มิตรภาพ... สายน้ำ...และความสามัคคี (ที่ลำน้ำเข็ก)
ชูชีพ... หมวกกันน๊อค... แน่นหนาเรียบร้อย รับรองตกน้ำไม่จม โขกหินหัวไม่แตกแน่ขอรับ
นายยอดทอง... ไอ้หนุ่มคั่วกลิ้งวัยละอ่อน รายงานสภาพความพร้อมหลังตรวจเช็คอุปกรณ์ให้ผมเป็นที่เรียบร้อย น้องทราย ซุ่มซ่าม, น้องดาว รอบรู้, น้องออฟ ฟันเหล็ก ฯลฯ ต่างยืนเช็คอุปกรณ์ให้กันและกันเป็นครั้งสุดท้าย ตามคำแนะนำของ ลุงโก๋ นายท้ายเรือ และ พี่หน่อย นายหัวเรือ อย่างขมีขมัน
คนคัดท้ายเราเรียก นายท้ายเรือ คนคัดหัว(เรือ)ผมก็เลยเรียก นายหัวเรือ หากจะฟังดูปักษ์ใต้และผิดหลักการใช้ภาษา ก็เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน พวกเราเจ็ดชีวิต บวกนายท้ายและนายหัว อีกสองเป็นเก้า กำลังจะร่วมลงเรือลำเดียวกัน เปิดบริสุทธิ์เทศกาล ชิมกาแฟแก่งซอง ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ประจำปี 2551 ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ณ บัดนี้ |
แรกทีเดียว...นายยอดทอง... มีความประสงค์อย่างแน่วแน่ว่าจะไม่ลงเรือลำเดียวกับพวกเราในครั้งนี้ เพราะเคยผ่านความรู้สึกนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงแสดงเจตจำนงกับพี่ๆ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคเหนือ เขต 3 พิษณุโลก หน้าเสื่องานนี้ว่า จะไปดักถ่ายภาพตามจุดต่างๆ แต่มิตรภาพเล็กๆ ที่มีให้กันบวกความผูกพันฉันท์พี่น้องระหว่างพวกเรา ทำให้นายยอดทอง อดเป็นห่วง น้องทราย น้องดาว น้องออฟ อย่างเสียไม่ได้... ยอมกลืนน้ำลายเจือเสมหะของตนเอง... |
เข้ามาเติมเต็มแรงช้างม้าวัวควาย (ในการพาย) ที่ขาดหายไป ให้เข้มแข็งขึ้นมาอีกมากโข แต่อีกนัยหนึ่งที่แฝงมาด้วยนั้น คือมาถ่วงดุลกับน้องดาว เพราะพิกัดพอฟัดพอเหวี่ยง ว่ากันตามภาษาสามัญชน สองคนนี้จะไม่นับหน่วยเป็นกิโลกรัม แต่เราจะว่ากันเป็น ตันข้าวเปลือก (พูดจริงๆ นะ) |
มาพิษณุโลกครั้งคราวนี้ คาดไว้อย่างสูงที่จะได้มาออกกำลังเผาผลาญมันเปลวส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่ดูเหมือนว่ามันกลับจะพอกพูนมากกว่าที่เห็นและเป็นอยู่ เพราะพี่ๆ จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เขตพิษณุโลก พาตระเวนชิมอาหารอร่อยซะทั่วเมือง แค่ ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา |
มื้อเที่ยงของวันวาน ก็ชิมกันไปคนละห้าหกชาม ไม่รวมแค็ปหมูกับไข่ต้มและขนมหวาน อีกห่าใหญ่ ก็ยังไม่ทันย่อยแล้ว มือเย็นยังกินข้าวเคล้าสายฝนบนแพริมน้ำน่าน บรรยากาศชวนฝันเกินบรรยาย พูดถึงเรื่องกินแล้วอดนึกถึง น้องจุ๋ม พุนพิน พังแป้นแห่งสุราษฎร์ธานี น้องสาวอีกคนที่เคยยึดอาชีพสื่อสารมวลชนเป็นอาชีพหลัก แต่ตอนนี้กลับไปคุมกิจการอยู่ถิ่นฐานบ้านเกิด ถือเป็นมือระดับแถวหน้า จัดอยู่สายแข็งเหมือนกัน เพื่อนซี้กับน้องทราย ซุ่มซ่าม หากว่างานนี้น้องจุ๋มมาด้วย คงไม่ต้องอ้อนวอนนายยอดทอง ให้ลงเรือมาปะทะกับน้องดาว เพราะฉายา พังแป้น ไม่ใช่อุปโลกน์ขึ้นมาสุ่มสี่สุ่มห้า |
นอกเหนือจากการเข้าไปกราบสักการะ พระพุทธชินราช พระคู่บ้านคู่เมืองแล้ว มาพิษณุโลกทั้งทีก็ไม่ควรจะพลาดที่จะแวะเข้าไปเก็บเกี่ยวความรู้ภูมิปัญญาของปู่ย่าตายายครั้งโบร่ำโบราณที่ พิพิธภัณฑ์พิ้นบ้านจ่าทวี คลังความรู้คู่เมืองพิษณุโลก อันเกิดจากน้ำพักน้ำแรงและมุมมองที่แตกต่างของ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์ ซึ่งได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ของผู้คนในยุคก่อนๆ มาเก็บรวบรวมจัดแสดงให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ ข้อคิดและเหตุผลดีๆ ในการดำรงชีวิต อันเป็นภูมิปัญญาของคนรุ่นปู่ย่าตาทวด สอดแทรกเข้าไปสิ่งของต่างๆ ได้อย่างลงตัว |
หากว่าท่านใดมาโอกาสได้เข้าไปชมด้วยตัวเอง เชื่อว่าจะเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่ ลุงจ่าทวี พยายามทำและต้องการสื่อกับพวกเรา ได้ดีกว่าการอ่านจากเนื้อความที่ถ่ายทอดมาจากคนอื่น โลกยิ่งเจริญมากเท่าไหร่ ผู้คนก็ยิ่งโหยหาอดีตมากเท่านั้น แต่จะมีสักกี่คนที่คิดและลงมือทำอย่างลุงจ่าทวี แม้จะต้องฝ่าฟันกับปัญหาและอุปสรรค รอบด้านก็ตาม (แม้แต่ครอบครัวลุงจ่าเอง ตอนแรกยังหาว่าลุงจ่า บ้าสมบัติ) |
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ณ ปัจจุบัน มันคุ้มค่ากับคนรุ่นหลังอย่างพวกเรา อย่างหาคำพูดอะไรมาเปรียบไม่ได้ สมัยก่อนลุงจ่าเปิดให้เข้าชมฟรี แต่ปัจจุบันก็มีการเก็บค่าธรรมเนียมนิดหน่อย ทั้งที่ไม่อยากเก็บ ส่วนจะมีเหตุผลอะไรไปถามไถ่กันเอาเอง แต่จะได้รับคำตอบหรือเปล่าเรื่องนี้นี้ผมไม่รับรองครับ (หมายเลขติดต่อผมจะทิ้งไว้ท้ายเรื่องนะครับ) |
สายฝนฤดูใหม่.... ชะล้างฝุ่นตะกอนดินที่แห้งผากจากหน้าร้อน ไหลละลายลงมาตามสายน้ำ ทำให้ลำน้ำเข็กในวันนี้ (ที่เราไปล่องแก่ง) เปลี่ยนเป็นสีกาแฟ ชา โอวันติน ฯลฯ ตามจินตนาการของแต่ละบุคคล สำหรับตัวผมฝุ่นผงตะกอนดินที่เจืออยู่ในสายน้ำ พาลให้นึกไปถึงยาหอมตราห้าเจดีย์ที่ปู่เคยละลายให้กินในยามจุกเสียด แน่นเฟ้อ เรอเหม็นเปรี้ยว
ฝน... เปลี่ยนสีของสายน้ำ เปลี่ยนสีของผืนป่า เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ฯลฯ นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ให้แผ่นดิน
เดี๋ยวก่อนครับ อาจต้องมีการสลับที่นั่ง เพราะหัวเรือมันเชิดผิดปกติ เสียงลุงโก๋ทำให้ฝีพายทั้งเจ็ดหยุดมองหน้ากัน... เพื่อหาคำตอบ หนูคนนี้ไปนั่งข้างหน้า แล้วให้ผู้ชายมานั่งข้างหลัง
เป็นคำเฉลยของสาเหตุที่ทำให้หัวเรือเชิดเกินกว่าที่ควรจะเป็น น้องดาว ดันไปนั่งท้ายประกบคู่กับ นายยอดทอง ท้ายเรือเลยมันเลยถ่วงๆ หน่วงๆ ส่วนตัวผมซึ่งหวังจะเป็นฝีพายทัพหน้า กลับต้องย้ายไปนั่งท้ายแทนที่
อืมม... พี่ก็ 75 โล แล้วนะ แต่ตอนนี้อาจจะ 77 โล เพราะเพิ่งเจอมื้อกลางวันที่เรนฟอเรส รีสอร์ท มาหมาดๆ # ! +*%@:=/,
แต่พวกเราก็ลืมนึกไป มื้อเที่ยงของวันนี้ที่ผ่านมา พี่ๆ ททท. พิษณุโลก(อีกแล้ว) พาไปชิมอาหารที่ เรนฟอเรส รีสอร์ท... แต่... อย่าเรียกชิมเลยครับ มันดูสุภาพเกินกว่าจะรับไหว ต้องเรียกว่า รับประทานเข้าไปห่าใหญ่ (น - ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ) ถึงจะถูก เพราะอาหารอร่อยจริงๆ ครับ เท่าที่จำได้ก็มี แกงส้มสายบัวกุ้ง, หลนปลาเค็ม, ยำผักพื้ ปลาแรดทอดขมิ้น (ถ้าจำไม่ผิดสองอย่างหลังชื่อแนวๆ นี้) ตบตูดผลไม้หลากชนิดลอยแก้ว... เรือยางของเรามันเลยเพียบแปล้ปริ่มน้ำด้วยเหตุนี้ |
พูดถึง เรนฟอเรส รีสอร์ท ตอนนี้ปรับปรุงเปลี่ยนโฉมแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่แล้วครับ ร่มรื่นเย็นใจ แต่ยังทัศนียภาพยังเหมือนเดิมครับ แวะเข้าไปเชยชมกันได้นะครับที่ www.rainforestthailand.com |
สิ่งสำคัญของการล่องแก่งคือ ฟังคำสั่งจากนายท้ายเท่านั้น
เป็นคำสั่งที่ถือเป็นกฎเหล็ก ที่ลูกเรือทุกคนต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด นายท้ายเรือยางก็เปรียบเสมือนกัปตันเรือใหญ่ ซึ่งต้องรับผิดชอบชีวิตลูกเรือชายหญิง เด็ก สตรีและคนชรา(เช่นผม) ให้ผ่านพ้นแก่งหิน เกลียวคลื่น อันเป็นอุปสรรคของการเดินทาง จวบจนถึงจุดหมายปลายทางขึ้นฝั่งโดยสวัสดิภาพ |
พี่หน่อย นายหัวเรือ ทำหน้าที่ดั่งไกด์แนะนำเรื่องราวและเส้นทางที่เราจะต้องพบเผชิญ ส่วน ลุงโก๋ ผู้ยึดอาชีพนายท้ายเรือยาง มานับแต่ยุคแรกๆ ของการล่องแก่งลำน้ำเข็ก ด้วยบุคลิกภาพดั่งผู้ใหญ่ใจดี ใบหน้าแย้มยิ้ม พูดน้อย อาจด้วยถูกลูกเรืออย่างเราแย่งแกพูดจนหมด ลุงแกจึงนั่งฟังพวกเราพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา แต่ถึงบทบาทที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ ลุงโก๋...ก็ออกคำสั่งได้เฉียบคมชัดถ้อยชัดคำ |
ซ้ายพาย ขวาพาย ซ้ายพาย ขวาทวน ขวาพาย ซ้ายทวน หมอบ จับเชือก เป็นคำสั่งที่ทุกคนได้ซักซ้อมทำความเข้าใจมาเป็นอย่างดี นับแต่ก่อนออกเดินทาง ...ซ้าย... ขวา... พาย... ทวน... หมอบ... จับเชือก... คำสั่งหลักๆ เพียงไม่กี่คำ อันเป็นภาษาสากลที่ใช้กันในกิจกรรมประเภทนี้ ที่เราจะได้ยินในการล่องแก่งทุกสถานที่ |
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดด........ดดดดดดดดดด เสียงน้องทราย ซุ่มซ่าม เจ้าของร่างอันอวบอั๋นเต่งตึง ซึ่งทำหน้าที่แม่ย่านางเรือ ไม่พายและไม่เอาเท้าราน้ำ ไม่ถ่วงความเจริญ ฯลฯ หวีดร้องโหยหวนทั่วคุ้งน้ำ เมื่อเรือล่องผ่านแก่งน้ำต่างๆ แข่งกับน้องดาวผู้อยู่กราบขวาตอนหน้า อาจเป็นการส่งเสียงเพื่อระบายความตื่นเต้น ระทึกใจ
คลายความอึดอัดและหวาดกลัวที่สั่งสมอยู่ภายใน หรือร้องด้วยความสนุกสนาน ผมสังเกตปฏิกิริยาของพวกเรา รวมไปถึงเรือลำอื่นว่า การแสดงออกของคนเราแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนอาจส่งเสียง...หรือบางคน..อาจสงบ..เสงี่ยม.... เงียบงัน |
ลุงโก๋ และ พี่หน่อย.... ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบไม่มีบกพร่อง บางจังหวะก็พาเรือหมุนเข้าหาแก่ง สร้างความสนุกสนานตื่นเต้นให้กับพวกเรา แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ทุกคนต่างผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติกันมาแล้ว บวกรวมเข้ากับประสบการณ์ ล้วนสร้างความเชื่อมั่นให้เรื่องความปลอดภัยให้กับพวกเราได้ดียิ่ง
การปฏิบัติตามคำสั่งนายท้ายเรือ การจ้วงฝีพายด้วยความสามัคคี ล้วนมีเหตุผล ประสบการณ์ของนายท้ายเรือจะรู้ว่า เมื่อสายน้ำเดินทางอย่างนี้ เราจะบังคับทิศทางอย่างไร และลูกเรือจะต้องปฏิบัติอย่างไร พายหรือทวน แต่ปฏิกิริยาทุกอย่างล้วนต้องทำด้วยความพร้อมเพรียง หากมีคนหนึ่งคนใดแตกแถว ย่อมมีผลต่อทุกคนบนเรือ |
การล่องแก่งจึงเหมือนการฝึกวินัยและสร้างความสามัคคีในหมู่คณะไปในตัว เราทุกคนต้องไปพร้อมๆ กัน จะเก่งอยู่แค่ผู้ใดคนหนึ่งคนเดียวไม่ได้ แม้นายท้ายและนายหัวผู้เก่งฉกาจ หากไม่มีลูกเรือที่คอยช่วยเหลือแล้ว เรือลำนั้นไม่นานก็อับปาง |
กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก ผมและเพื่อนๆ อีกหลายชีวิต เดินทางไปล่องแก่งแม่น้ำปาย แล้วประสบพบเจอน้ำป่า ผมก็ใช้หัวเรื่องเดียวกันนี้ และตั้งใจกับตัวเองว่า หากได้ร่วมเดินทางกับหมู่เพื่อน แล้วมีโอกาสมาเขียนเรื่องราวเล่าให้คนอื่นฟัง ผมจะใช้ชื่อเรื่องนี้ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะไม่มีคำจำกัดความใด ที่จะบ่งบอกนิยามความหมายของกิจกรรมประเภทนี้ ได้สมบูรณ์ ไปมากกว่าคำว่า " มิตรภาพ... สายน้ำ... และความสามัคคี "
ขอบขอบคุณ
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ เขต 3 (พิษณุโลก)
- พี่หลวย, พี่รุ่ง, พี่ต๊อบ และพี่ที่ ททท. ทุกท่าน : สำหรับความสะดวกสบายและรวดเร็ว
- น้องทราย, น้องดาว, น้องออฟ ฯลฯ : สำหรับรอยยิ้มและเสียงหวีดร้อง
- นายยอดทอง : ผู้ทำให้ผมพบรักแท้ในคืนหลอกลวง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ |
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือเขต 3 โทรศัพท์ 0 5525 2742-3 หรือ www.tat.or.th/north03 พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน จ่าทวี 22/138 ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 เปิดทำการ 8.30 16.30 น. (ปิดทุกวันจันทร์) โทรศัพท์ 0 5521 2749, 0 5530 1668 โทรสาร 0 5521 1596 |
ธนิสร หลักชัย : เรื่อง นายยอดทอง / ททท.สำนักงานภาคเหนือเขต 3 : ภาพ
ผลงานเขียนของ ลุงแจ๊ค แก่อมตะ (ธนิสร หลักชัย)
3 คืน 4 วัน ฝันดีที่...อันดามัน (ตอนที่ 1)
3 คืน 4 วัน ฝันดีที่...อันดามัน (ตอนที่ 2)
3 คืน 4 วัน ฝันดีที่...อันดามัน (ตอนจบ)
เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 1)
เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 2)
เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนจบ)
มิตรภาพเหนือระดับน้ำทะเลที่…ภูกระดึง
มิตรภาพเหนือระดับน้ำทะเลที่... ภูกระดึง (อีกครั้ง)
มิตรภาพ... สายน้ำ...และความสามัคคี (ที่ลำน้ำเข็ก)
เรื่องเล่า...จากเมืองอุบลราชธานี
เรื่องเล่า(อีกเรื่อง)...จากเมืองอุบลราชธานี
เสาไห้...ให้ไปวันเสาร์ ตอน 1
เสาไห้...ให้ไปวันเสาร์ ตอนจบ
ดูหนังใหญ่... ไหว้พระนอน... ที่เมืองสิงห์
ตามร่องหนามเตยที่บ้านแม่กลางหลวง
ทองผาภูมิ... ขุมทรัพย์แห่งทิศปัจจิม
เลื่อนล้อรอบเกาะรัตนโกสินทร์กับ Segway Tour Thailand
ศรัทธา สามัคคี ก่อเกิดมหาบุญ... จุลกฐิน