็สวย จะเลือกฉากหลังเป็นหอนาฬิกาของเมือง หรือให้ฉากหลังเป็นร้าน Northern Delights ก็น่ารัก
ปราสาท Arendelle
แลนด์มาร์คสำคัญของอาณาจักรแห่งนี้ที่ถอดแบบออกมาได้ครบทุกดีเทลราวกับได้มายืนอยู่หน้าปราสาทของเอลซ่ากับอันน่าจริงๆ และด้วยการออกแบบที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนของโซนก็สวย หากมองจากสะพาน King Agnarr Bridge จะเห็นภูเขาทางตอนเหนือของเมืองเอเรนเดลล์เป็นฉากหลัง
หอนาฬิกาเมืองเอเรนเดลล์
ซึ่งเป็นฉากหลังการเต้นรำระหว่างอันนากับเจ้าชายฮานส์ บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของเครื่องเล่น Frozen Ever After, ร้านขายสินค้าที่ระลึกประจำเมืองTick Tock Toys & Collectibles และตู้จดหมายที่สามารถส่งโปสการ์ดได้จริง ความพิเศษคือจะได้รับแสตมป์เป็นตรา World of Frozen กับตราราชวงศ์ Arendelle ด้วย
Frozen Ever After
เครื่องเล่นที่จะพาทุกคนล่องเรือไปตามเรื่องราวของ Frozen รับรองว่าจะได้พบปะกับอันนา เอลซ่า เจ้าชายฮานส์ คริสตอฟฟ์ โอลาฟ สโนว์กี้ และสเวน จุดเด่นของเครื่องเล่นนี้ต้องยกให้กับความสมจริงของการสร้างหุ่นตัวละคร รวมไปถึงการนำเทคโนโลยี Animatronics มาใช้เพื่อเสกให้ตัวละครทุกตัวแสดงท่าทางได้สมจริงที่สุด
แอบกระซิบว่า อย่าเผลอนั่งใจลอยไปเพราะไฮไลท์อีกจุดยังถูกซ่อนเอาไว้หลังฉาก Let It Go เราเตือนแล้วนะ!
Tick Tock Toys & Collectibles
ร้านขายสินค้าที่ระลึกประจำเมือง แฟนโฟรเซ่นเตรียมเสียทรัพย์ได้เลย เพราะสินค้าที่นี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษและมีวางจำหน่ายที่ World of Frozen ที่นี่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ตุ๊กตา ของเล่น ของแต่งบ้าน ที่คาดผม ของที่ระลึก รวมถึงโปสการ์ดลายน่ารักๆ ซื้อแล้วสามารถส่งที่ตู้ไปรษณีย์หน้าร้านได้เลย
Golden Crocus Inn
ร้านอาหารและที่พักของนักเดินทางที่ตั้งชื่อตามดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเอเรนเดลล์ เสิร์ฟอาหารสไตล์นอร์ดิกตำรับชาวสแกนดิเนเวีย เมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ Bayside Seafood Medley เมนูซีฟู้ดเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งในซอสครีม ส่วนใครที่แพ้อาหารทะเลยังมีเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน อย่าง Village Chicken Roll Stuffed with Ham & Cheese ไก่ม้วนสอดไส้แฮมชีสเสิร์ฟพร้อมผักต้มซอสมัสตาร์ด, Innkeeper’s Special Braised Lamb Shank ซี่โครงแกะอบกับมันฝรั่งบด ผักย่างและซอสเกรวีเบียร์ หรือ Forest Mushroom Pasta พาสต้าเห็ดเสิร์ฟพร้อมไข่ลวกและซอสครีมทรัฟเฟิล
Northern Delights
ร้านขนมหวานและเครื่องครัวที่ตกคนรักของหวานได้แน่ๆ เมนูไฮไลท์ต้องยกให้กับ Coronation Sundae ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสนมราดน้ำเชื่อมจากดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ มาในแก้วธีม Frozen นักสะสมต้องมี หรือจะสั่งเป็น Summer Snow Day Soft Serve ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟรสนมที่มีโอลาฟมาเป็นกิมมิกสุดน่ารัก
ยังมีเมนูขนมอื่นๆ ให้ได้ชิมกัน อาทิ ทาร์ตอัลมอนต์รสไวท์ช็อกโกแลตผสมเบอร์กามอต, คัพเค้กโอลาฟรสแครอตผสมผลไม้อบแห้ง, โดนัทโอลาฟประดับเกล็ดหิมะ, แอปเปิ้ลคาราเมลในรูปแบบลูกหิมะ และอีกหลายเมนู นอกจากขนมหวานอร่อยๆ ภายในร้านยังมีขนมต่างๆ มาในแพ็คเกจน่ารักๆ และเครื่องครัวคิวท์ๆ แน่นอนว่าออกแบบพิเศษและวางจำหน่ายที่นี่ที่เดียวเช่นกัน
ได้เวลาเดินข้ามสะพาน King Agnarr Bridge เพื่อมาเยือน Arendelle Forest หรือฝั่งป่ากันบ้าง จุดแรกที่ต้องไปเช็คอินคือ
Wandering Oaken’s Sliding Sleighs
เครื่องเล่นไฮไลท์เอาใจคนชอบความเร็วที่ Oaken เจ้าของร้าน Wandering Oaken's Trading Post and Sauna ยอมเปลี่ยนภูเขาสูงหลังบ้านให้กลายเป็นรถไฟเหาะนำเที่ยว โดยได้ความช่วยเหลือจากสเวน โอลาฟ และกวางเรนเดียร์ของคริสตอฟ ระหว่างทางเดินไปถึงเครื่องเล่นจะได้เห็นการจำลองบรรยากาศซาวน่าแบบในภาพยนตร์ภาคแรกอีกด้วย ระหว่างต่อคิวคอยสังเกตดีๆ ลุงโอคเคนและโอลาฟจะโผล่หน้ามาทักทายจากห้องซาวน่าด้วยล่ะ
Playhouse in The Woods
โรงละครขนาดย่อมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับเอลซ่า อันนา และโอลาฟ (ใกล้ชิดจริงๆ ไม่ใช่แค่ใกล้แบบติดขอบเวที) เพราะเจ้าหญิงของเมืองจะพาคนดูไปผจญภัยในป่าด้วยกันผ่านเทคนิคสื่อผสม ทั้งควัน การฉายภาพ หิมะ
Meet & Greet Character
จะเรียกว่าเป็นความพิเศษของโซนนี้ก็ได้ เพราะตัวละครหลัก เอลซ่า อันน่า คริสตอฟฟ์ และโอคเคน อาจจะเดินออกมาพบปะพูดคุยกับชาวเมืองเอเรนเดลล์เวลาไหนและมุมไหนของเมืองก็ได้ ซึ่งพอไม่มีจุดประจำสำหรับพบปะตัวละครข้อดีคือ ทำให้เราสามารถใกล้ชิดตัวละครได้มากขึ้น
FYI ใครที่อยากเก็บ 2 เครื่องเล่นและ 1 การแสดงให้ครบ ดูนี้เลย
- เครื่องเล่น Frozen Ever After และ Wandering Oaken's Sliding Sleighs สามารถซื้อบัตร Disney Premier Access เพื่อจองคิวเครื่องเล่นได้ในราคา 129 HKD ต่อเครื่องเล่น ซื้อผ่านแอปฯ Hong Kong Disneyland
- Playhouse in the Woods ต้องกด Standby Pass สำหรับเข้าชม สามารถกดในแอปฯ Hong Kong Disneyland ได้เช่นกัน
ถ่ายรูปถ่ายคลิปให้เต็มที่ไม่ต้องกลัวแบตหมด เพราะเขามีพาวเวอร์แบงค์ลายน่ารักๆ ให้เช่าด้วยล่ะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปเยือน World of Frozen ได้ที่ https://www.hongkongdisneyland.com/th/hkdl/world-of-frozen/
อัลบั้มภาพ 34 ภาพ