ถอดสูตรเสน่หา น้องหมีเนย Butterbear คาแรกเตอร์มีชีวิตที่ใคร ๆ ก็ตกหลุมรัก

25 มิ.ย. 67 (13:50 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

ช่วงนี้ใครเดินเที่ยวเล่นช้อปปิ้งย่านราชประสงค์ เป็นต้องเห็นนักท่องเที่ยวหิ้วถุงกระกระดาษของ น้องหมีเนย Butterbear กันให้พรึ่บพรั่บ ขณะที่โซเชี่ยลก็ฮอตไม่หยุด กลายเป็นพี่สาวดาวประดับฟ้าของแฟนคลับทั้งชาวจีนชาวไทยแบบฉุดไม่อยู่ เป็นปรากฏการณ์ คาแรกเตอร์มีชีวิตที่ชวนเป็นกรณีศึกษาอย่างมาก

คาแรกเตอร์แบรนด์ ที่ถูกแทนด้วยตัวการ์ตูนมาสคอต ถูกนำมาใช้ทางการตลาดมานานโข แต่ที่จะชวนให้รองโอ้ววโหววว! ทำไมน่ารัก จนตกแฟนคลับอย่างหนักได้ขนาดนี้ คงต้องบอกว่าน้องหมีเนยเป็นมาสคอตมาร์เก็ตติ้งแห่งศตวรรษที่ 21 รุ่นแรกที่ต้องบันทึก!

ทั้งที่มาสคอตและตุ๊กตาหมีเกลื่อนโลกขนาดนี้ Butterbear ทำได้อย่างไร ?

นั่นไม่เพียงการออกแบบน้องหมีหน้าอมยิ้มที่ดูเฟรนด์ลี่อารมณ์ดี แต่คาแรกเตอร์นี้ยังได้รับการออกแบบให้มีสรีระคล้ายมนุษย์ เพิ่มรายละเอียดให้น้องหมีเนยเป็นมากกว่าตุ๊กตา ทั้งนิ้วมือ แววตา ยิ้มหวาน ลำตัวปุ้มปุ้ยที่สวมใส่เสื้อผ้าชุดน่ารักได้เหมือนเด็กน้อยน่ากอด องค์ประกอบถูกพรีเซนต์ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แตกต่างจากมาสคอตเดิม ๆ ที่ลดทอนรายละเอียดและเคลื่อนไหวได้จำกัด

และที่สำคัญ ผู้สวมใส่ภายใต้น้องหมียังสามารถแสดงท่าทางที่บ่งบอกอารมณ์และความรู้สึกของน้องหมีเนยได้อย่างมีเสน่ห์ แถมยังเต้นเก่งซะด้วย เพลงฮิตเพลงดังก็สามารถเต้นคัฟเวอร์ได้อย่างเป๊ะปัง แต่ยังคงคาแรกเตอร์น้องหมีขี้เล่นขี้อ้อนสุดคิ้วท์ได้อย่างดี แถมมารยาทงามน่าเอ็นดู

ทั้งร่างภายในและภายนอก เชื่อมจิตของแทร่!

คาแรกเตอร์ที่ดีหรือจะโด่งดังเพราะโชคช่วย กว่าน้องจะกลายเป็นสาวไอดอลท่านหนึ่งผ่านกระบวนการมากกว่านั้น

คุณบูม-ธนวรรณ วงศ์เจริญรัตน์ เจ้าของแบรนด์ Butterbear ซึมซับธุรกิจเบเกอรี่จากคุณแม่ ซึ่งก็คือ คุณดาว-ณัฐธยาน์ ปางพุฒิพงศ์ เจ้าของร้านดัง Coffee Beans by Dao เธอหลงรักการทำขนมพอ ๆ กับความรักที่มีต่อสุขภาพ จึงเริ่มปลุกปั้นแบรนด์ Skinnylicious ขนมสายคลีนที่กินแล้วไม่รู้สึกผิดมาก่อน

เมื่อเริ่มจับทางธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจนประสบความสำเร็จ คุณบูมมองหาอีกกลุ่มเป้าหมายต่างวัย จึงเลือกสร้าง Butterbear ที่นำเสนอรสชาติขนมคุณภาพไปพร้อมกับกราฟิกดีไซน์ที่มีคาแรกเตอร์หมีที่เรียกว่า "น้องเนย" เป็นตัวเล่าเรื่อง ผสมผสานการออกแบบแพกเกจจิ้งอันโดดเด่นราวกับหนังสือนิทานชวนสะสม และใคร ๆ ก็อยากซื้อเป็นของฝาก

ระยะแรก Butterbear เป็นที่รู้จักในระดับหนึ่งแต่ยังไม่เปรี้ยงปร้างสะท้านโซเชียล น้องหมีเนย เป็นเพียงคาแรกเตอร์บนกล่องขนม และปรากฏเป็นร่างมาสคอตหมีคาดผ้ากันเปื้อนที่ยืนเหงา ๆ หน้าป๊อปอัพบูธที่มาออกร้านเพียงชั่วคราวเท่านั้น

กระทั่งงานวันเด็กช่วงต้นปี ห้างใหม่เอ็มสเฟียร์รวมเอามาสคอตแต่ละแบรนด์มาเต้นประชันหน้าห้าง แต่ละตัวแดนส์กันเต็มเหนี่ยว เหวี่ยงสะบัดสะบั้นหั่นแหลก ขณะที่น้องหมีเนยยืนยักย้ายส่ายสะโพก ยกมือปิดแก้มทำเหนียมอาย แบบเต้นน้อยแต่มีเสน่ห์มาก!

และนั่นกลับกลายเป็นภาพความน่ารักที่กลายเป็นไวรัลยอดหลักล้านวิวในเวลาอันรวดเร็ว นักเที่ยวต่างพากันถ่ายคลิปแชร์ จับใจกลุ่มลูกค้าที่มองเห็นชีวิตชีวาของน้องหมีเนย ประกอบการปรากฏตัวในแพลตฟอร์มต่างๆ ในสื่อโซเชี่ยลของจีนจนติดคำค้นหาว่าน้องหมีตนนี้คือใคร

นับจากนั้นตุ๊กตาหมีหน้าหวานเริ่มมีบทบาทอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นอินฟลูรีวิวขนมของแบรนด์ ไปพร้อมๆ กับตำแหน่งไอดอลนักเต้นที่คอสตูมจัดเต็มมากขึ้นทุกที และเข้าวงการ T-POP มีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเองไปแล้วเรียบร้อย

ความสำเร็จนี้กลายเป็นกรณีศึกษาเรื่องคาแรกเตอร์แบรนด์ที่คนทำธุรกิจจับตามอง ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องว่าแบรนด์ Butterbear มีพร้อมทั้งคุณภาพของสินค้า แผนธุรกิจที่สั่งสมจากประสบการณ์ และการสร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน

ถึงอย่างนั้น ชาวด้อมน้องหมีเนย ได้ย้อนคลิปช่วงแรกที่ยังน้องหมีเนยยังไม่มีผู้คนห้อมล้อม แต่น้องหมีเนยก็ยืนดุ๊กดิ๊กทำหน้าที่อย่างไม่ย่อท้อ ทักทายผู้คนตลอดเวลา โดยไม่มีใครรู้ว่าร่างข้างในจะมีรอยยิ้มหรือน้ำตาพร้อมหยาดเหงื่อมากแค่ไหน กระทั่งได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายจนถึงวันนี้

เป็นความประทับใจของชาวด้อมที่ไม่ต่างจากการเฝ้ามองการเติบโตของศิลปิน ที่ต้องผ่านช่วงเดบิวต์อันท้าทายและพิสูจน์ตนเองกว่าจะประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามตั้งแต่เริ่มสร้างแบรนด์ เส้นทางของน้องหมีเนยยังเดินอยู่บนถนนที่ถูกกำหนดไว้ชัดเจนว่า "Your buttery best friend" วลีที่สื่อถึงความสัมพันธ์ที่สนิทสนม อบอุ่น เหมือนเพื่อนที่ดีที่อยู่เคียงข้างเสมอ เปรียบเสมือนน้องหมีเนยจะคอยสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้คน

และเป็นไอดอล “มีชีวิต” เจ้าของร้านขนมของไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก!