สิ่งที่นักท่องเที่ยวไทยควรรู้ ก่อนนั่งรถไฟไปเที่ยวลาว
สิ่งที่นักท่องเที่ยวไทยควรรู้ ก่อนนั่งรถไฟไปเที่ยวลาว
การเดินทางเที่ยวด้วยรถไฟ นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่ที่น่าเปิดใจลอง เพราะนอกเหนือจากเรื่องราวที่จะพบเจอในระหว่างทาง ซึ่งน่าจะมีความแตกต่างจากการการเดินทางด้วยยานพาหนะอื่น ๆ อย่างแน่นอนแล้ว ก็ยังมีเสน่ห์อีกมากมายที่หาไม่ได้ด้วยการเดินทางแบบอื่น สำหรับใครที่อยากลองสัมผัสกับการนั่งรถไฟเที่ยว ก็อาจจะเริ่มลองได้จากเส้นทางที่ไปจังหวัดใกล้เคียง และค่อย ๆ ขยายขอบเขตออกไปยังจังหวัดที่ไกลออกไป เดินทางข้ามภูมิภาค หรือจะลองนั่งยาว ๆ ไปประเทศเพื่อนบ้านก็ได้ โดยเส้นทางระหว่างประเทศใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะเปิดให้บริการ ก็คือ กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ มา! มานั่งรถไฟไปลาวกัน
นั่งรถไฟไปลาว ทริปกรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ จองตั๋วได้แล้ว เตรียมเดินทางได้เลย
นับเป็นอีกวิธีการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปลาวที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย และรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว มีการขยายเส้นทางการเดินรถไฟจากสถานีท่านาแล้ง ซึ่งเป็นสถานีรถไฟในนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว และเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหนองคายในประเทศไทย การขยายเส้นทางเส้นทางการเดินรถไฟให้เชื่อมต่อกันระหว่างสองประเทศ จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งยาว ๆ จากกรุงเทพฯ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปลงที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ได้เลยโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนขบวนรถไฟ รถจะออกจากกรุงเทพฯ ในช่วงกลางคืน และไปถึงเวียงจันทน์ในช่วงเช้า เริ่มเดินรถเที่ยวแรกวันนี้ (19 กรกฎาคม 2567)
- เที่ยวไป ขบวนรถเร็วที่ 133 ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. ถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เวลา 09.05 น.
- เที่ยวกลับ ขบวนรถเร็วที่ 134 ออกจากสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เวลา 18.25 น. ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 07.30 น.
ทั้ง 2 ขบวน จะแบ่งเป็น
- รถนั่งชั้น 3 พัดลม ราคา 281 บาท/คน
- รถนั่งชั้น 2 ปรับอากาศ ราคา 574 บาท/คน
- รถนอนชั้น 2 ปรับอากาศ เตียงบน ราคา 784 บาท/คน และเตียงล่าง ราคา 874 บาท/คน
โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกขึ้นสถานีระหว่างทางได้ ราคาจะลดหลั่นตามระยะทาง จองตั๋วรถไฟได้ที่เว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวลาว
- ปกติการไปเที่ยวลาว จะต้องใช้หนังสือเดินทาง (Passport) ด้วย แต่หากไม่มีหนังสือเดินทาง ก็จะต้องมีหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ที่สามารถลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์ไปก่อน หรือจะไปทำที่สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนหนองคายก็ได้ อย่างไรก็ตาม คิวทำอาจจะยาว และกลับมาไม่ทันขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางต่อ โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟกับขบวนรถไฟ 133 ที่วิ่งตรงไปยังเวียงจันทน์เลย
- ลาว เป็นประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนที่สามารถเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา หรือก็คือไม่ต้องขอวีซ่า (ฟรีวีซ่า) นั่นเอง โดยสามารถพำนักอยู่ได้ครั้งละ 30 วัน
- เวลาที่ลาวกับไทยเท่ากัน ใช้เวลามาตรฐานอินโดจีน (ICT) (UTC+07:00) เหมือนกัน การเที่ยวลาวจึงไม่จำเป็นต้องปรับนาฬิกา
- ลาว ใช้สกุลเงินกีบ (LAK) อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาทไทย ประมาณ 614 กีบ (วันที่ 19 กรกฎาคม 2567) เป็นสกุลเงินที่ไม่มีเหรียญกษาปณ์ คนไทยไปเที่ยว ควรแลกเงินเป็นเงินกีบไปด้วย เพราะนโยบายล่าสุดของลาว คือรณรงค์ให้ใช้เงินกีบ หากจะใช้เงินบาท อาจเจอเข้ากับอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นธรรม โดยเป็นเรตที่พ่อค้าแม่ขายตั้งเอง
- ภาษาลาว ใกล้เคียงกับภาษาไทย อาจจะสื่อสารกันยากสักเล็กน้อย แต่เข้าใจกันได้อย่างแน่นอน และคนไทยสามารถอ่านตัวหนังสือลาวได้ไม่ยากนัก
- การใช้รถที่ลาว รถในลาวใช้พวงมาลัยซ้าย ขับชิดขวา ถ้านำรถจากฝั่งไทยข้ามไปใช้ ระมัดระวังเรื่องการขับรถด้วย
- การนำรถจากฝั่งไทยไปใช้ที่ฝั่งลาว ต้องทำเอกสารสำคัญสำหรับรถยนต์ด้วย และรถที่นำไปจะต้องผ่อนหมดเรียบร้อยแล้ว ใช้ใบขับขี่แบบ Smart Card ได้เลย
- ระบบไฟฟ้า ปลั๊กไฟ ใช้ระบบเดียวกับที่ไทย ไฟ 220v จึงไม่จำเป็นต้องพกหัวแปลงไฟฟ้า
- ห้ามพกอาวุธใด ๆ เข้าลาว หากโดนสุ่มตรวจเจอ อาจติดคุกที่ลาวยาว
- นักท่องเที่ยวต้องพักโรงแรม หากไปพักบ้านชาวลาวต้องได้รับอนุญาตจากตำรวจ โดยตำรวจลาวจะออกใบอนุญาตให้พักเช่า
- ระมัดระวังเรื่องมารยาท เรื่องที่ผิดธรรมเนียม จารีต ประเพณี และกฎหมาย
- การติดต่อสถานที่ราชการ ต้องนุ่งซิ่น