"เพลินไพลิน" กินเตี๋ยวแกงส้ม นั่งห้อยขาดูปลา ชมตะวันคล้อยปลายทุ่งนา

"เพลินไพลิน" กินเตี๋ยวแกงส้ม นั่งห้อยขาดูปลา ชมตะวันคล้อยปลายทุ่งนา

"เพลินไพลิน" กินเตี๋ยวแกงส้ม นั่งห้อยขาดูปลา ชมตะวันคล้อยปลายทุ่งนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

2 หนุ่มสาวเมืองโอ่งมังกรราชบุรี ต่อยอดสูตรแกงส้มมะรุมจากคุณแม่ เปิดเมนูเด็ด “ก๋วยเตี๋ยวแกงส้มซี่โครงหมู” เปิดเป็นร้านสไตล์ชิวๆ กับบรรยากาศทุ่งนา ที่สานฝันอยากมีร้านในสไตล์ของตนเองในชื่อร้าน “เพลินไพลิน กินเตี๋ยวแกงส้ม อร่อยจนหยดสุดท้าย แถมนั่งห้อยขาดูปลา ชมตะวันคล้อยปลายทุ่งนา”

พาไปที่ชุมชนกลางทุ่งหมู่ที่ 6 ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี พาไปสัมผัสกับบรรยากาศสไตล์ทุ่งนาและวิวสวยๆ โดยเฉพาะในช่วงตะวันใกล้ที่จะลับขอบฟ้า ที่จะเห็นแสงดวงอาทิตย์ สาดส่องสุดปลายนา ทั้งยังได้กลิ่นดินโคลนชวนให้น่ามานั่งพักผ่อนกันแบบครอบครัว หรือ คู่รักที่จะมานั่งรับประทานอาหารในมื้อเย็นๆ ส่วนใครที่ชอบดอกกล้วยไม้ที่นี่ก็มีเพราะปลูกไว้ให้ชม อาทิ ดอกกล้วยไม้แคทลิยาที่กำลังเบ่งบานสีเหลืองสวยงาม และที่พลาดไม่ได้คือ ต้องแวะชิมก๋วยเตี๋ยวแกงส้มซี่โครงหมู เมนูเด็ดของทางร้าน “เพลินไพลิน” ที่กำลังได้รับความนิยมของบรรดานักชิม และ ผู้ที่ชื่นชอบกับการตกแต่งร้านสไตล์ธรรมชาติแบบวิลเทจ

นอกจากบรรยากาศการตกแต่งร้านแบบโดนใจแล้ว สโลแกนของที่ร้านนี้ยังถือว่าโดนใจ “กินเตี๋ยวแกงส้ม อร่อยจนหยดสุดท้าย แถมนั่งห้อยขาดูปลา ชมตะวันคล้อยปลายทุ่งนา” และที่สำคัญหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จยังมีมุมให้เซลฟี่ และเลี้ยงปลาภายในบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้วย อีกทั้งมุมต่างๆ ของทางร้านที่ได้มีการนำของเก่าๆ มาตกแต่งให้ดูย้อนยุคกลับไปในยุค 90 ด้วย ส่วนที่จะเป็นไฮไลท์ คือ โต๊ะนั่งรับประทานอาหาร ยังมีการนำโอ่งมังกร ซึ่งเป็นสินค้าสัญญาลักษณ์ประจำจังหวัดราชบุรี มาทำเป็นชุดโต๊ะนั่ง ที่ให้ลูกค้าได้เก็บภาพไปโชว์บนโลกโซเชียล ที่เรียกได้ว่า “มาเช็กอินถึงเมืองโอ่งราชบุรีแล้ว”

สอบถามเจ้าของร้าน คือนางสาวไพลิน ศิริมั่ว และ นายจิรัณณ์กร อัครวัฒน์ธนาธร เปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทั้งสองคนอยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ อยู่กับบ้านโดยใช้ไอเดียร์ความคิดที่ว่าเปิดครัวในบ้านให้ลูกค้าได้รับประทานอาหาร แบบเป็นกันเอง และเป็นคนที่ชอบบรรยากาศเก่าๆ ชอบสะสมของเก่า มาตั้งรุ่นคุณพ่อเพราะคิดว่าของเก่านั้นปัจจุบันจะหาชมได้อยาก ทิ้งไปก็เสียดายกว่าคุณพ่อคุณแม่จะซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของทั้งสองคน วันนี้ตนจึงได้นำของเหล่านั้นมาประดับตกแต่งร้าน

จึงได้ใช้พื้นที่รกๆ ที่อยู่บริเวณบ้านที่ติดกับกลางทุ่งนาแบบชนบท มาปรับพื้นที่ใช้ไม้เก่าๆ ที่ได้ คุณพ่อและคุณลุงที่เป็นช่าง และตนทั้ง 2 ก็ช่วยกันทำแบบทุ่มเทแรงกายแรงใจ กว่าจะเสร็จประมาณ 3 เดือนเศษ มีอุปสรรคมากมายจากสภาพดินฟ้าอากาศ ฝนตก แดดร้อนที่ทำให้ทั้งท้อเหนื่อย และ เจ็บตัว เพราะงานแบบนี้ไม่เคยทำมาก่อน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะความอดทนของพวกเราทุกคน และได้ตั้งชื่อร้านว่า “เพลินไพลิน” ซึ่งคิดว่า “ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจ แล้วลงมือทำ ขอแค่อย่าท้อ ใจสู้ ทุกอย่างก็สำเร็จ” จนเกิดเป็นร้านตามความฝันของทั้ง 2 คนได้สำเร็จ และเปิดบริการต้อนรับลูกค้าดุจญาติมิตร ที่มารับประทานอาหารที่บ้าน

คุณไพลิน และ คุณกร ทั้ง 2 คน เล่าต่อว่า เมนูเด็ดของที่ร้านคือ ก๋วยเตี๋ยวแกงส้มซี่โครงหมู เป็นการต่อยอดมาจาก ฝีมือการทำกับข้าวของคุณแม่ คือ เริ่มจากมื้อค่ำของวันหนึ่งที่ได้เราได้นั่งทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบครอบครัว คุณแม่ได้ทำแกงส้มมะรุมรสเข้มข้นแบบน้ำเข็มๆ ไม่ใช่น้ำใส มีรสชาติหอมหวานทั้งเครื่องแกงและมะรุมซึ่งเป็นสมุนไพรธรรมชาติอย่างดี เมื่อตนได้รับประทานจึงคิดไอเดียนำมาต่อยอดสร้างรายได้ โดยรองนำเส้นก๋วยเตี๋ยวมาใส่พร้อมทั้งใส่ซี่โครงหมูเข้าไป และได้ทำให้หลายๆ คนรับประทาน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงได้นำมาทำเป็นเมนูเด็ดของร้าน คือ “ก๋วยเตี๋ยวแกงส้มซี่โครงหมู” ในชามขนาดใหญ่ จำหน่ายในราคาชามละ 40 บาท ส่วนใครที่อยากใส่ไข่เพิ่มก็จะคิดเป็นชามพิเศษราคา 50 บาท

ส่วนวิธีทำของที่ร้านทำแบบง่ายๆ สไตล์ชาวๆ บ้าน เราไม่ใช้หม้อก๋วยเตี๋ยว แต่จะใช้การลวกเส้นในหม้อต้มมือถือลวกเส้นและผักกับแบบชามต่อชามเพื่อให้ได้ความหอมของเส้นก๋วยเตี๋ยวและความหอมหวานของผัก เมื่อลวกได้ที่เราก็จะนำไปใส่ในชามและตักแกงส้มที่ได้เตรียมไว้ เพราะแกงส้มคุณแม่จะแกงไว้ตามสูตรของคุณแม่ใส่หม้อแกงใบใหญ่ไว้ จะมีความเข้มข้นมีความหอมของเครื่องเทศเพียงแค่เราจะอุ่นให้ร้อนๆ พอเหมาะเพื่อไม่ให้เสียรสชาติของน้ำแกง ส่วนซี่โครงหมูก็จะเปื่อยนุ่มไม่เหนียวทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่สำคัญก๋วยเตี๋ยวของเราแทบจะไม่ต้องปรุงนอกเสียจากที่ลูกค้าจะต้องการเพิ่มรสชาติเปรี้ยว และ รสเผ็ด เราก็จะเตรียมน้ำมะนาวและพริกป่นไว้ให้

นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูอื่นๆ อีกสำหรับคนที่ชอบทานอาหารอีสาน หรือ ประเภทอาหารจารเดียว โดยเมนูแนะนำ ยำไพลิน เป็นเมนูยำตามสไตล์ของตนเอง มีทั้งแบบเมนูถาด และ เป็นจาน ภายในถาดจะอัดแน่นไปด้วยเครื่องเคียง อาทิไส้กรอก ขนมจีน ไข่ต้ม หมูยอ ข้าวเกรียบ หรือ จะเป็นชุดทะเลก็สามารถสั่งได้เช่นกัน สั่งเป็นถาด ราคา 150 บาท สั่งเป็นจาน 40 – 80 บาท

ส่วนใครที่ชอบเมนูอาหารจานเดียวก็จะมี ข้าวหมูอบน้ำจิ้มพันปี ที่ได้ทั้งความหอมของเครื่องเทศและน้ำจิ้มรสเด็ดจากสูตรแม่ และอีกหนึ่งเมนูคือ ข้าวอบไก่แครอท เป็นเมนูยอดฮิตที่ลูกค้ามาที่ร้านต้องสั่งมาขึ้นโต๊ะแบบทุกราย เมนูข้าวก็จะเริ่มต้นที่ 40 บาท พิเศษ 50 บาท

สำหรับคนที่ชอบอาหารประเภทยำ เราก็มีเมนูสารพัดยำ ยำทั่วไป ยำตามใจลูกค้า หรือ เมนูตามที่ร้านระบุให้สามารถเลือกได้ ส่วนราคาไม่แพงตามมาตรฐานทั่วๆ ไป เริ่มต้นที่จานละ 40 – 80 บาท พิเศษ ก็ 150 บาท

คุณไพลิน และ คุณกร ทั้ง 2 คน กล่าวอีกว่า อนาคตเราได้มีแพลนที่จะขยายร้าน โดยใช้พื้นที่บ้านที่ว่างเปล่า ทำเป็นซุ้มนั่งรับประทานอาหาร นั่งแบบห้อยขาชมปลาตัวใหญ่ที่เลี้ยงไว้ สามารถให้อาหารปลาได้ อีกทั้งยังเพิ่มมุมเซลฟี่สำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพอีกด้วย ส่วนคนที่ชอบบรรยากาศแบบทุ่งนา เราได้จัดโต๊ะนั่งรับประทานแบบขอบคันนา สามารถชมทุ่งนาได้ 180 องศา อีกทั้งในช่วงพลบค่ำจะเห็นดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าหากวันที่ฟ้าเปิด แต่หากฟ้าปิดก็ยังจะเห็นแสงจากดวงอาทิตย์ที่เมฆลอยปิดบังลำแสงจะเป็นทางสาดส่องอย่างสวยงามที่ปลายทุ่งนา

สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปชิม ก๋วยเตี๋ยวแกงส้มซี่โครงหมูที่ “เพลินไพลิน” มาจากราชบุรีวิ่งบนถนนเส้นทาง เขางู – จอมบึง จะผ่านหน้าค่ายบุรฉัตร ประมาณ 200 เมตร เข้าซอยด้านซ้ายมือจะมีป้ายครัวลุงเล็ก วิ่งตรงเข้าตามซอยมา จนถึงคลองชลประทาน จากนั้นเลี้ยวขวาวิ่งเข้าซอยมาตามทางอีก 200 เมตร จะถึงที่ร้าน “เพลินไพลิน” เปิดบริการเวลา 09.30 น.ถึงเวลา 21.00 น. หรือเปิดเส้นทางได้จาก Google maps พิมพ์คำว่า “เพลินไพลิน” โทรสอบถามเส้นทางได้ที่หมายเลข 092-3954463 นอกจากนี้ลูกค้าสามารถแต่งกายไทยย้อนยุคมานั่งรับประทาน เซลฟี่กับบรรยากาศที่ร้านได้เช่นกัน

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ "เพลินไพลิน" กินเตี๋ยวแกงส้ม นั่งห้อยขาดูปลา ชมตะวันคล้อยปลายทุ่งนา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook