ไขความลึกลับของ "น้ำบ่อผี"

ไขความลึกลับของ "น้ำบ่อผี"

ไขความลึกลับของ "น้ำบ่อผี"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำบ่อผี > เที่ยวผจญภัย > นุ บางบ่อ > แม่ฮ๋องสอน > ถ้ำ

ไขความลึกลับของ "น้ำบ่อผี" ตอนที่ 1

ANUKUN SONEAK ...เรื่อง Kanokpetch and Natthawut ...ภาพ

น้ำบ่อผีเป็นชื่อที่รู้จักกันดีใน กลุ่มของน้ำสำรวจถ้ำในต่างประเทศ ในชื่อของ "SPIRIT WELL" ซึ่งเป็นปล่องถ้ำที่มีขนาดใหญ่ มีความลึกตั้งแต่ 90-140 เมตร ปล่องถ้ำด้านล่างมีขนาดใหญ่ มีต้นได้ขึ้นเบียดเสียดกันหนาแน่น น้ำบ่อผีถูกจัดอันดับให้เป็นถ้ำที่น่าสนใจถ้ำหนึ่งของเมืองไทย หรืออาจอยู่ในระดับโลกเลยทีเดียว เพราะถ้ำนี้เคยต้อนรับทีมสำรวจของ National Geographic ที่ได้นำความงามของปากปล่องไปอวดสายตาชาวโลกมาแล้ว
น้ำบ่อผีถูกค้นพบเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว โดยชาวมูเซอดำ ออกไปล่าสัตว์และพบกับปล่องถ้ำขนาดใหญ่มีลักษณะเหมือนบ่อน้ำ เป็นหลุมที่มีความกว้างกว่า 100 เมตร มีกำแพงหินผาที่สูงชันรอบด้าน ไม่มีเส้นทางที่มนุษย์คนใดสามารถลงไปได้ ก้นบ่อมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และเขียวสดตลอดปี ซึ่งต่างจากป่าด้านบน จึงนำมาสู่ความเชื่อถึงเรื่อง ผีที่สิงสถิตย์และปกปักรักษา

เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เมื่อผมได้มีโอกาสเริ่มต้นการสำรวจถ้ำกับจอห์น สปีซ์ ในแต่ละวันที่อยู่ที่ Cave Lodge ดูเหมือนจะมีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับความลึกลับของถ้ำ ในเขตปางมะผ้า น้ำบ่อผีก็เป็นถ้ำหนึ่ง ที่จอห์นพูดถึงตลอดเวลา ในยุคของการบุกเบิกถ้ำใหม่ ๆ ในปางมะผ้า มันคือปล่องถ้ำขนาดใหญ่ มีหน้าผาอยู่รอบด้าน และมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่นอยู่ตลอดเวลา ด้านหนึ่ง มีปากถ้ำขนาดใหญ่อยู่ทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งไม่รู้ว่าจะนำไปออกที่ถ้ำใด ในบริเวณนั้น บางทีอาจนำไปสู่โถงใดโถงหนึ่งในถ้ำน้ำลาง ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน เมื่อมีความสงสัย ย่อมนำมาสู่การสำรวจ ซึ่งไม่เคยมีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่า การสำรวจของทีมแรกในครั้งนั้น จะนำพาความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนมาสู่ผู้ร่วมคณะ ทุกคน

วิธีการเดียวที่ทีมสำรวจลงไปได้ก็คือ การใช้เชือกโรยตัวลงลงหน้าผาด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความสูงถึง 90 เมตร เนื่องจากรอบด้านเป็นหน้าผาชัน อีกทั้งหากจะกลับขึ้นมา ก็มีเพียงวิธีการเดียวอีกเช่นกัน ก็คือการไต่เชือก ใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม.

หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจ และกลับสู่ที่พักแล้ว เคอร์รี่หนึ่งในทีมสำรวจเกิดอาการช็อคจนหัวใจหยุดเต้น หลังจากกลับขึ้นมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง จนต้องหามส่งโรงพยาบาลตอนกลางดึกของคืนเดียวกัน ผลที่เกิดขึ้นจากอาการโคมากับร่างกายของเคอร์รี่ก็คือ เป็นอัมพาตจนต้องส่งกลับออสเตรเลียโดยด่วน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลายเป็นเรื่องเล่าขาน และตอกย้ำให้กับชาวบ้านชาวมูเซอ บ้านลุข้าวหลาม ถึงเรื่องการท้าทายกับสิ่งศักดิ์สิทธ์ ของน้ำบ่อผี เจ้าที่เจ้าทางที่สิงสถิตย์อยู่ในนั้นจนไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปอีกเลย

ในช่วง 30 กว่าปีมานี้ น้ำบ่อผีได้ต้อนรับการเยี่ยมเยือนของนักสำรวจถ้ำ เพียงแค่ 5 ชุดเท่านั้น และมีคนไม่ถึง 20 คนในโลก ที่มีโอกาสลงไปสัมผัสกับความลึกลับ ความสวยงามของปล่องถ้ำด้านล่าง ด้วยกำแพงหน้าผาหินสูงชันรอบด้าน อันเป็นปราการทางธรรมชาติ ที่ยากแก่งการเข้าถึง น้ำบ่อผี จึงยังคงเก็บงำความลึกลับไว้ได้
มีเพียงกลุ่มคนที่มีทักษะ และความสามารถพิเศษเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปสัมผัสความลึกลับ และความงามของธรรมชาติเบื้องล่างได้ พวกเราทั้ง 6 คนถือได้ว่าเป็นคนไทยกลุ่มแรก ที่มีโอกาส เข้าไปสัมผัสกับความลึกลับ และความวิจิตรพิศดารของโถงน้ำด้านล่าง ที่ถูกกล่าวขานโดยทีมสำรวจต่างประเทศ และเป็นความลับมานานหลายปี

ธันวาคม 2546 กว่า 12 ปีที่ ผมฝันว่าจะได้ลงสำรวจน้ำบ่อผี กับอีก 5 ปีกับความตั้งใจ เตรียมความพร้อมที่จะเข้าสำรวจ เพื่อสัมผัสกับความลึกลับของน้ำบ่อผีด้วยตัวเอง ทุกอย่าง ใกล้จะเป็นความจริง แผนการสำรวจคร่าว ๆ ได้วางขึ้น การสำรวจจะเริ่มต้นช่วงสิ้นปีพอดี

ทีมสำรวจถ้ำคนไทย 6 คน ซึ่งทุกคนจะต้องสามารถใช้งานเชือกได้ดี และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ หากเกิดปัญหาขณะโรยตัวได้ พวกเรามีเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ในการเตรียมตัว เตรียมทีม ฝึกเทคนิคที่ต้องใช้เชือก ขณะทำการสำรวจ

ในแต่ละวัน ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม พวกเราทั้ง 6 คนจะไปนัดพบกันที่ OUTSIDE GYM เป็นยิมสำหรับปีนหน้าผาแถว ๆ แยกวังหินตอนเย็นวันละ 3-4 ช.ม. เพื่อฝึกหัดเทคนิคด้านเชือกทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการโรยตัว การไต่เชือก การข้ามเงื่อนในกรณีต่อเชือก การผ่าน ANCHOR หรือ แม้แต่การช่วยเหลือตัวเอง และช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อถึงคราวจำเป็น เพราะสิ่งที่ผมรับรู้ และรู้สึกตลอดเวลาว่าการสำรวจน้ำบ่อผี เป็นสิ่งที่อันตราย และมีความเสี่ยงสูงพราะ

1. พวกเราต้องฝากชีวิตไว้กับเชือกเพียงอย่างเดียว 2. สภาพแวดล้อมที่เราจะต้องเจอ ขณะลงสำรวจเป็นสิ่งที่พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งสภาพหน้าผา สภาพอากาศ การเปลี่ยนแปลงของระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในปล่องถ้ำ และอุปสรรคอื่นๆ บนเส้นทาง เพราะมีข้อมูลอยู่น้อยมาก ทำให้เราไม่สามารถวางแผนอย่างรัดกุมได้ ทุกอย่างล้วนเป็นการคาดการณ์ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น พวกเราจะต้องพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น 3. อุบัติเหตุจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของคนที่อยู่ด้านบน หากพวกเราลงสำรวจ และมีคนปลดเชือก นั่นก็หมายความว่า พวกเราไม่สามารถกลับขึ้นไปได้

การจัดเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ ที่ใช้ในการสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นเชือก ที่มีความยาวรวมกว่า 450 เมตร บางส่วนเป็นเชือกพิเศษ ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ เป็นเชือกที่ออกแบบมาสำหรับการสำรวจถ้ำ และทำงานในแนวดิ่งโดยเฉพาะ มีความแข็งแรง ทนทานต่อการขัดสี และมีความแข็งแรงกว่าเชือก ที่ขายอยู่ในเมืองไทยในขณะนี้ เชือกทุกเส้นต้องได้รับการทดสอบความแข็งแรง ก่อนไปใช้งาน โดยใช้เครื่องดึงไฮโดรลิคดึงให้ขาด เพื่อดูการรับน้ำหนักสูงสุด จนเราแน่ใจถึงความแข็งแรง ก่อนนำไปใช้งาน ซึ่งทำให้พวกเราอุ่นใจมากขึ้น

สัมภาระ เสื้อผ้า และอุปกรณ์แค้มป์ปิ้งที่พวกเรานำไปจะต้องมีน้ำหนักเบาที่สุด และสามารถป้องกันความหนาวได้ดี เพราะเราจะต้องนำสัมภาระเหล่านั้น ลงไปตั้งแคมป์นอนด้านล่าง นั่นก็หมายความว่า ขณะไต่เชือกขึ้นมา จะต้องพ่วงน้ำหนักของสัมภาระของเราเข้าไปด้วย สำหรับปัญหานี้ พวกเราก็ได้รับการสนับสนุนจาก EQUINOX EXTREME ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบา ที่ผลิตจากเส้นไยไนล่อน หรือ เสื้อแจ๊กเก็ตกันหนาว ฯลฯ ซึ่งสามารถลดภาระของทีมสำรวจไปได้เยอะ

ในการสำรวจครั้งนี้ พวกเราวางแผน บันทึกภาพนิ่ง และวีดีโอเทป พวกเรากำลังเป็นส่วนหนึ่ง ของการสร้างประวัติศาสตร์ของเมืองไทย เพราะทีมของเราคือ คนไทยกลุ่มแรกที่ลงสำรวจน้ำบ่อผี ซึ่งมีนักเขียนจากนิตยสาร Nature Explorer มาร่วมบันทึกเหตุการณ์ร่วมกับพวกเราด้วย

เมื่อทุกอย่างพร้อม คราวนี้จิ๊กซอว์ที่เหลืออยู่ก็คือ เดินทางไปแม่ฮ่องสอน เพื่อพบกับ จอห์น สปีซ์ นักสำรวจถ้ำคนเดียวในเมืองไทย ที่รู้ข้อมูลด้านล่างของน้ำบ่อผี เพื่อวางแผนขั้นสุดท้ายก่อนลงไปสำรวจ....

ไขความลึกลับของ "น้ำบ่อผี" ตอนที่ 2

ขอขอบคุณ คุณอนุกูล (คุณกื๋อ) คุณกนกเพชร คุณณัฐวุฒิ พี่พจน์ คุณเชอร์รี่ คุณหญิง

ดูข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมชมภาพเคลื่อนไหวและเสียงบรรยากาศ ได้ที่ www.hyperventure.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook