ปางอุ๋ง
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ จ.แม่ฮ่องสอน กับ วันหยุดพักร้อน ที่ต้องเดินทางโดยไม่ได้ตั้งใจ
นุ บางบ่อ ... เรื่อง / ภาพ
|
หลังจากทริปมหากุศล สนุกคาราวาน ครั้งที่ 2 3-5 ธันวาคม 2548 ผ่านไป ผมคิดว่าเดือนธันวาคมตลอดทั้งเดือนไปจนถึงสิ้นปี ผมจะไม่ได้เดินทางไปไหน คงจะใช้วันเวลาในช่วงกลางเดือนลาหยุดพักร้อนอยู่กับบ้านสักหนึ่งสัปดาห์ แบบว่า ขออยู่บ้านดูแลลูกๆ สามตัว หลังจากที่ทิ้งให้เป็นภาระของพ่อกับแม่มาเกือบทั้งปี เพราะทุกๆ วัน ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ผมออกจากบ้านตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น และกลับถึงบ้านก็ตอนที่ดวงอาทิตย์หายลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว เป็นอย่างนี้อยู่ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ส่วนวันเสาร์ และอาทิตย์ ก็มีอันต้องหาเรื่องออกจากบ้านไปอยู่ตามป่าเขาอยู่ตลอด จึงเป็นเรื่องที่ผมและครอบครัวปุกปุยค่อนข้างห่างเหินกัน ทุกคราวที่ต้องเผชิญหน้า ผมเป็นอันต้องหนวกหูจากเสียเห่ากรรโชก ราวกับผมเป็นคนแปลกหน้า และครอบครัวของเขาทั้งสามเป็นเจ้าของบ้านซะยังงั้น วันที่ 10-18 ธันวาคม จึงเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้ใช้วันหยุดปกติเสาร์อาทิตย์ วันหยุดชดเชย และวันลาพักร้อนรวบยอดให้เป็นวันหยุดยาว เพื่อสร้างความสมานฉันท์ กับลูกๆ 4 ขาน้อยๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วก็เป็น 12 ขา วุ่นวาย ให้เกิดเป็นความอบอุ่น ท่ามกลางสายลมหนาว และอากาศเย็นของเดือนแห่งการส่งท้ายปี ... แต่นี่ก็เป็นเพียงอีก 1 โครงการในฝัน ที่ผมได้เพียงแต่คิดแล้วไม่ได้ทำ. โครงการครอบครัวสมานฉันท์ มีอันต้องประสบความล้มเหลว เพราะเสียงจากโทรศัพท์จากเพื่อนที่มีความมักคุ้นในแวดวงการท่องเที่ยวของผม? "นุ พรุ่งนี้ (16 ธันวาคม) ว่างไหม ไปแม่ฮ่องสอนกันไหม ? พอดีพี่มีที่ว่างที่นึง ...ฯ.... " แบบว่าไม่ทันตั้งตัวครับ คือ ก่อนจะรับโทรศัพท์ผมก็ได้มองดูก่อนว่าใครโทรมา แต่เคสนี้ลึกลับ โทรศัพท์ผมขึ้นว่า "Call" ผมก็เดาว่าถ้าไม่ใช่ Pct ก็เป็นหมายเลขจากต่างประเทศแน่นอน แต่พอรับสายแล้วก็เป็นเสียงของคนที่คุ้นเคย พี่เสก หรือ เสกสรร สุขุม ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ และเว็บไซต์ทัวร์ดอย เป็นบริษัทฯ นำเที่ยวที่เคยได้รับรางวัลกินรี จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รางวัลบริษัทนำเที่ยวยอดเยี่ยม แห่งปี 2547 หลังจากที่พี่เสกบอกรายละเอียดของการเดินทางคร่าวๆ แล้ว ผมใช้เวลาตัดสินใจไม่เกิน 3 วินาที รีบตอบตกลงไปในทันที สาเหตุที่รีบตอบตกลงก็เพราะ พี่เสกได้บรรจุโปรแกรมท่องเที่ยว ปางอุ๋ง ของ จ.แม่ฮ่องสอน ลงไปด้วย โดยส่วนตัวแล้วผมมีความสนใจ และอยากจะไปปางอุ๋ง และหาโอกาสที่จะเดินทางไปอยู่หลายวันแล้ว แต่ไม่มีโอกาส อย่างที่หลายๆ คนเคยบอกแหละครับว่า บางครั้งเราวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวไว้อย่างสวยหรู แต่ค่อนข้างเนิ่นนานหลายวันก่อนการเดินทาง มักจะมีเรื่องให้ต้องล้มเลิกการเดินทางอยู่บ่อยๆ แต่โครงการที่ไม่ค่อยได้เตรียมตัว หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โครงการฉุกละหุก แบบชวนเพื่อนวันนี้ พรุ่งนี้มะรืนนี้ออกเดินทาง โครงการแบบนี้มักจะประสบความสำเร็จคือได้เดินทางไป หลายทริปของผมที่ได้มานำเสนอ ก็เกิดจากการเดินทางแบบนี้อยู่หลายทริป ผมคิดว่า เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นดีนะ คือเราเที่ยวแบบว่า ไม่ต้องวางแผนอะไรมากนัก เพียงเก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อยหน่อย แล้วยัดๆ ใส่กระเป๋าใบเก่ง เลือกเฉพาะเครื่องใช้เท่าที่จำเป็น พอแบกไหวไม่เดือดร้อนใคร อะไรที่ไม่มีก็คือไม่มี ไม่ต้องมีอุปกรณ์ท่องเที่ยวยี่ห้อดัง ไม่ต้องมีอุปกรณ์แบบครบชุดครบเซ็ต เผลอๆ ที่เตรียมไปก็ไม่ได้ใช้แถมหนักอีกต่างหาก พักหลังมานี่ ผมตัดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกหลายอย่าง เช่น เมื่อวันก่อนผมได้ไปกางเต้นท์นอนที่เจ็ดคต แถวๆ บ้านโป่งก้อนเส้า จ.สระบุรี ทริปนี้เป็นทริปฉุกละหุก เหมือนเช่นเคย ชวนพรรคพวกได้สี่ห้าคนก็ออกเดินทาง กะว่าจะไปแค้มป์ปิ้งกัน ถึงสระบุรีก็แวะโลตัส (โลตัสอีกแระ) ซื้อผัก ซื้อหมู ไปทำอาหารกัน พอถึงเจ็ดคต ระหว่างที่พ่อครัวแม่ครัวหัวฟูเหมือนป่า กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมปรุงอาหารให้อร่อย กรุ๊ปของเราก็มีสิ่งที่ขาดอยู่หลายอย่างเช่น น้ำตาล น้ำปลา ถ่านไฟ กระทะใบใหญ่ คือ กระทะที่เตรียมมามันเล็กไป การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ก็คือ หาคนที่มีใบหน้าด้านที่สุดในกลุ่ม แล้วไล่ให้ไปขอยืมของที่ขาดยังเต้นท์ข้างๆ ซึ่งในกลุ่มของผมก็มีผู้มีคุณสมบัติดังกล่าวถึงสองคน จะเป็นใครเสียอีกล่ะ..ก็ผมคนนึง และอีกคนนึงก็ใช่ใครที่ไหน หากใครที่เป็นแฟนคลับเว็บแคมแมน ของ www.sabuy.com เมื่อสองปีก่อน คงจะจำกันได้ นายหนุ่ม เว็บแคมแมน นั่นเอง ว่าแล้ว ผมสองคนผู้มีคุณสมบัติหน้าด้านหน้าทน ก็ออกตระเวนไปยังเต้นท์ข้างๆ มองๆ ดูที่มีออปชั่นครบๆ ไม่ยากครับสำหรับสถานการณ์แบบนี้ ก็เราไม่มีนี่ การขอไม่ใช่เรื่องแปลก เดินทำหน้าซื่อๆ ไปขอกันตรงๆ พูดกะเป้าหมายเบาๆ นุ่มๆ เรียบๆ แบบเจียมตัวๆ ผมใช้มาหลายครั้ง ประสบความสำเร็จทุกครั้ง แถมหลายครั้งยังโชคดี ถูกชักชวนให้ร่วมวงอาหาร ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ผมได้ถ่าน และเครื่องปรุง ตาหนุ่มได้กระทะ หลังจากใช้เรียบร้อยแล้ว ก็นำไปคืนแถมด้วยอาหารอีกส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นการขอบคุณ .... ผมว่าดีนะ ท่องเที่ยวเดินทางแบบนี้ ได้รสชาติดี แถมได้มิตรภาพใหม่ๆ อีกด้วย เผลอแป๊ปเดียว คุยเรื่องหม้อ เรื่องกระทะ เกือบลืมเรื่อง ปางอุ๋ง ซะแล้ว กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ผมเก็บเสื้อผ้าไม่นาน ทริปนี้ไม่เอาไปเยอะครับ เพราะมั่นใจว่าคงจะไม่ค่อยได้อาบน้ำ ก็อากาศมันหนาวนี่ครับช่วงนี้ แต่เดี๋ยวพี่เสก มาอ่านจะงงว่าเอ๊ะไหนบอกเอาเสื้อผ้าไปน้อย แต่กระเป๋าทำไมตุงชะมัด ? ที่เห็นตุงๆ นั้น ถุงนอน กับเสื้อกันหนาวครับ ทริปขึ้นแม่ฮ่องสอนปลายปีอย่างนี้ ต้องกันหนาวกันหน่อย หน้าหนาวเวลาหนาวนั้น ทรมานสุดๆ เราอยู่ภาคกลางก็อยากให้หนาว เวลาไปภาคเหนือเจออากาศหนาวๆ ก็นั่งสั่นทำอะไรไม่ได้ นอกจากบ่น "ฮือ...ทำไมมันหนาวยังงี้..." ผมอำลาลูกๆ ที่บ้านด้วยการเรียกมาลูบหัวเบาๆ ที่รั้วบ้านครบทั้งสามตัว ความมืดในช่วงค่ำวันที่15 ธันวาคม ค่อยๆ กลบร่างผมให้หายไปทางปากซอยหมู่บ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้หันกลับไปมองสามชีวิตที่ออกมากระดิกหางส่ง ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า บางทีการที่ผมไม่อยู่บ้านอาจจะทำให้พวกเขาสบายใจ หรือสนุกสนานกันตามประสาครอบครัวบ้างไม่มากก็น้อย โดยที่ไม่มีใครมาคอยแกล้งเขกหัว เกาท้อง หรือดึงแก้มให้ยิ้มอย่างฝืนใจ... การเดินทางในทริปที่ไม่ตั้งใจของผมเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับลูกทัวร์ของบริษัททัวร์ดอยอีกหกชีวิต ลูกทัวร์ทั้งหญิงชาย ผมเข้าใจว่าคงเป็นแฟนกัน เดินทางมา รถแวะรับผมที่ห้างโลตัสอยุธยา (โลตัส อีกแระ) ซึ่งเป็นจุดนัดพบขนาดใหญ่ สังเกตง่าย และมีขอให้กิน มีสาวๆ ให้ดูเพลินๆ ระหว่างรอ การเดินทางในคืนนี้มีจุดหมายแรกอยู่ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน คืนนี้ผมหลับสนิทพร้อมรับความสนุกสนานตื่นเต้น และเพื่อพร้อมรับเส้นทางคดโค้งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดทางโค้งของเมืองไทย ในวันพรุ่งนี้ ความตั้งใจของผมในทริปนี้อยู่ที่ ปางอุ๋ง สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ จึงไม่ได้อยู่ในความตั้งใจในตอนแรก ผมเคยมาแม่ฮ่องสอนหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมาก็เป็นการเดินทางไปแบบไปทำงานเก็บภาพตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเน้นธรรมชาติเป็นหลัก แต่ทริปนี้มากับบริษัททัวร์ ซึ่งทางบริษัททัวร์ดอยมีคอนเซ็ปอยู่ว่า จะแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้มากที่สุด เพื่อให้ลูกทัวร์ได้รับประโยชน์ในการเดินทางสู่เมืองที่แสนไกล เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด จึงเป็นเรื่องที่ดี เพราะสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายๆ แห่ง ผมเองก็ไม่เคยเข้าไปชม เช่น ที่ อ.แม่สะเรียง แวะชมวัดจองสูง ชมเจดีย์แบบมอญ วัดศรีบุญเรือง ชมเจดีย์แบบไทยใหญ่ อ้อ..ลืมบอกไปครับ คำว่า จอง นี้เราจะพบบ่อยๆ ในชื่อวัดต่างๆ ของ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกในส่วนของหลังคาที่ซ้อนๆ กัน ประดับสังกะสีฉลุลวดลายสวยงาม เป็นศิลปะของชาวไทยใหญ่ ทริปนี้ผมจึงคุ้มค่าไปพร้อมๆ กับลูกทัวร์ทุกๆ คน เพราะว่าวัดไหนเด่นๆ มีจองสวยๆ เรามักจะแวะเข้าไปนมัสการกัน ถึง อ.แม่ลาน้อย ต้องเข้าไปชมถ้ำแก้วโกมล ชมผลึกแร่แคลไซต์ ที่ก่อตัวอยู่ในถ้ำอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งท่านคงจะได้เคยได้ยินชื่อเสียงกันมามากแล้ว ต่อไปยัง อ.ขุนยวม ดินแดนที่โด่งดังเรื่องทุ่งบัวตองขนาดใหญ่ในนาม ดอยแม่อูคอ เราแวะไปชม วัดต่อแพ วัดนี้ก็มีจองสวยๆ อีกเช่นกัน ที่สำคัญภายในวัดมีผ้าม่านอายุร้อยกว่าปี ที่เศรษฐีชาวพม่านำมาถวาย ผ้าม่านผืนนี้ปักด้วยอัญมณีแสดงเรื่องราวพระเวสสันดรชาดก ทางวัดได้ดูแลและจัดแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน |
|
คณะทัวร์ของเราถึง จ.แม่ฮ่องสอนในช่วงเย็น ก่อนเข้าที่พักได้ขึ้นไปสักการะพระธาตุดอยกองมู ชมทิวทัศน์ของเมืองแม่ฮ่องสอนในยามเย็น ที่นี่ผมได้เห็นการลอยกระทงสวรรค์ เป็นกระทงที่ทำจากการะดาษสีสด ภายในจุดเทียน ด้านบนผูกติดกับลูกโป่งอัดแก๊สกลายเป็นลูกโป่งสวรรค์ เมื่อผู้ที่จะลอยอธิฐานแล้ว ก็ปล่อยกระทงให้ลอยขึ้นไป ดูคล้ายๆ การลอยโคมที่เราเคยเห็นกัน แต่การลอยกระทงสวรรค์นี้กะทัดรัด และคล่องตัวกว่า กระทงนี้ทางวัดพระธาตุดอยกองมู ได้จัดไว้ให้ผู้ที่มีความประสงค์จะลอย โดยสนนราคาอยู่ที่กระทงละ 20 บาท อย่าลืมนะครับหากได้ไปแล้วก็ไปลอยไปปล่อยกระทงสวรรค์กัน เอ๊ะ...จะเรียกว่าลอยหรือ ปล่อย ดีละครับเนี่ย ชักงงๆ แฮะ
ยังไม่หมดครับลงมาจากลอยกระทงสวรรค์ ยังเข้าไปเที่ยวที่วัดจองคำ และจองกลางกันต่อ สองวัดนี้อยู่ติดกันถือได้ว่า เป็นวัดคู่แฝด ด้านหน้ามีหนองน้ำ ชื่อหนองจองคำ เป็นที่พักผ่อนใจ และเป็นตลาดค้าขายสินค้าพื้นเมืองบ้างนางคราว บริเวณนี้ร่มเย็นน่าเดินพักผ่อน ผมมาเยือนแม่ฮ่องสอนครั้งได้ก็ต้องได้ไปเดินเล่นที่นี่ทุกครั้งไป
ส่วนที่พักในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มีมากมายอยู่หลายๆ แห่ง เกสท์เฮ้าส์ โรงแรม มีบริการ ราคาก็ตั้งแต่ 200 บาท ขึ้นไป หากชอบชีวิตกลางแจ้ง หรือ ต้องการสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด ก็สามารถไปกางเต้นท์พักแรมได้ตามอุทยานแห่งชาติที่อยู่นอกเมือง หรือ ที่ที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้นั่นก็คือ ปางอุ๋ง
ปางอุ๋ง หรือในอีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการคือ โครงการพระราชดำริพระตำหนักปางตอง ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยมะเขือส้ม ต.หมอกจำแป๋ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 35 กม. จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 แม่ฮ่องสอน - ปาย เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกที่จะไปภูโคลน ผ่านภูโคลนจะมีป้ายบอกทางไปบ้านรวมไทย ซึ่งมีระยะทางจากถนนใหญ่สาย 1095 เข้ามาเป็นระยะทาง 14 กม. การเดินทางสะดวกโดยเป็นทางลาดยางตลอด ในช่วงก่อนถึงประมาณ 5 กม. เส้นทางค่อนข้างสูงชันและแคบควรใช้ความระมัดระวัง
โครงการพระราชดำริพระตำหนักปางตอง แต่นักท่องเที่ยวนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า ปางอุ๋ง นี้ เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่สูง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้ราษฎรในพื้นที่ได้มีอาชีพด้วยการเกษตรแผนใหม่ มีการพัฒนาแหล่งน้ำ และที่ดิน ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่ ปลูกพืชได้ผลดี เช่น ไม่ดอกเมืองหนาว สาลี่ บ๊วย และผักต่างๆ อีกหลายชนิด สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงก็มีน้ำตกผาเสื่อ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความน่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง และ บ้านรักไทย หมู่บ้านของจีน ซึ่งเป็นทหารจากกองพล 93 กองพลเดียวกับที่แม่ดอยสลองนั่นแหละครับ กองพลนี้ผมละอิจฉาจริงๆ ไปอยู่ที่ไหนที่นั่นก็สวยไปหมดจนเราๆ ต้องตามไปเที่ยวกัน
ปัจจุบันในพื้นที่ของโครงการพระราชดำริพระตำหนักปางตอง ท่านสามารถเข้าไปพักแรมแบบกางเต้นท์ หรือ เข้าพักในบ้านพักหลังเล็กๆ ได้ (กระท่อม) ซึ่งมีไว้บริการอยู่ประมาณ 10 หลัง ราคาหลังละ 200- 400 บาท แต่ผมขอแนะนำ การพักแรมแบบกางเต้นท์ และไปทำอาหารแบบแคมป์ปิ้งทานกันในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง จะได้บรรยากาศกว่า ที่นี่มีห้องน้ำบริการ ลานกางเต้นท์อยู่บริเวณทุ่งสนริมน้ำ บรรยากาศในช่วงเช้าๆ ที่มีมวลหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่บนผิวน้ำ สวยโรแมนติกมากๆ ผมอยากจะเขียนแนะนำความน่าสนใจมากกว่านี้ แต่เกรงว่า เดี๋ยวถึงวันหยุดสิ้นปี คุณๆ ผู้อ่านเดินทางไปเที่ยวกันมาก เจอนักท่องเที่ยวเยอะๆ เดี๋ยวจะสรุปว่าไม่น่าเที่ยวอีกละก็แย่เลย แนะนำอีกอย่างครับ หากไปวันธรรมดาได้ก็น่าสนใจ เวลาถ่ายภาพออกมา หรือเวลาจะทำธุระส่วนตัวก็ไม่ต้องไปแย่งกับคนอื่น แต่ที่นี่ค่อนข้างจะเงียบเหงาเหมาะสำหรับการพักผ่อนจริงๆ
ผมไม่ได้ค้างคืน หรือ พักแรมที่นี่หรอกครับ แต่ก็ได้มาชื่นชมบรรยากาศในช่วงเช้าของที่นี่ได้ เพราะพี่เสก แห่งทัวร์ดอยปลุกแต่เช้าให้ไปเที่ยวบ้านรักไทย และ ที่โครงการพระราชดำริพระตำหนักปางตอง หรือ ปางอุ๋ง อันเป็นไฮไลท์ของทริป ฉะนั้น ไม่ว่าจะง่วงขนาดไหนผมก็ต้องตื่น และก็ได้พบกับความสวยงามคุ้มค่าจริงๆ
ผมต้องตัดใจลา ปางอุ๋ง แล้วร่วมเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายๆ ที่ตามโปรแกรม เช่น ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า วัดน้ำฮู อ.ปาย ตลาดปายยามค่ำคืน แล้วก็นอนพักที่ปาย วันต่อมาเดินทางต่อไปชมทะเลหมอกห้วยน้ำดัง เข้าเชียงใหม่ซื้อของฝากที่กาดวโรรส ต่อไปชมเวียงกุมกาม แล้วลงลำพูน ไหว้พระธาตุหิริภุญไชย แวะ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ไหว้พระธาตุลำปางหลวง จากนั้นย้อนเข้าไปใน จ.ลำปาง ปิดท้ายด้วยการเดินชมสินค้าพื้นเมือง ที่ถนนคนเดิน โอย..เหนื่อยครับทริปนี้ พวกเราเที่ยวกันจนเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่าเป็นที่สุด ก็ขึ้นมาภาคเหนือทั้งที จะเที่ยวแค่ที่สองที่คงไม่คุ้มแน่ ต้องตะลุยกันไปอย่างนี้ ที่ไหนน่าสนใจเป็นต้องแวะกัน
4.00 น.ของวันที่ 19 ธันวาคม ผมอำลาเพื่อนๆ ร่วมทริป แล้วลงจากรถตู้ตรงแยกทางเข้าอยุธยา อากาศเย็นๆ ท่ามกลางท้องฟ้าที่ยังคงมืดอยู่ ผมเดินทางต่อเข้าสู่บ้านเพื่อเตรียมตัวมาทำงานวันแรกหลังจากวันลาหยุดพักร้อนที่หมดสิ้นไป ประตูรั้วถูกผมเปิดออกอย่างเงียบๆ โดยที่คนในบ้านไม่ตื่นขึ้นมาดู ผมค่อยๆ เปิดประตูบ้านเข้าไป แต่ก็ต้องตกใจกับเสียงเห่าอย่างดุดัน ที่เหมือนจะน่ากลัวอย่างไม่ยอมหยุด แม้ผมจะพยามแสดงตัวว่าผมเป็นใคร ... : (
นุ บางบ่อ
ขอขอบคุณ / สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พี่เสก , คุณยุ้ย บริษัททัวร์ดอย จำกัด www.tourdoi.com ที่เอื้อเฟื้อตลอดการเดินทาง และ เพื่อนร่วมทริปทุกๆ ท่าน