ชี้เป้า 7 สถานที่ท่องเที่ยวชมดอกไม้เมืองรองภาคเหนือ ขับรถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
แนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวชมดอกไม้หายากแสนสวยสุดตระการตาในจังหวัดเมืองรองทางภาคเหนือ ขับรถเที่ยวสบาย เที่ยวได้ตลอดทั้งปี สุขทันทีที่เที่ยวเมืองรอง เหมาะอย่างยิ่งการขับรถท่องเที่ยวไปกับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ จะมีที่ไหนน่าไปบ้างไปชมกันเลย
1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกหงอนนาค
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนสิงหาคม - ตุลาคม
สถานที่แห่งแรก Sanook Travel ขอพาทุกท่านแอ่วเหนือไปยังอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เวลาขับรถราว 2 ชั่วโมงครึ่งจากตัวเมือง จ.พิษณุโลก โดยอุทยานแห่งนี้ถือเป็นเทือกเขาสูงอันดับ 4 ของประเทศ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินป่าและกางเต็นท์พักแรมชมวิวสวยสุดตระการตา โดยแนะนำให้เดินป่าขึ้นเขาสูงชั้นในช่วงหน้าฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป โดยประกอบไปด้วย 5 เนินหลัก คือ เนินส่งญาติ, เนินปราบเซียน, เนินป่าก่อ, เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ
ไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว คือ ดอกหงอนนาคสีม่วง ที่เมื่อออกดอกจะมีกลีบดอกสีม่วงครามบานสะพรั่งกับเกสรสีเหลืองทอง ถือเป็นดอกไม้ที่ช่วยให้ผู้พบเห็นรู้สึกสดชื่น มีพลังพร้อมสู้กับอุปสรรคต่างๆ ด้วยความสวยที่เป็นเอกลักษณ์รอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเช็กอิน
นักท่องเที่ยวยังสามารถชมน้ำตกภูสอยดาว รวมถึงเส้นทางเดินป่าชมดอกหงอนนาคสีม่วง ณ ลานสน ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร ที่ระดับความสูง 1,633 เมตร สามารถจองเข้าอุทยานผ่านแอปพลิเคชัน QueQ โดยอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมความสวยงามได้อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป
สถานที่: อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โทร 091-024-7633
ททท. สำนักงานแพร่ โทร 0-5452-1127
2. ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกบัวตอง
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนพฤศจิกายน
ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ตั้งอยู่ตำบลแม่อูคอ อยู่ในความรับผิดชอบของวนอุทยานทุ่งบัวตอง ตลอดเส้นทางเป็นถนนลาดยางมีพื้นที่ครอบคลุมเป็นเขากว้างราว 500 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะเป็นทิวเขาเขียวสูงสลับกับทุ่งดอกบัวตองทั่วพื้นเขา
เมื่อดอกบัวตองบานพร้อมๆ กันในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขา มีความสวยงามมาก โดยจุดที่เป็นที่นิยมในการชมทัศนียภาพอันสวยงามของทุ่งดอกบัวตองมากที่สุด คือ บนดอยแม่อูคอ เนื่องจากข้างบนนี้สามารถมองเห็นทุ่งดอกบัวตองได้แบบ 360 องศา หากถ่ายรูปเช็กอินลงโซเชียลแล้วล่ะก็ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องอิจฉาอย่างแน่นอน
สถานที่: ดอยแม่อูคอ
องค์การบริหารส่วนตำบลแม่อูคอ โทร 0-5361-5987
ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร 0-5361-2982
3. ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์ บ้านเขาโล้น อำเภอทับคล้อ จ.พิจิตร
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกกระเจียวยักษ์
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนสิงหาคม - กันยายน
หากขับรถเลยจากตัวเมือง จ.นครสวรรค์ ไปประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะเจอกับทุ่งดอกกระเจียวยักษ์ บ้านเขาโล้น อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เป็นทุ่งดอกกระเจียวยักษ์ ซึ่งมีพื้นที่ 400 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ เขาโล้น เขาชะอม และเขาตะพานนาก หมู่ที่ 6 บ้านเขาโล้น ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร โดยจุดที่สามารถพบดอกกระเจียวยักษ์ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด อยู่บริเวณพื้นที่เขาชะอมและเขาตะพานนาก ที่มีต้นกระเจียวออกดอกขนาดใหญ่ขึ้นอยู่เรียงราย รอให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศแสนสวยไปฝากเพื่อนๆ
ดอกกระเจียว เป็นพืชดั้งเดิมของไทยขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ในแถบภาคเหนือ และภาคอีสาน รวมทั้งประเทศใกล้เคียง มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า CURCUMA AERUQINOSA ROXB มีชื่อเรียกตามท้องถิ่น หรือ ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า ดอกกระเจียว, ดอกกระเจียวแดง และดอกอีเจียว
โดยลำต้นของดอกกระเจียวจะมีลำต้นอยู่ใต้ดินที่เรียกว่าเหง้าหรือหัว กลีบดอกสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ความกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ชูช่อสีชมพู สลับสีขาว ตัดกับใบสีเขียว กระจายปกคลุมพื้นที่ด้านล่างของป่าชุมชนที่มีต้นไม้ขนาดกลางปกคลุมทั้งพื้นที่สร้างความประทับใจในความสวยงามกับผู้พบเห็นดอกกระเจียวยักษ์ที่มีหลายหมื่นดอก รอคอยให้นักท่องเที่ยวมาเก็บภาพความประทับใจกลับไป
สถานที่: พื้นที่เขาชะอม และเขาตะพานนาก
ททท. สำนักงานนครสวรรค์ โทร 0-5622-1811-2
ป่าชุมชนบ้านเขาโล้น โทร 061-794-9692, 089-220-5700
4. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกเปราะภูขาว
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนมิถุนายน - สิงหาคม
หลายคนอาจคุ้นชื่อแต่ยังไม่เคยมาเที่ยว "อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า" จ.พิษณุโลก ซึ่งอุทยานแห่งชาติที่วางตัวอยู่บนรอยต่อของสามจังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ในอดีตนั้นเคยเป็นสมรภูมิรบอันยิ่งใหญ่ที่ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ไทยอย่างไม่มีวันลืมเลือน ปัจจุบันควันไฟแห่งสงครามได้จางหายไป เหลือเพียงความสงบ ร่มรื่น และความสวยงามของธรรมชาติป่าเขา รอให้นักท่องเที่ยวได้มาผ่อนคลายสูดอากาศสดชื่นอย่างเต็มปอด
อุทยานภูหินร่องกล้ามียอดเขาสูง 1,617 เมตรเหนือระดับทะเลปานกลาง มีทิวทัศน์สวยงาม ซึ่งปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขาที่มีสนสองใบและสนสามใบขึ้นปะปนกัน นอกจากนี้ยังพบกล้วยไม้ดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน โดยไฮไลต์จะอยู่ที่ดอกเปราะภูขาว ซึ่งจะออกดอกเป็นสีขาวงามสะพรั่งในช่วงฤดูฝน ซึ่งหลายครั้งดอกชนิดนี้ยังอาจเป็นสีชมพู พบได้เฉพาะที่ลานหินปุ่ม อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเท่านั้น จึงถือเป็น A must ที่นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาดเมื่อมาเยือนที่นี่
ไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าก็มีหลากหลายให้เลือกเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวการใช้ชีวิต และการสู้รบของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้อาวุธต่าง ๆ - ทางเดินโลกที่สาม เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผ่านภูมิทัศน์สวยงาม ตลอดจนสถานที่สำคัญของ พคท. อาทิ
- สำนักอำนาจรัฐ เป็นสถานที่ดำเนินการทางการปกครองพิจารณาลงโทษผู้กระทำผิด คุกสำหรับคุมขัง สถานที่ทอผ้าและโรงซ่อมเครื่องจักรกล
- ที่หลบภัยทางอากาศซึ่งเป็นโพรงถ้ำกว้างขวางจุคนได้กว่า 200 คน
- ผาชูธง เป็นจุดที่คอมมิวนิสต์ชักธงแดงทุกครั้งที่รบชนะ
- โรงเรียนการเมือง การทหาร เคยใช้เป็นสถานที่ให้การศึกษาตามแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์
- และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ผาชูธง, สุสานทหาร, ลานหินแตก, น้ำตกศรีพัชรินทร์, น้ำตกหมันแดง เป็นต้น
สถานที่: อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร 081-596-5977
Facebook - อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า - Phu Hin Rong Kla National Park
ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร 0-5525-2742-3
5. อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกชมพูภูคา
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน เป็นอุทยานที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ มีพื้นที่ทั้งหมดกว่าหนึ่งล้านไร่ และยังถือเป็นพื้นที่ป่าต้นกำเนิดของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพโดยทั่วไปเป็นทิวเขาทอดยาวจากหลวงพระบาง อยู่ตอนปลายสุดของเทือกเขาหิมาลัย เป็นรอยต่อของป่าเขตร้อนกับป่าเขตอบอุ่น จึงมีระบบนิเวศที่หลากหลาย เป็นแหล่งที่พบพันธุ์พืชหายาก เช่น ต้นชมพูภูคา ต้นเต่าร้างยักษ์ ก่วมภูคา รวมถึงสัตว์ใกล้สูญพันธ์ุอย่าง กระท่างน้ำดอยภูคา และกบอกหนามน่าน เป็นต้น
การขับรถมายังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา แม้ว่าจะมีเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยว แต่ก็คุ้มค่าที่จะมาเยือน เพราะที่แห่งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติจำนวนมาก เช่น ที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ, ลานดูดาว, จุดชมวิว 1715 และน้ำตกตาดหลวง ทั้งยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะใกล้-ไกลหลายเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางศึกษาธรรมชาติ "ภู 1700" ที่มีการประกอบกิจกรรม “โรงเรียนนักเดินป่า (Outdoor Education)” เป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการท่องเที่ยวแบบสร้างผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด
ช่วงที่เป็นไฮไลต์ของการมาท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เป็นช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกชมพูภูคาเริ่มบานสะพรั่งให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและถ่ายรูป แต่หากเป็นช่วงฤดูหนาว (ปลายปี) บริเวณจุดชมวิว 1715 จะมีชาวบ้านนำผลิตผลทางการเกษตรมาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว อาทิ ข้าวโพด, ถั่ว, ข้าว และผักพื้นถิ่น
ช่วงปิดทำการสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
- ล่องแก่งน้ำว้าตอนกลาง ระหว่าง 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม
- ดอยภูแว ระหว่าง 1 มีนาคม – 30 กันยายน
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลเด่นช้างนอน ระหว่าง 17 มีนาคม – 14 กันยายน
- น้ำตกขุนน้ำปัว ระหว่าง 1 พฤษภาคม – 30 กันยายน
- น้ำตกตาดหลวง ระหว่าง 1 มิถุนายน – 30 กันยายน
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติภู 1700 ระหว่าง 1 มิถุนายน – 30 กันยายน
- เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอกขมพูภูคา ระหว่าง 1 มิถุนายน – 30 กันยายน
- อุทยานปิดทำการระหว่าง 1 มิย. - 30 กย. (เปิดเฉพาะที่ทำการอุทยาน บ้านพัก และลานกางเต็นท์)
สถานที่: อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร 082-194-1349
6. บ้านป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกเสี้ยวป่า
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม
ตั้งอยู่ตำบลแจ้ซ้อน เป็นชุมชนที่มีอายุกว่า 200 ปี มีอากาศเย็นสบายตลอดปี และค่อนข้างหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว ชาวบ้านมีอาชีพปลูกข้าวไร่ กาแฟอาราบิก้า ลูกพลับ รวมถึงการเก็บใบชาป่าเพื่อนำมาแปรรูปเป็นของกินเล่นที่ชาวเหนือเรียกว่า “เหมี้ยง” หรือ “เมี่ยง” เพราะบริเวณนี้มีต้นเมี่ยงขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ "บ้านป่าเหมี้ยง"
กิจกรรมที่น่าสนใจในพื้นที่บ้านป่าเหมี้ยง ได้แก่ การเดินป่าเก็บใบเมี่ยง การทำกระเป๋าชาใบเมี่ยง การชมวิธีการทำเหมี้ยง การคั่วกาแฟ รวมไปถึงการทำอาหารซึ่งเป็นพืชผักออร์แกนิคโดยเฉพาะอาหารขึ้นชื่ออย่าง “ยำใบเมี่ยง” และยังมีสะพานรักดอกเสี้ยวและลานดอกเสี้ยว ซึ่งเป็นจุดชมดอกเสี้ยวที่จะออกดอกบานสะพรั่งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคมของทุกปี
นอกจากนี้ ชุมชนยังมีโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจมาพักค้างแรมเพื่อสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้วิถีชุมชนอย่างแท้จริง โดยโฮมสเตย์จะตั้งอยู่ใกล้ริมธารที่ตัดผ่านตัวหมู่บ้าน เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถไปนั่งพักผ่อนและเล่นธารน้ำใสสะอาดได้ นอกจากนี้ยังมีการจัดอาหารเฉพาะถิ่นให้ลิ้มรสความอร่อย เช่น ยำใบเมี่ยง กาแฟคั่วมือทั้งแบบชงและแบบดริป
สถานที่: บ้านป่าเหมี้ยง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
โฮมสเตย์บ้านป่าเหมี้ยง โทร 093-1375-533
ปีนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชม "เทศกาลดอกเสี้ยวบาน" ครั้งที่ 23 ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2567 นี้ ที่หมู่บ้านป่าเหมี้ยง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง โดยภายในงานจะมีการแสดงสืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีวิถีไทย วิถีม้ง การแสดงดนตรีพื้นเมือง การแสดงระบำไทลื้อ การแสดงวิถีชีวิตรำเก็บเหมี้ยง กิจกรรม Workshop เกี่ยวกับใบชา กาแฟ ตลอดจนออกร้านค้าผลิตภัณฑ์ OTOP จากภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้าน
สถานที่ชมดอกไม้ได้ตลอดปี (ห่างจากลานดอกเสี้ยวบ้านป่าเหมี้ยง ประมาณ 45-50 นาที)
ไร่ห่มฟ้า อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
ไร่ดอกไม้ที่มีบริเวณกว้างขวางหลายร้อยไร่ มีคาเฟ่และร้านอาหารที่รายล้อมด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ไม่ว่าจะเป็นดอกทานตะวัน ดอกพิทูเนีย ดอกดาวเรือง และอื่นๆ เปลี่ยนผันไปตามฤดูกาล ไร่นี้เปิดตลอดทั้งปีให้เข้าชมทุกวัน มีดอกไม้นานาพันธุ์รวมไว้มากมาย นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม และศูนย์การเรียนรู้การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และในส่วนของคาเฟ่และร้านอาหาร ซึ่งภายในคาเฟ่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ อีกทั้งยังมีขนมถ้วย และไอศกรีมให้บริการอีกด้วย
พิกัด : ไร่ห่มฟ้า และ Homfa Half Marathon
https://maps.app.goo.gl/p8okZ68awSwZYNag8
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00น.
เบอร์โทรศัพท์ 086-1890202, 065-0103010
ค่าเข้าชม เด็กเล็ก 20บาท
เด็กโต 30บาท
ผู้ใหญ่ 50 บาท
7. บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์
ดอกไม้ไฮไลต์: ดอกบัวแดง
บานในช่วง / สวยที่สุด: เดือนตุลาคม - มกราคม
บึงบอระเพ็ด บึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถขับรถเดินทางมาได้อย่างสะดวก โดยบึงบอระเพ็ดนี้ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอท่าตะโก และอำเภอชุมแสง ในอดีตได้ชื่อว่าเป็น "ทะเลเหนือ" หรือ "จอมบึง" เนื่องจากมีสัตว์และพันธุ์พืชน้ำอยู่มากมาย จากการสำรวจพบว่ามีสัตว์อาศัยอยู่จำนวน 148 ชนิด พืชจำนวน 44 ชนิด ซึ่งเคยพบสัตว์หายาก ได้แก่ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร ปลาเสือตอ โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคม จะมีนกเป็ดน้ำจำนวนมากอพยพมาที่บึงแห่งนี้ ภายในบึงบอระเพ็ดจะมีนกประจำถิ่นหลายชนิด อาทิ นกเป็ดน้ำ นกอีโก้ง นกอีแจว นกปากห่าง ซึ่งจะวางไข่ในเดือนกรกฎาคม-เดือนมีนาคม และพื้นที่บางส่วนของบึงบอระเพ็ดจะดูแลโดย “เขตห้ามล่าสัตว์ป่า” ซึ่งทำหน้าสำรวจและเก็บข้อมูลภายในบึงบอระเพ็ด
นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับนักท่องเที่ยว คืออาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ดเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นอาคารรูปทรงเรือกระแชงแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในมีการจัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดกว่า 100 ชนิด พร้อมพันธุ์ปลาน้ำเค็มอีกหลายพันธุ์ภายในมีอุโมงค์ปลายาว 24 เมตร สามารถเดินลอดอุโมงค์ เพื่อชมปลาว่ายเวียนไปมาและยังมีกิจกรรมดำน้ำโชว์การให้อาหารปลาทุกวัน (เวลา 15.00 น.) การแสดงจระเข้ เริ่มรอบแรกแสดงเวลา 10.30 น. วันละ 6 รอบ (งดแสดงทุกวันพุธแรก และพุธที่สามของเดือน) รวมทั้งกิจกรรมล่องเรือชมทัศนียภาพรอบบึงบอระเพ็ดเพื่อดูนกนานาชนิด
ทุ่งดอกบัวแดงในบึงบอระเพ็ดเป็นดอกบัวที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวของทุกปี จะเบ่งบานสวยงามเป็นจำนวนมาก โดยดอกบัวแดงชุดแรกจะบานเต็มที่ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมเป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมดอกบัวแดงได้ตลอดทุกวัน โดยจะมีจุดขึ้นเรือ 2 จุด ได้แก่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ตำบลพระนอน อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์ และ บ้านรางบัว หมู่ที่ 6 ตำบลวังมหากร อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์
สถานที่: บึงบอระเพ็ด
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด โทร 0-5627-4525
ททท. สำนักงานนครสวรรค์ โทร 0-5622-1811-2
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลช่วงเวลาออกของดอกไม้ก่อนออกเดินทางด้วย เนื่องจากการออกดอก การบาน หรือการร่วงโรยของดอกไม้จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศนั่นเอง
#สุขทันทีที่เที่ยวเมืองรอง
#เปิดประสบการณ์ใหม่เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม
#365วันมหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง
#AmazingThailand