อนุสาวรีย์หมูสีทองแห่งที่ 2 อายุกว่าร้อยปี วัดดังเมืองอ่างทอง

รูปปั้นหมูสีทองอร่ามตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณหน้าศาลาการเปรียญภายในวัดไชยสงคราม ริมถนนอ่างทอง-ป่าโมกสายเก่า ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทองเป็นที่สะดุดตาและสร้างความสงสัยให้กับประชาชนที่ผ่านไปมาจนอดไม่ได้ที่จะเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมและสอบถามถึงความเป็นมาของอนุสาวรีย์หมูสีทองแสนสะดุดตาแห่งนี้

โดยเมื่อเข้าไปภายในวัดจะเห็นรูปปั้นหมูอยู่บนฐานขนาดใหญ่สูงกว่า 2 เมตรลักษณะเป็นหมูกำลังย่างก้าวไปข้างหน้า และบริเวณหลังของหมูมีลักษณะคล้ายอานม้าที่ช่างปั้นเจตนาแสดงให้เห็นว่าเป็นพาหนะ

และเมื่อตรวจสอบโดยรอบก็พบรูปถ่ายสีขาวดำของหลวงพ่อเปี่ยมหรือพระครูวิเศษชัยสิทธิ์ อดีตเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้สร้างวัดไชยสงครามแห่งนี้ประดิษฐานอยู่ ด้านหน้า

เพื่อคลายความสงสัยเราจึงถามไปยังนายอรรณพ สุวรรณชนะ หรือรองต่าย ไวยาวัจกรวัดและรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหถึงความเป็นมาเป็นไปของอนุสาวรีย์หมูแห่งนี้ โดยรองต่ายนำรูปภาพของศาลาวัดหลังเก่าที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งมีอนุสาวรีย์หมูตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศาลามาให้ดู

พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่เกิดมากว่า 40 ปีแล้วก็เห็นอนุสาวรีย์หมูตั้งอยู่ที่นี่ ซึ่งตอนเป็นเด็กๆก็สงสัยว่าทำไมถึงสร้างหมูไว้บนแท่นเป็นอนุสาวรีย์ที่นี่ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าอนุสาวรีย์หมูแห่งนี้แท้ที่จริงแล้วเป็นที่บรรจุอัฐิของหลวงปู่เปี่ยม อดีตเจ้าอาวาสผู้สร้างวัดไชยสงครามแห่งนี้ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2451หรือเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมา

หลวงปู่เปี่ยมเป็นพระที่ชาวอ่างทองให้ความศรัทธาและเคารพนับถือเป็นจำนวนมากหลังสร้างวัดสนามชัยซึ่งอยู่ในตลาดอ่างทองจนเจริญรุ่งเรืองก็ได้มาสร้างวัดกระเชา ซึ่งเป็นวัดร้างในสมัยก่อนและเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไชยสงคราม ต่อมาเมื่อหลวงปู่เปี่ยมมรณภาพทางชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างอนุสาวรีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของหลวงพ่อไว้ที่หน้าศาลาหลังเก่า

ส่วนสาเหตุที่รูปปั้นหมูก็น่าจะเป็นเพราะเป็นปีเกิดของหลวงพ่อและในสมัยก่อนนิยมสร้างตามปีเกิดของเจ้าของเจดีย์ ก่อนที่ต่อมาจะมีการบูรณะซ่อมแซมศาลาและย้ายจากจุดเดิมมาตั้งไว้ตรงนี้ซึ่งชาวบ้านก็ย้ายอนุสาวรีย์หมูตามมาด้วยและคงรูปแบบเดิมไว้จนถึงปัจจุบัน

สำหรับหลวงพ่อเปี่ยมเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอยู่ในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด จนชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาจำนวนมากรวมถึงเป็นพระที่ดุจนสามารถปกครองดูแลวัดทั้งวัดสนามชัยและวัดไชยสงครามได้ในคราเดียวกัน

ซึ่งตาของตนที่เคยบวชอยู่ที่วัดสนามชัย เล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อเปี่ยมจะไม่ชอบให้พระหรือเณรเล่นหมากรุกภายในวัด มีอยู่วันหนึ่งพระที่วัดจับกลุ่มเล่นหมากรุกกันบนศาลา โดยไม่เชื่อคำเตือนที่บอกต่อๆกันมาว่าหลวงพ่อเปี่ยมไม่ชอบ จู่ๆตะเกียงล้มไฟดับ พระเณรต่างวิ่งเข้ากุฏิแทบไม่ทันและบอกกันว่าไม่รู้โดนใครเขกหัว จนถึงปัจจุบันก็จะไม่พระเณรเล่นหมากรุกภายในวัดอีกเลย

สำหรับอนุสาวรีย์หมูที่นี่น่าจะเป็นแห่งที่ 2 ในประเทศไทยและสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในยุคเดียวกันโดยที่แรกตั้งอยู่ริมคลองคูเมืองเดิม ในส่วนของคลองหลอด อยู่ที่เชิงสะพานปีกุน ฝั่งตรงข้ามวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ริมถนนถนนราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2456

เมื่อสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระชนมายุครบ 50 พรรษา ซึ่งพระองค์พระราชสมภพในปีกุน ในวันเฉลิมพระชนมายุของพระองค์ในปีนั้น สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงร่วมกับพระยาพิพัฒน์โกษา (เศเลสติโน ซาเวียร์) และพระยาราชสงคราม (กร หงสกุล) ซึ่งเกิดปีเดียวกันกับพระองค์ ร่วมกันจัดสร้างสะพานปีกุน และ อนุสาวรีย์สหชาติขึ้น