เที่ยวพิมาย

เที่ยวพิมาย

เที่ยวพิมาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เที่ยวพิมาย 3 พฤศจิกายน 2546 โดย...ปุ๊กก้า

กลับมาอีกครั้งค่ะสำหรับปุ๊ก คราวนี้เราได้เริ่มต้นเดินทางไป จ.นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ไม่ต้องสงสัยค่ะว่าทำไมคราวนี้ถึงได้ไปไกลนัก แต่เอ๊ะก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่จริงไหมคะ ถ้าเราตั้งใจจะไปซะอย่าง พูดมากพอแล้วค่ะ เรามาเริ่มต้นเดินทางกันดีกว่า

เช้าของวันเสาร์ที่ 25 เป็นเช้าที่สดใสมากค่ะ เริ่มต้นจากการนั่งแท๊กซี่ไปยัง ททท. เพื่อไปสมทบกับสื่อมวลชนที่มาจากที่อื่นเพื่อร่วมทางไปด้วยกันในครั้งนี้ เวลา 8.00 เราก็ได้เริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปสู่โบนันซ่าเพื่อชมนกแก้วมาคอร์ และสวนกล้วยไม้ 250 ไร่ คุณน้อยที่รับผิดชอบดูแลกล้วยไม้ยังบอกเราอีกว่าที่นี่ส่งดอกกล้วไม้ไปยังกรุงเทพฯ และตามโรงแรมต่างๆ ก็จะมารับดอกกล้วยไม้ที่นี่ด้วยค่ะ

หลังจากที่เราได้ชมกล้วยไม้ และนกมาคอร์เสร็จแล้ว เราก็ได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันก่อนค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้องจริงไหมค่ะ หลังจากนั้นก็ไปยัง อ.โนนสูง ไปชมแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท และที่นี่เองแหล่ะค่ะที่สร้างความประทับใจให้ปุ๊กไม่น้อย เพราะอะไรหรอคะ ที่นี่จะมีชาวบ้านมาคอยต้อนรับ เพราะว่าพวกเราจะต้องพักกับชาวบ้านที่บ้านปราสาทนี่แหล่ะคะ

สำหรับปุ๊ก ได้อยู่บ้านแม่บัว ซึ่งพอไปถึงแม่บัวก็จะนำดอกไม้ที่ร้อยไว้ มาคล้องคอให้ หลังจากนั้น ก็จะมีวิทยากรจากกรมศิลปากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับแหล่งโบราณคดีที่ขุดค้นพบที่บ้านปราสาท ซึ่งจากตรงนี้เอง ทำให้เราได้รู้ว่า สมัยก่อนมีการนำศพฝังไว้ในหม้อ ซึ่งจากในความคิดของปุ๊กน่าจะเป็นการนำกระดูกใส่ไว้ในหม้อ แล้วทำการฝังค่ะ จะบอกว่าเอาศพฝังไว้ในหม้อมันดูโหดร้ายเกินไปนะคะ เลยเข้าใจอย่างนี้ค่ะ

หลังจากชมแหล่งโบราณคดีเสร็จแล้ว เราก็ได้นั่งรถอีแต๋นที่ชาวบ้านเตรียมไว้ให้ในการจะนำพวกเราไปส่งตามบ้านต่างๆ ที่พวกเราได้พักกัน ก่อนจะถึงบ้านพักของพวกเราก็ได้แวะชมโน่นชมนี่ไปเรื่อยๆๆๆตลอดทาง จะบอกว่า ได้กินตลอดทางก็ว่าได้ อิอิ เพราะทาง พี่รุ่ง และ น้องเดียร์ ที่นำทีมพวกเราไป ขนขนม น้ำ มาไว้ให้พวกเราทานตลอดทาง แถมไปบ้านปราสาท ชาวบ้านที่นั่นใจดีมากๆ หาน้ำมะพร้าวหวานๆ หอมๆ มาคอยต้อนรับเรา แล้วยังมีขนมตาลสุดแสนอร่อยอีก ค่ะ หลังจากที่แวะทานน้ำ ขนมของชาวบ้านแล้ว เราก็ยังได้ดูวิธีการทอผ้าไหม ทุกขั้นตอนด้วยค่ะ เป็นไงคะเที่ยวนี้ไปไม่เสียหลายเลยค่ะ ได้อะไรดีๆ หลายอย่างประดับความรู้ของเรา

หลังจากทำการเก็บข้าวของเข้าบ้านพักเรียบร้อย เราก็ได้เดินทางไปยังพิมายค่ะพอก้าวเข้าไปเราก็จะเจอกับไกด์ตัวน้อย ๆ ของเรา ซึ่งก็เป็นเด็กนักเรียนจากพิมายเนี้ยแหล่ะค่ะ คอยต้อนรับให้คำอธิบายเกี่ยวกับการงานพิมายที่จัดขึ้นค่ะ แล้วก็ยังมีคนแก่คนเฒ่า มาผูกข้อไม้ข้อมือ เพื่อรับขวัญพวกเราค่ะ

หลังจากนั้นเราก็ไปชมการแสดง มินิไลท์ แอนด์ ซาวด์ ที่ทาง พิมายจัดไว้ให้เราชม ชุดแรกที่นำออกมาแสดงคือ รำบายศรีสู่ขวัญ ค่ะ ซึ่งถ้าเรานั่งมองจากข้างนอกจะได้บรรยากาศเหมือนเราเข้ามาอยู่ในเมืองเขมรหรือว่าเข้ามาอยู่ในเมืองแบบโบราณค่ะ เพราะมีการสาดแสงเข้าไปในตัวปราสาทพิมายทำให้เกิดความสวยงามค่ะ ทำได้เยี่ยมมาก สมกับคำขวัญของ ททท. จริงๆที่ว่า เที่ยวเมืองไทยไม่ ไปไม่รู้ คำนี้ใครยังไม่ได้สัมผัสก็ไม่เป็นไรค่ะแต่ถ้าใครได้มางานนี้แน่นอนคำนี้ จะต้องเข้าไปอยู่ในหัวแบบไม่ต้องแงะออกมาเลยละคะ เวอร์ไปเปล่าคะ อิอิ และในงานนี้ยังมีสินค้า OTOP ให้เราได้เลือกชม เลือกซื้อกันค่ะ

หลังจากดูการแสดง มินิไลท์ แอนด์ ซาวด์ เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางกลับบ้านพัก ที่เราได้ทำการจับจองไว้แล้วว่าใครจะนอนบ้านใครคะ หลังจากนั้นก็ทำการเข้านอน อากาศที่โคราช ตอนกลางคืนเหมือนจะไม่หนาวมากค่ะ แต่พอนอนๆ ไปสัก ตีสองตีสาม นี่แทบจะรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียวกับผ้าห่มเลยละคะ

**********************************

เช้าของวันที่ 26 อันสดใสเริ่มขึ้นอีกหนึ่งวันหลังจากได้ทำการอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว แม่บัวก็จัดแจงหากาแฟ โอวัลติน ปาท่องโก๋ เตรียมไว้ให้ เป็นไงละคะ สบายจริงๆ ใช่ไหม หลังจากทานกาแฟ ยังไม่ทันจะหมดแม่บัวก็บอกว่าให้ไปยกอาหารเช้ามาทาน แม่บัวให้ลูกสาวมาทำไว้ให้ทานคะ เราก็ว่าทำไม ช่วง 06.00 มันมีกลิ่นกระเทียมเจียวลอยมารำไร ไม่งั้นก็ไม่ตื่นหรอก (ตระกะไปเปล่าคะ) ทานข้าวเช้าแล้ว แม่บัวของเราก็กลัวเราจะไม่อิ่มค่ะ ไปหามะพร้าวน้ำหอมมาให้เราอีกสองลูก หามีดมาให้เสร็จสรรพ แล้วบอกว่าทานซะลูก เดี๋ยวจะหิว ไอ้ เราก็นะ ท้องจะแตกแล้วคะ เลยบอกว่าไม่ทานแล้วคะ แม่บัวยังมีการบอกว่า เอาใส่ถุงไปทานบนรถไหมลูก โอ้ๆๆๆ แม่บัวของเราทำไมช่างห่วงใย เราเหลือเกิน เป็นความประทับใจที่ขอบอกว่าจะต้องกลับไปอีกแน่นอนครั้งที่สอง และอาจจะมีครั้งต่อๆ ไปคะ

หลังจากทำอะไรเรียบร้อยแล้ว เราก็มาขึ้นรถและร่ำราแม่บัวและชาวบ้านปราสา เพื่อออกเดินทางไปชมนกที่แหล่งดูนก ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบินประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ค่ะ ถึงที่หมายซะทีมาถึงที่นี่ ได้มีท่านรองผู้ว่าบุรีรัมย์ ท่านศุภกิจ มาต้อนรับเรา และให้ความรู้เกี่ยวกับการชมนก ยังได้ร่วมเดินทางไปกับเราค่ะ ช่วงนี้เห็นท่านวิทยากรบอกว่า นกยังไม่ค่อยเห็นหรอกค่ะ เพราะเราไปสาย เหอะๆๆ แต่ยังไงเราก็ยังได้ดูแหล่ะค่ะ สถานที่ชมนกที่นี่เปิดมานานแล้วค่ะ ซึ่งถ้าใครอยากที่จะดูนก ชมธรรมชาติ ต้องมาที่นี่ค่ะ ได้ดูนก ทั้ง 149 ชนิดที่หาดูได้ยาก แถมที่นี่ยังเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำระดับนานาชาติ อีกด้วยคะ อ้อลืมบอกไปคะ ที่นี่มีเนื้อที่ในการดูนก 3,568 ไร่เชียวนะคะ ใครที่ชอบนก สนใจนก จริงๆ มาได้เลยค่ะที่นี่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯมากนัก ได้ชมนก ดูธรรมชาติ แล้วจะบอกว่าคุ้มค่ากับการเดินทางค่ะ

หลังจากเราชมนก ชมไม้ เรียบร้อยแล้ว เราก็ได้ออกเดินทางไปยังปราสาทหินเมืองต่ำ ที่นี่เองเราได้รับการต้อนรับจากคณะดนตรีพื้นบ้านภาคอีสานตอนใต้ค่ะ มีการแสดงต่างๆ มากมายให้เราได้ชมกัน งานนี้ยังมี การจัด โฮปบาย ละเงี่ย ไว้ต้อนรับเราด้วยค่ะและขอบอกว่างานนี้นะคะ จัดเป็นปีแรกค่ะ สงสัยกันไหมคะว่า คำว่า โฮปบาย ละเงี่ย เนี้ยแปลว่าอะไร จากการสอบถาม พี่รุ่งทิพย์ ที่มากับคณะเรานะคะ ได้คำตอบว่า โฮปบาย ละเงี่ย เนี้ย แปลว่า การเชิญชวนมาทานข้าวเย็นค่ะ เป็นพิธีแบบโบราณค่ะ

ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาแห่งการย่อยค่ะ เดินชมปราสาทหินเมืองต่ำ ซึ่งมีความสวยงามมาก เป็นอีกที่นึง ซึ่งพวกเราจะต้องอนุรักษ์ เก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานของพวกเราได้มาศึกษาหาความรู้กันคะ และที่นี่เราได้รับเกียติรจากไกด์ซึ่งได้รับรางวัลไกด์ดีเด่นค่ะ หลังจากดูปราสาทเมืองต่ำเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางไปยังที่สุดท้ายของเรา นั่นคือ ปราสาทเขาพนมรุ้งที่ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่ใน อ.เฉลิมพรเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่นี่มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายอย่าง เช่น ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ เป็นโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงมากค่ะ และ มีศิลปกรรมที่น่าสนใจปรากฎอยู่อีกมากมายเลยค่ะ

หลังจากอ่านที่ปุ๊กบรรยายมาซะตาแทบลายแล้วก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ ปุ๊กได้เก็บภาพต่าง ๆ มาให้คุณได้ชมกันค่ะ อาจจะเป็นภาพที่ถ่ายจากมือสมัครเล่นไม่สวยเท่าไหร่ก็อย่าว่ากันนะคะ เสร็จจากการชมสถานที่ต่างๆ เรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ กันค่ะ ในครั้งนี้อยากจะขอขอบคุณ ท่านรองผู้ว่า ศุภกิจ เป็นอย่างมากที่มาคอยต้อนรับเรา คอยให้คำแนะนำต่างๆ ในการที่จะไปชมสถานที่ ให้ความรู้มากมายเกี่ยวกับแหล่งโบราณคดี ในครั้งนี้ และพี่รุ่งทิพย์ และน้องเดียร์ จาก ททท. ค่ะ ที่คอยบริการเราตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปจนถึงที่หมาย กระทั่งวันกลับ มีเสียงหัวเราะ เฮฮา ตลอดทาง ค่ะ งานนี้อาจจะมีอะไรที่ยังชี้แจงไม่ละเอียดหรือว่าอาจจะเขียนอะไรผิดพลาดไปบ้างก็ต้องขอโทษชาวโคราช ไว้ด้วยค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม การเดินทางสู่จังหวัดนครราชสีมา การเดินทางสู่จังหวัดศรีสะเกษ ขอขอบคุณ สำนักงาน ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต1

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมาและกรมศิลปากร กำหนดจัดงานเที่ยวพิมายขึ้นในระหว่างวันที่ 5-9 พฤศจิกายน 2546 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมายลำน้ำจักราช และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอพิมาย จ.นครราชสีมา

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 โทรศัพท์ 044-213-666, 042-213-030

สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-252-020

ที่ว่าการอำเภอพิมาย โทรศัพท์ 044-471-617

สำนักงานเทศบาลตำบลพิมาย โทรศัพท์ 044-471-121

อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย โทรศัพท์ 044-471-568

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook