6 เส้นทางสุขทันที... ที่เที่ยวเมืองรองภาคอีสาน ทั้งอิ่มท้อง ทั้งได้บุญ
แนะนำ 6 เส้นทางสุขทันที... ที่เที่ยวเมืองรองภาคอีสาน จบครบทั้งอิ่มท้อง ทั้งได้บุญเสริมโชคลาภ ขับรถเที่ยวตามได้ไม่ยาก จะมีเส้นทางไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
เส้นทางที่ 1 ท่องเที่ยวชวนชิมอาหารอร่อย จ.อุบลราชธานี - ยโสธร - อำนาจเจริญ ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 ร้านปากหม้อโรบอท - Song Sarn Coffee & Home Roaster - เขื่อนสิรินธร - ร้านอาหารผาแต้ม&แก่งพิศมัยริเวอร์ไซด์ - วัดป่าภูปัง – ถนนสายวัฒนธรมเขมราฎร์ธานี
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ร้านปากหม้อโรบอท ร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อที่ได้รับการแนะนำในคู่มือ Michelin Guide ฉบับปี 2023 ชิมปากหม้อญวนอร่อย ๆ เปิดบริการมากว่า 30 ปี เจ้าของร้านยังคงลงมือทำเองทุกขั้นตอน แนะนำเมนูซิกเนเจอร์ชวนน้ำลายสออย่างปากหม้อญวนไข่ดาว เมนูเด็ดที่เจ้าของร้านคิดค้นเอง เสิร์ฟคู่น้ำจิ้มรสเผ็ดหวานที่เข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม (โทร. 081 997 2801)
แวะคาเฟ่ 'ย่านเมืองเก่า' ในตัวเมืองอุบลราชธานี อย่างร้านคาเฟ่ที่มีชื่อว่า Song Sarn (ส่งสาs) Coffee& Home Roaster ร้านกาแฟของคนอุบลฯ ที่อยากส่งสารคาเฟอีนเสิร์ฟคู่การเมือง ดนตรี และศิลปะ เป็นร้านกาแฟที่ถูกรีโนเวตและคงสภาพอาคารเก่าไว้เกือบทั้งหมด มีการตกแต่งและต่อเติมน้อยมาก ๆ ให้มวลความรู้สึกที่เป็นกันเองราวกับแวะเวียนมากินกาแฟบ้านเพื่อน (โทร. 082 225 6466)
ออกเดินทางไปยังเขื่อนสิรินธร อำเภอสิรินธร เพื่อจุดชมวิว 1,000 ล้าน แหล่งท่องเที่ยวทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) เส้นทางเดินชมธรรมชาติความยาวกว่า 415 เมตร ชมโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนสิรินธรที่ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนผืนน้ำอันกว้างใหญ่พื้นที่กว่า 450 ไร่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ทั้งจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำ นับว่าเป็นนวัตกรรมไฮบริดสุดล้ำของ กฟผ. ที่แรกของประเทศไทย และยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (โทร. 045 366 081)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร ผาแต้ม&แก่งพิศมัย ริเวอร์ไซด์ ร้านอาหารชื่อดังในอำเภอโขงเจียมชมวิวริมแม่น้ำโขงบรรยากาศชิล ๆ จากนั้นแวะพักผ่อน ณ ความทรงจำ :The Memory Cafe ถ่ายภาพชิล ๆ (โทร. 093 321 9889)
ช่วงบ่าย
ออกเดินทางไป วัดป่าภูปัง สายศรัทธาที่ต้องห้ามพลาด วัดชื่อดังในเรื่องของ พญานาคเรืองแสง และมีพระประธานปางมหาจักรพรรดิ์ทรงเครื่อง ที่สวยที่สุดในจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ยังถือได้ว่าเป็นแหล่งธุดงค์สถานของ องค์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต ถิ่นตำนานเมืองนาคราช ดินแดนชาวบังบดที่เล่าขานกันในตำนานพญานาค 3 องค์แห่งวัดป่าภูปัง (โทร.083 832 5324)
รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมสุขสงวน (โทร. 093 564 3165) เดินทางไป ถนนสายวัฒนธรรมเขมราฎร์ธานี ดินแดนแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ชมการแสดงฟ้อนรำ การแสดงรำทั้งหมดสองรอบ รอบแรก ในเวลา 18.00 น. และรอบสองในเวลา 19.00 น. กลับเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2 หนองเม็กโมเดล – โฮมสเตย์ บ้านนาหมอม้า - หมู่บ้านทำหมอนขิด บ้านศรีฐาน - พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก – ร้านครัวคุณย่า
ช่วงเช้า
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เยี่ยมชม "หนองเม็กโมเดล" ผักอินทรีย์ต้นแบบแห่งแรก ของอำนาจเจริญ ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ ตั้งใจปลูกผักอินทรีย์เพื่อเป็นแหล่งอาหาร สด สะอาด ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคทุกคน รวมทั้งพัฒนาสินค้าผักอินทรีย์บ้านหนองเม็กให้เป็นสัญลักษณ์ "เมืองธรรมเกษตร" (โทร.090 932 7915, 095 613 1411 )
รับประทานอาหาร ณ โฮมสเตย์ บ้านนาหมอม้า ชิมเมนู ป่นปูนา ลาบปูนา เมนูขึ้นชื่อของหาทานยากพร้อมกับข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีหอมๆ และร่วมกิจกรรม DIY สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกกและเสื่อกกลายมัดหมี่ ชมการผลิตเสื่อกกจากฝีมือสมาชิกกลุ่มหัตถกรรม บ้านนาหมอม้า (โทร. 098 586 0691)
ช่วงบ่าย
เที่ยวชมและซื้อผลิตภัณฑ์ หมู่บ้านทำหมอนขิด บ้านศรีฐาน ยโสธร ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยอีสานกิจกรรมทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมายาวนาน (โทร.081 579 0592) ถ่ายภาพเช็คอินแลนมาร์คยโสธร เมืองพญาแถน แดนบั้งไฟ ชมพิพิธภัณฑ์พญาคันคากที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทวนใน จ.ยโสธร เป็นตึกพิพิธภัณฑ์รูปคางคก สำหรับชาวอีสาน คางคกเป็นสัตว์ที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและเป็นตำนานความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟที่มีมาช้านาน จึงเป็นที่มาของแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เปิดให้เข้าชม : 10.00-16.00 น. (จันทร์-ศุกร์) , 09.00-17.00 น. (เสาร์-อาทิตย์) หยุดทุกวันอังคาร ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (โทร.097 3084610)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านครัวคุณย่า เป็นร้านอาหารเก่าแก่บรรยากาศดีอยู่ในเมืองติดกับ พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก เมนูอาหารถิ่นขึ้นชื่อ ได้แก่ ปลาสัมทอด เช่น สุกี้ชาบู ข้าวผัดเวียดนาม ห่อไข่ ผัดขนมเส้นทรงเครื่อง สัมตำต้นอ่อนทานตะวัน ข้าวเปียกเส้น,ยำปูนิ่มทรงเครื่อง ปากเป็ดทอด ฯลฯ เวลาเปิด-ปิด : 07:00-21:00 น. เปิดทุกวัน (โทร.089 424 4043, 045 721 141) จากนั้นเข้าที่พัก จ.ยโสธร
วันที่ 3 เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า – กลุ่มโคขุนหนองแหน - ร้านเนื้อโคขุน By โคขุน หนองแหน - ของฝากเมืองอุบล
ช่วงเช้า
แวะชมเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมือง เป็นย่านเมืองเก่าที่ปรากฏนามอยู่ในประวัติศาสตร์การก่อตั้งเมือง ปัจจุบันในบริเวณดังกล่าวยังคงมีตึกแถวโบราณ ที่มีรูปทรงและลวดลายงดงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีซึ่ง เหมาะแก่การท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง ทั้งยังมีศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนดูตระการตา และพิพิธภัณฑ์บ้านสิงห์ท่าที่รวบรวมเรื่องราวความเป็นมา ของย่านเมืองเก่าให้ผู้ที่สนใจได้เข้าชม นอกจากนี้ ในย่านนี้เป็นแหล่งทำปลาส้มและลอดช่องยโสธร ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดยโสธร
ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร เยี่ยมชมกลุ่มโคขุนหนองแหน จ.ยโสธร แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านปศุสัตว์แห่งใหม่ของจังหวัดยโสธร เปิดฟาร์มต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสกับวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนคนเลี้ยงโคขุนคุณภาพที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ โชว์ความแสนรู้ของโคที่เลี้ยงเสมือนหนึ่งสัตว์เลี้ยงแสนรัก พร้อมทั้งให้ความรู้ในเรื่องของการรวมกลุ่ม และการเลี้ยงโคขุนสร้างรายได้ จากนั้นรับประทานอาหารกลางวัน ณ เนื้อโคขุน By โคขุน หนองแหน
เส้นทางที่ 2 ท่องเที่ยวตามรอยข้าวหอมมะลิและบรรพชีวิน จ.ร้อยเอ็ด - กาฬสินธุ์ ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 ไก่ย่างเหนือเมือง – กาแฟหลังสวน - ปู่ย่า ฟาร์มสเตย์ - วัดภูกุ้มข้าว – สุกี้เฮ้าส์
ช่วงเช้า
เดินทางถึงจังหวัดร้อยเอ็ด รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านไก่ย่างเหนือเมือง และกาแฟหลังสวน อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
ช่วงบ่าย
เยี่ยมชม ปู่ย่า ฟาร์มสเตย์ อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางข้าวหอมมะลิของจังหวัดร้อยเอ็ด บ้านพักกลางทุ่งที่ครอบครัวทำไว้สังสรรค์ส่วนตัวเฉพาะเพื่อนฝูงคนรู้ใจ เป็นฟาร์มสเตย์ที่พัก ให้แขกได้เข้ามาสัมผัสวิถีชาวนาขนานแท้ สูดอากาศฟินๆ นั่งจิบกาแฟดูทุ่งนาสีเขียวขจี ดูรวงข้าวที่พัดปลิวตามสายลมให้รู้สึกผ่อนคลาย เดินเล่นตามคันนา ดูดดื่มธรรมชาติ ลิ้มลองเครื่องดื่มพื้นบ้าน ได้แก่ สาโทโรเซ่ (ผลิตจากข้าวเหนียวก๋ำ) สูตรเฉพาะของทางฟาร์ม (www.facebook.com/PuYaFarmStay)
เยี่ยมชม วัดภูกุ้มข้าว อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด สักการะองค์พญานาคราชวิรูปักโข องค์ปู่พญานาคสีทองที่สูงเด่นเป็นสง่าท่ามกลางทุ่งนาและเนินเขา ที่สร้างขึ้นจากความเชื่อและศรัทธาของชาวบ้านในท้องถิ่น
รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านสุกี้เฮ้าส์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ต่อด้วยเข้าที่พัก ณ โรงแรมร่มไทรทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 2 ร้านบ้านเป็ดอาหารเช้า / ร้านแตงอาหารเช้า - พุทธสถานภูดานไห - หลังสวนคาเฟ่ by สวนก้องจิราภาส - พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์บ้านนาไคร้ - แหล่งเรียนรู้ซากดึกดำบรรพ์ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยา แหล่งปลาโบราณภูน้ำจั้น – ร้านลี้แซ่บ
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ร้านบ้านเป็ดอาหารเช้า หรือ ร้านแตงอาหารเช้า อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เยี่ยมชม พุทธสถานภูดานไห อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เยี่ยมชมรอยพระพุทธบาทธรรมชาติสองรอย ซึ่งทางวัดได้ทำเจดีย์ครอบไว้ แต่คนสามารถเข้าไปนมัสการได้ ในบริเวณวัดมีสิ่งก่อสร้างเป็นพระพุทธรูปหินหล่อ ปูนปั้นและแกะสลักหน้าผาเข้าไปอย่างสวยงามมาก โดยที่สิ่งก่อสร้างกลมกลืนกับธรรมชาติ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านหลังสวนคาเฟ่ by สวนก้องจิราภาส อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
ช่วงบ่าย
เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์บ้านนาไคร้ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ สถานที่ที่จุดพบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งถูกค้นพบในปี พ.ศ.2535 โดยนายจุฬา ศรีบุตตะ ครูโรงเรียนนาไคร้ประชาสรรค์ และหลังจากการสำรวจโดยผู้เชี่ยวชาญ มีการค้นพบซากกระดูกไดโนเสาร์ทั้งหมดจำนวน 171 ชิ้น ซึ่งขณะนี้เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์สิรินธร อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงเพื่อการเรียนรู้ ทางวิทยาศาสตร์ ระบบสุริยะ-โลก-ดวงจันทร์ รวมทั้งประวัติการขุดพบซากอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ที่บ้านนาไคร้
เยี่ยมชม แหล่งเรียนรู้ซากดีกดำบรรพ์ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยา แหล่งปลาโบราณภูน้ำจั้น จังหวัดกาฬสินธุ์ ฟอสซิลปลาโบราณกว่า 100 ซาก และถือว่าเป็นการค้นพบฟอสซิลปลาโบราณครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านลี้แซ่บ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นเข้าที่พัก ปรัชญารีสอร์ท อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 3 วัดพุทธาวาส (พุทธสภานภูสิงห์) - ผาแดงภูสิงห์ - พิพิธภัณฑ์สิรินธร
ช่วงเช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ วัดพุทธาวาส (พุทธสถานภูสิงห์) อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เยี่ยมชม ผาแดงภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นหน้า ผาหินทรายสีแดงที่มีขนาดใหญ่และหนา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแหล่งท่องเที่ยว โดยหน้าผาหินทรายนี้ ปรากฏโครงสร้างธรณีวิทยาที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น การวางชั้นเฉียงระดับที่มีขนาดใหญ่ แสดงถึงทิศทางการไหลของแม่น้ำโบราณ และปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่สวยงาม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะกัดกร่อนจากน้ำ และลมทำให้เกิดเป็นเสาหลักหินทราย ซึ่งมีความโดดเด่นทางธรณีวิทยาที่สมควรส่งเสริมให้เป็นแหล่งมรดกธรณี เพื่อที่จะขับเคลื่อน "อุทยานธรณีกาฬสินธุ์"
จากนั้นรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารพิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
ช่วงบ่าย
เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์สิรินธร อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ แหล่งขุดค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์กินพืชที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย โดยพบกระดูกไดโนเสาร์เกือบทั้งตัว กองรวมอยู่กับกระดูกไดโนเสาร์กินพืชอีกชนิดหนึ่ง กระดูกทั้งหมดอยู่ในชั้นหินที่วางตัวอยู่บนไหล่เขาของภูกุ้มข้าวซึ่งมี รูปร่างคล้ายลอมฟาง มีความสูงประมาณ 240 เมตร ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณีได้ขุดค้นซากไดโนเสาร์พบกระดูกมากกว่า 700 ชิ้น ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์สิรินธรเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิจัยทางด้านบรรพชีวินวิทยาในระดับนานาชาติและเป็นที่จัดเก็บตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ของประเทศ
เส้นทางที่ 3 เส้นทางท่องเที่ยว จ.สุรินทร์ - ศรีสะเกษ ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1 หมู่บ้านช้าง - ศูนย์คชศึกษา โดยแซตอม ออกานิคฟาร์ม - หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง – ห้องอาหารเอมอร
ช่วงเช้า
เดินทางไปยัง หมู่บ้านช้าง ชมการแสดงช้าง หอชมช้าง พีระมิด พิพิธภัณฑ์ เซ่นไหว้มูศาลปะกำ เสริมสิริมงคลต่อชีวิตโดยครูปะกำ (หมอช้าง) สร้างประสบการณ์ วิถีคน วิถีช้างในโปรแกรม "กวยอาเจียงเลี้ยงช้าง" ตามเส้นทางฐานกิจกรรมดังนี้ ไหว้มูพระครูปะกำ ปากท้องต้องรู้ ช้างกินอาหารเป็นยา สาธุ 99 ลอดท้องช้างเสริมศิริมงคล ชมอิริยาบถและความสดใสน่ารักของช้าง FC ในหมู่บ้านช้างสุรินทร์
รับประทานอาหารกลางวันเมนู "ข้าวยำปลาจ๋อม" ณ ศูนย์คชศึกษา โดยแซตอม ออกานิคฟาร์ม แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์เกรดเยี่ยม รู้จักข้าวผกาอำปีล พันธุ์พื้นเมืองและวิสาหกิจแห่งนี้สามารถแปรรูปข้าวเป็นไวน์ข้าว (Rice Wine)
ทำกิจกรรม Wine Testing ลิ้มสไวน์หลากชนิด เช่น กล่อมทุ่ง กะล่อน โกเมน จุติ แบล็คจัสมิน เป็นต้น และเสิร์ฟอาหารมื้อกล่างวันแบบสุรินทร์สไตล์
ช่วงบ่าย
ออกเดินทางไปยัง หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่างชมความวิจิตรงดงามของการทอโดยใช้คนทอประจำกี่ 4-5 คน แต่สามารถทอได้เพียงวันละ 5 ซม. ด้วยกี่ทอผ้านับพันตะกอ ซึ่งมีความสูงเท่าตึกสองชั้น หัตถกรรมผ้าไหมแห่งเดียวของประเทศ ชมหมู่บ้านทอผ้าไหมโบราณบ้านท่าสว่างเอกลักษณ์ของจังหวัดสุรินทร์พร้อมเลือกซื้อผ้าไหมสุรินทร์ของหมู่บ้านตลอดแนวถนนสองฝั่ง
รับประทานอาหารเย็น ร้านอาหารท้องถิ่น เช่น ห้องอาหารเอมอร และพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือชมวิถีชีวิตชาวสุรินทร์ในยามค่ำคืน
วันที่ 2 วัดบูรพาราม - ร้านกุนเชียงห้าดาว – ปราสาทศีขรภูมิ - ร้านนายเฮงดี - วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม – ครัวไทยลาว
ช่วงเช้า
ชมวัดบูรพาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี วัดสำคัญเก่าแก่ สร้างขึ้นสมัยกรุงธนบุรีอายุประมาณ 200 ปี เท่าๆ กับอายุของจังหวัดสุรินทร์ มีพระราชวุฒาจารย์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ตำแหน่งเจ้าอาวาสและยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระชีว์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุรินทร์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
แวะร้านของฝากเมืองสุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ ณ ร้านกุนเชียงห้าดาว อาทิ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ผักกาดหวาน กาละแมสด หมูหยอง หมูแก้ว กุนเชียง เป็นต้น เยี่ยมชม ปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ประกอบด้วยปรางค์ 5 องค์ เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์ และงดงามที่สุดมากที่สุดในจังหวัดสุรินทร์
รับประทานอาหารเที่ยงสุดเด็ด "ไก่ย่างไม้มะดัน" ณ ร้านนายเฮงดี
ช่วงบ่าย
ชมวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ สถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยงามมากๆ อีกแห่งของจังหวัดศรีสะเกษ ภายในถ้ำมีความอลังการด้วยรูปปั้นพญานาคที่อ่อนช้อยงดงามให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำพญานาคใต้น้ำที่ดูลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ อลังการถ้ำวังบาดาลหรือถ้ำพญานาค ความงดงามของถ้ำแห่งนี้ สร้างขึ้นจากความศรัทธาในเรื่องของพญานาค
ออกเดินทางไปยังที่พักจังหวัดศรีสะเกษ พักผ่อนตามอัธยาศัย รับประทานอาหารเย็น ณ ครัวไทยลาว จังหวัดศรีสะเกษ
วันที่ 3 วัดมหาพุทธาราม - วัดไพรพัฒนา - ตลาดการค่าชายแดนด่านช่องจอม
เยี่ยมชม วัดมหาพุทธาราม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจังหวัดศรีสะเกษ วิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองและเป็นที่เคารพสักการะของชาวศรีสะเกษ "หลวงพ่อโต" เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร จากนั้นรับประทานอาหารกลางวัน
เยี่ยมชม วัดไพรพัฒนา อำเภอกูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้ท่านได้เข้านมัสการสรีระสังขาร หลวงปู่สรวงออย เตียนสรูล เทวดาเดินดิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน หรือเทวดาเดินดิน สำหรับคำดังกล่าวเนื่องจากว่า ชาวบ้านต่างให้ความศรัทธาหลวงปู่สรวงและเชื่อว่าท่านมี บารมีที่สามารถให้โชคลากแก่ผู้มีจิตศรัทธาเสมือนเทวดามาโปรด
ออกเดินทางไปยัง ตลาดการค้าชายแดนด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ช้อปสินค้าราคาถูกมีให้เลือกมากมาย อาทิ กระเป๋า รองเท้า ผ้าม่าน เสื้อผ้า นาฬิกา และอื่นๆ นอกจากนี้มีอาหารให้เลือกมากมาย ผัก ผลไม้ อาหารสดและแห้งต่างๆ เดินเพลินได้ทั้งวัน ที่สำคัญราคาน่ารักมาก
เส้นทางที่ 4 ท่องภูอัคนี ยลวิถีภูเขาไฟ จ.บุรีรัมย์ ระยะเวลา 1 วัน
1 Day Trip เสาหินบะซอลล์ภูเขาไฟ - ผ้าภูอัคนี - ภูลาวา คาเฟ่ แอนด์ฟาร์ม - ภูเขาไฟพระอังคาร - บ้านเจริญสุข - ปราสาทหินทรายสีชมพู - สนามช้างอารีนา - ร้านไก่ย่างสีดา
ช่วงเช้า
ชมความสวยงามเสาหินบะซอลล์ภูเขาไฟสุดมหัศจรรย์ เรียนรู้และสัมผัสความงามของภูมิปัญญาของชุมชนบ้านเจริญสุข "ผ้าภูอัคนี" ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติจากดินภูเขาไฟ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด กับ ภูลาวา คาเฟ่ แอนด์ฟาร์ม เป็นอีกหนึ่งที่ฮีลใจของใครหลายคน สัมผัสกับธรรมชาติ ทุ่งนา ภูเขา และดื่มด่ำกับกาแฟและอาหารจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์
ศึกษาเส้นทางธรรมชาติของภูเขาไฟพระอังคารซึ่งเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีสภาพภูมิศาสตร์คล้ายพญาครุฑนอนคว่ำหน้าและเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระอังคาร เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิตด้วยการพิชิตปากปล่องภูเขาไฟสุด Unseen และสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดบริเวณเขาพระอังคารเพื่อเติมความสดชื่นให้ร่างกาย
รับประทานอาหารกลางวัน ในแบบวิถีชุมชนด้วยการเก็บเห็ดจากป่ามาปรุงเป็นแกงเห็ด/น้ำพริกสุดแซ่บ/ไข่เจียวจากเล้าไก่ที่ปลายนาทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ และน้ำสมุนไพรเย็นชื่นใจจากใจ บ้านเจริญสุข
ช่วงบ่าย
เที่ยวชมปราสาทหินทรายสีชมพูที่สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 15 - 18 เพื่อถวายแด่พระศิวะ เทพจ้าในศาสนาอินดูลัทธิไศวนิกายบนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิท ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
ชมสนามช้างอารีนา หรือ "Thunder Castle Stadium" ของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด แห่งจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานระดับโลกมาตรฐาน FIFA สามารถจุผู้ชมได้ถึง 32,600 ที่นั่ง ฟีฟ่าบันทึกว่า ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดเพียง 256 วัน
รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านไก่ย่างสีดา มีก่ย่างสูตรพิเศษเป็นเมนูเด็ดที่มาแล้วจะต้องสั่งทุกโต๊ะ พร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ นอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารอีสานอีกหลายเมนูให้ลิ้มลอง
เส้นทางที่ 5 ตาลอง เมืองต้องลอง (ชุมชนบ้าตาลอง) จ.บุรีรัมย์ ระยะเวลา 1 วัน
1 Day Trip บ้านตาลอง - วัดปทุมทอง - นาฮัก นาแพง - สนามช้างอารีนา - พระสุภัทธบพิตร - สวนอาหารเรือนแสนสุข
ช่วงเช้า
การแสดงต้อนรับด้วยเรือมตรดและบายศรีสู่ขวัญ จากชาวบ้านตาลอง พร้อมรับประทานอาหารและน้ำสมุนไพรสูตรพิเศษ เติมความสดชื่นเรียนรู้วิถีชุมชนกับการไหว้ศาลปู่ตาประจำหมู่บ้าน เรียนรู้การทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติ พร้อมฝึกการมัดย้อมด้วยตัวเอง แล้วนำกลับไปเป็นของฝากจากชุมชน
รับประทานอาหารเที่ยง ด้วยอาหารมื้อพิเศษจากบ้านตาลอง วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ ปลาหลากหลายชนิดจากลำน้ำมูลมาปรุงเป็นอาหารถิ่นมีรสชาติที่โดดเด่น
ช่วงบ่าย
ขอพรเสริมสิริมงคล "หลวงพ่อใหญ่ดงแสนตอ" พระปฏิมาศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 4 ของจังหวัดบุรีรัมย์ เที่ยวชมความงดงามของ วัดปทุมทอง ที่เกิดจากแรงแห่งความศรัทธาของชุมชนชาวบ้านพลับและใกล้เคียง จนเกิดเป็นประติมากรรมที่สวยงาม
ชมคาเฟ่สุดเก๋ "นาฮัก นาแพง" ออกแบบโดยสถาปนิกจากบ้านไร่ไออรุณ บรรยากาศท่ามกลางนาข้าวอินทรีย์ สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมมุมถ่ายภาพสุดชิค
ชมสนามช้างอารีนา หรือ "Thunder Castle Stadium" ของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แห่งจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานระดับโลกมาตรฐาน FIFA สามารถจุผู้ชมได้ถึง 32,600 ที่นั่ง ฟีฟ่าบันทีกว่า ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดเพียง 256 วัน
กราบไหว้ "พระสุภัทรบพิตร" องค์พระประจำเมืองและถ่ายรูปบริเวณสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟ ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง
รับประทานอาหารเย็น ณ สวนอาหารเรือนแสนสุข อาหารไทยและอีสาน รสชาติอร่อยต้องลิ้มลอง บรรยากาศเรือนไทยย้อนยุคสุดคลาสสิค มีมุมถ่ายภาพสุดเก๋
เส้นทางที่ 6 ตาลอง เมือต้องลอง “คนและนกกระเรียนพันธุ์ไทย” (ชุมชนบ้านสวายสอ) จ.บุรีรัมย์ ระยะเวลา 1 วัน
1 Day Trip ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุมน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย - ชุมชนบ้านสวายสอ - เถียงนาเชฟเทเบิ้ล - เรียนรู้ทำผ้าก๋วย ณ ชุมชมบ้านสวายสอ - Suki Desu - สนามช้างอารีนา - พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.1
ช่วงเช้า
ล่องเรือชมนก ณ ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย จังหวัดบุรีรัมย์ ชม "นกกระเรียนพันธุ์ไทย" ที่เคยสูญพันธุ์จากประเทศไทย แต่ปัจจุบันองค์การสวนสัตว์ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ นำประชากรนกกระเรียนพันธุ์ไทยปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ในพื้นที่ชุ่มน้ำของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน จ.บุรีรัมย์
ลิ้มรสอาหารว่างต้อนรับสู่ ชุมชนบ้านสวายสอ ข้าวต้มและวาฟเฟิลอร่อยๆ จาก ข้าวสารัส หรือ ข้าวนกกระเรียนพันธุ์ไทย พร้อมเครื่องดื่มสมุนไพรสุดพิเศษจากชุมชน
ร่วมทำกิจกรรม D.I.Y. การทำเข็มกลัดรูปนกกระเรียน และการเพันท์ภาพนกกระเรียนพันธุ์ไทย รับประทานอาหารเที่ยง ณ เถียงนาเชฟเทเบิ้ล อาหารเที่ยงมื้อพิเศษที่สร้างสรรค์และถ่ายทอดเมนูพื้นบ้านจากแม่ครัวของชุมชน โดยใช้วัตถุดิบในพื้นที่ และกินบนเถียงนา จนออกมาเป็นอาหารมื้อพิเศษที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ท่ามกลางบรรนากาศท้องไร่ท้องนาสุดฟิน
ช่วงบ่าย
ผ่อนคลายยามบ่ายกับ โฮมสปาภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่นำศาสตร์การนวดที่สืบทอดกันมาในชุมชน ผสานสูตรผลิตภัณฑ์นวดจากกัญชา ทั้งน้ำมันลูกประคบ และสครับ ออกมาเป็นโฮมสปาที่มีเอกลักษณ์ เรียนรู้การทำ ผ้าก่วย หรือ ซึ่นก๋วย ผ้าของชุมชนสวายสอที่มีลักษณะการทอไขว้กันไปมา ตัวผ้าสีน้ำเงินเข้ม ตีนสีแดงสลับริ้วลายสีชมพูสีขาวและสีเหลืองใช้สวมใส่ในงานมงคล ประเพณีที่สำคัญในชุมชน และรับแขกบ้านแขกเรือน
ลิ้มรสชาติกาแฟกับคาเฟ่ "Suki Desu" บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบ Modern Espresso บาริสต้าคัดสรรกาแฟและเทคนิคการดึงรสชาติกาแฟแต่ละตัวให้ออกมาได้ดีที่สุด ยังมีขนมปังที่ใช้นมสดท้องถิ่นคุณภาพดี หอมกรุ่น นุ่ม กลมกล่อม
ชมสนามช้างอารีนา หรือ "Thunder Castle Stadium" ของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แห่งจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ที่ไม่มีลู่วิ่งคั่นสนามและผ่านมาตรฐานระดับโลกมาตรฐาน FIFA สามารถจุผู้ชมได้ถึง 32,600 ที่นั่ง ฟีฟ่าบันทีกว่า ใช้เวลาก่อสร้างน้อยที่สุดเพียง 256 วัน
สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.1 พร้อมปิดทองฉัตร 360 ฉัตร เสริมสิริมงคลชีวิต รับประทานอาหารเย็น ร้านข้าวต้มตี๋ภาค 2 เป็นร้านข้าวต้มซิกเนเจอร์ของจังหวัดบุรีรัมย์ ชาวจังหวัดบุรีรัมย์และนักท่องเที่ยวนิยมมารับประทาน มีเมนูต้ม นึ่ง ผัด ให้เลือกสั่งมากมาย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 6 เส้นทางสุขทันที... ที่เที่ยวเมืองรองภาคอีสาน รับรองว่าหากใครได้ขับรถเที่ยวตามนี้แล้วล่ะก็ จะต้องได้ความสุขกาย สุขใจ ได้บุญ อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นถิ่นรสเลิศ แถมยังได้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ของแต่ละท้องที่ในประเทศไทยอย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย
#สุขทันทีที่เที่ยวเมืองรอง
#เปิดประสบการณ์ใหม่เที่ยวเมืองรองมิรู้ลืม
#365วันมหัศจรรย์เที่ยวเมืองรอง
#AmazingThailand