ครั้งแรกของ นุ บางบ่อ
หากคุณไม่เคยขึ้นภูกระดึง ก็คงไม่แปลกที่ไม่มีประสบการณ์ครั้งแรก แต่ที่น่าแปลกคือ อะไรที่เราได้ทำ หรือ ได้ไปเยือน เป็นครั้งแรกนั้นมักจะตราตรึงใจไปนานแสนนาน...
จะเล่าอะไรให้ฟัง...เมื่อครั้งที่ผมได้ขึ้นภูกระดึงครั้งแรกในชีวิตนั้น จำได้ว่าเมื่อปลายปี 2536 เห็นจะได้ ตอนนั้นกำลังเป็นละอ่อนอยู่เลย และก็ยังผ่ายผอม (ขี้ก้าง) เหมือนปัจจุบันนี้แหละ ผมไม่ได้ตั้งใจไปกะเขาหรอก ทริปนั้นเห็นรุ่นพี่ๆ และท่านอาจารย์ที่สนิทๆ กันในราชภัฎอยุธยา ท่านชวน ก็ไม่ได้ตอบตกลงไปกะเขา
..อยู่ๆ มาวันหนึ่ง มีเหตุให้ตัดสินใจไปโดยไม่ต้องคิดเลย จะอะไรล่ะ ก็สาวๆ ที่เราแอบหมายปองไว้ เธอตัดสินใจร่วมเดินทางทริปนี้ด้วยแบบกระทันหัน ผมเลยตัดสินใจไปด้วย ตอนนั้นเพื่อนๆ หลายคนหมั่นไส้ผมมาก เพราะแต่ละคนชวนอยู่หลายวัน ผมก็ไม่ใจอ่อน แต่พอมีสาวหน้าอ่อนๆ มาลงชื่อว่าไปเท่านั้นแหละ...
50 คน เห็นจะได้ในทริปนั้น เหมารถบัสออกจากราชภัฎอยุธยาในช่วงค่ำ เฮฮาปาร์ตี้ ร้องรำทำเพลงรื่นเริงกันสุดเหวี่ยง โอ๊ย...สนุกมาก...ใครล่ะจะรู้ว่าพรุ่งนี้เช้า..จะเป็นวันที่ต้องเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส....เหลือเกิน..
เช้าวันต่อมา ก้าวแรกแบบเซๆ ณ อช.ภูกระดึง อาการคนหมดแรงอ่อนเพลีย ถูกแสดงออกพร้อมกันโดยคณะฉิ่งฉาบทัวร์จากอยุธยา จัดเตรียมฝากฝังสัมภาระให้ไปกับลูกหาบเรียบร้อย ที่ตัวผมเหลือเพียงกล้อง 1 ตัว น้ำเผื่อหิว 1 ขวด และเผื่อสาว 1 ขวด ยาดม ยาอม ยาหม่อง (เผื่อจะเป็นแพทย์สนามให้สาวๆ) อีกอย่างละหนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าเดิน เดิน เดิน เดิน ช้าลง ช้าลง ช้า....ช้ามาก...หยุดพัก...และหลับบ้าง...ตื่นมาอีกที เพื่อนฝูงหายเกลี้ยง ต้องรีบวิ่งตามขึ้นไป...โอยยยย...เหนื่อยยยยย...แฮก ๆๆๆ
กว่าจะขึ้นถึงหลังแป กะเขาได้ ทุลักทุเลพอสมควร คืนแรกบนภูผมจึงหลับเหมือนคนตาย จะแตกต่างกันตรงที่ผมยังหายใจอยู่แค่นั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ระยะทางก็เหมือนจะทดสอบมาราธอนยังงั้นแหละ ไกลริบเป็นกิโลๆ เชียว แต่อย่างว่าแหละครับ เดินไปกะสาวๆ คอยเป็นทาก อุ๊ย..คอยแกะทากออกจากขาของเธอบ้าง มีความสุขชะมัด ระยะทาง 9 กม. จากผาหล่มสักมาที่พัก อยากจะให้วกไปเวียนมาสัก 18 กม. อิอิ
ในตอนนั้นเส้นทางบางช่วงยังเป็นป่าหญ้า พวกเราก็เดินฝ่าเข้าไปหลงทางกันบ้าง กลัวงูก็กลัว กลัวผีก็กลัว ถ่ายภาพกันสนุก เดี๋ยวๆ วันหลังจะค้นภาพตอนหลงทางมาให้ดูกัน ตอนนั้นทุกๆ คนหน้าซีดเป็นไก่ต้มกันหมดเลย...
เสียดายที่ทริปนั้นมีเวลาอยู่บนภูแค่สองสามวัน แต่เวลาแค่นั้นก็ทำให้ผมก็จีบสาวคนที่เป็นแรงจูงใจให้ผมขึ้นภูติดนะ (คุย...ๆ...ไม่ได้โม้...) ทกุสิ่งทุกอย่างมันช่างสดใสเหมือนสายน้ำตกเพ็ญพบ โผนพบ สดชื่นเหมือนสายลมที่พัดผ่านผาหล่มสัก สงบเงียบแน่วแน่เหมือนในยามค่ำคืนที่ผาหมากดูก มีจุดหมายเหมือนการเดิน ยั่งยืนนานเหมือนต้นสนสามใบ ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะมาเสริมความงดงามของภูสวรรค์แห่งนี้ให้เต็มไปด้วยสีชมพูตราตรึงอยู่ในจิตไปอีกนานแสนนานตราบเท่าที่ผมยังมีแรงนึกถึงอยู่
สำหรับผมกับประสบการณ์ขึ้นภูกระดึงครั้งแรก ก็คงมีเพียงเท่านี้ ด้วยเนื้อที่จำกัดเหลือเกิน หากมีเวลาหรือโอกาสคงได้เอามาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันอีก ยังมีเรื่องสนุกๆ บนภูฯ อีกเยอะ...ต้องลองไปเองแล้วจะรู้...
อ้อ...ปัจจุบัน...สาวคนนั้น เธอแต่งงานมีครอบครัวไปอย่างมีความสุขแล้วครับ...เฮ้อๆๆ...
นุ บางบ่อ...เรื่อง