วสันตฤดูบนภูหลวง
วสันตฤดูบนภูหลวง
พิศ พังงา...เรื่อง / ภาพ ออนไลน์เมื่อ 13 กรกฏาคม 2550
ยามเมื่อหยาดฝนพร่างพรม ทุกแห่งหนบริเวณรอบๆ ที่ทำการหน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบา และพื้นที่หลายแห่งบนภูหลวง ก็แต่งแต้มด้วยดอกไม้ต้นเล็กๆ สีชมพูหวานที่ชื่อว่า เปราะภู แตกต้น ดอก ใบ จากรากเหง้าที่สงบเงียบอยู่ใต้ช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อน ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนชีวิตน้อยๆ ของต้นเปราะภูแสนหวานต่างเริงร่าท่ามกลางสายฝนตลอดช่วงฤดูฝน |
ผู้เขียนเองก็เผลอคิดเปรียบเทียบกับชีวิตจริงของมนุษย์ ที่บางช่วงของชีวิตต้องผ่านความยาก ความคับแค้นใจแสนสาหัส ดุจต้นเปราะภูช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนที่ต้องหลบซ่อนตัวใต้ผืนดิน ให้ผืนดินปกป้องให้พ้นภัย ยามเมื่อฤดูฝนมาเยือนสายฝนที่พร่างพรมก็เปรียบเสมือนน้ำใจของเพื่อนพ้อง พ่อแม่ พี่น้อง ที่คอยให้กำลังใจและเอื้ออาทรต่อกัน ดุจดอกเปราะภูที่แบ่งแบ่งบานแต่งแต้มให้ผืนป่ากลายเป็นสีชมพูสดใจ |
ดังนั้นขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ทุกคน (รวมถึงตัวผู้เขียนเอง...ด้วย..อ่ะนะ) อย่าได้ย่อท้อ อ่อนใจ หรือหมดอาลัยในชีวิตที่จะยืนหยัดต่อไป ต่อสู้กับปัญหาอุปสรรค์ในแต่ละวัน อาจจะไม่ทั้ง 365 วันที่ต้องทุกข์ระทม ขมขื่น คับแค้นใจกับผู้คนรอบข้าง คงมีบ้างสักวันหรือหลายวันหรือหลายเดือน ที่ช่วงชีวิตจะเต็มไปด้วยความสุข สดชื่น และสมหวัง ดั่งทุ่งเปราะภูแสนหวานในภาพถ่ายที่เก็บมาฝาก |
การเดินทางไปศึกษาธรรมชาติบนภูหลวงในช่วงฤดูฝน จะต้องใช้ความอดทน และเตรียมร่างกายให้แข็งแรง เพราะต้องเดินเท้าท่ามกลางสายฝน จนบางครั้งความหนาวเย็นจากน้ำฝน และเท้าที่ย่ำน้ำติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดตะคิวที่น่องหรือที่เท้าได้ เหมือนกับผู้เขียนเองที่ได้พบกับความเจ็บปวดทรมานมาแล้ว แต่ก็สามารถก้าวพ้นมาได้อย่างปลอดภัย ยามที่เป็นตะคิวต้องหยุดเดินบริเวณที่เป็นป่า รอบข้างมีสัตว์ป่านานาชนิดไม่ว่าจะเป็นช้าง หมูป่า หรืออื่นๆ ไม่อาจจะคาดเดาว่าจะมีอันตรายเข้าใกล้ตัวเราเมื่อใด แม้จะมีเจ้าหน้าที่นำทางก็ตาม |
ถึงยามนี้.....แม้คำพังเพยโบราณที่กล่าวว่า เพื่อนกินหาง่าย เพื่อนตายหายาก ก็ไม่จริงเสมอไป...... สำหรับชีวิตของกลุ่มนักถ่ายภาพธรรมชาติมือสมัครเล่นบางคน เท่าที่เคยพบมากับตัวเองแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 บนเส้นทางเดินเท้าเพื่อไปชมความงดงามของทุ่งดอกหงอนนาค-ภูสอยดาวจังหวัดอุตรดิตย์ และครั้งนี้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงแห่งนี้ ก็ได้พบ เพื่อนแท้ ที่พร้อมจะเสี่ยงภัย คอยพูดปลอบใจและหยุดเดินรอเป็นเพื่อน จนตัวเองหายจากเป็นตะคิวแล้วค่อยเดินต่อ |
เธอเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ แม้ว่าเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมทาง ที่เคยท่องเที่ยวถ่ายภาพด้วยกันไม่กี่ครั้งในชีวิต ก็ขอฝากขอบคุณน้ำใจของเธอผู้นี้ ผู้ที่ไม่อาจจะเอ่ยชื่อได้ในที่นี้ ให้เพื่อน ๆ ที่มาชมภาพดอกเปราะภูแสนหวานได้ ตราตรึงความมีน้ำใจของเพื่อนผู้นี้ไปตราบนิรันดร์ |
โอกาสช่วงชีวิตแบบนี้คิดว่าน้อยคนนัก ที่จะได้ไปสัมผัสบรรยากาศแสนหวานท่ามกลางทุ่งเปราะภูบนภูหลวง เนื่องจากช่วงฤดูฝนทางกรมป่าไม้จะประกาศปิดภูหลวง ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกขึ้นไปศึกษาธรรมชาติในทุกพื้นที่บนภูหลวง ซึ่งก็คงคล้าย กับการเดินทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูกระดึง หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอีกหลายแห่ง ทั้งนี้....เพื่อให้สายฝนช่วยปรับสภาพธรรมชาติที่ผ่านความแห้งแล้งในช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อนให้กับผืนป่า |
และอีกหนึ่งในหลายเหตุผลก็เป็นเพราะว่าถนนขึ้นสู่หน่วยพิทักษ์ป่าโคกนกกระบาบนภูหลวง ยังไม่ได้ปรับปรุงให้เส้นทางขับรถสะดวกสบายตลอดเส้นทางบางช่วงจะยังคงเป็นดินลูกรัง ถ้าฝนตกติดต่อกันหลายวันจะขึ้นภูหลวงได้เฉพาะรถโฟวิล และผู้ขับรถเองก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายถึงชีวิต ผู้เขียนเองนับว่ามีความโชคดีมากๆ ที่มีโอกาสได้ขึ้นภูหลวงในฤดูฝน เนื่องจากได้รับการอนุเคราะห์จากเพื่อนที่แสนดีท่านหนึ่งให้ติดตามขึ้นภูหลวงไปด้วย นับเป็นครั้งที่ 5 รวมครั้งนี้ที่มีโอกาสเดินทางขึ้นไปชื่นชมธรรมชาติ(ดอกไม้)ที่งดงามบนภูหลวง |
สามฤดูบนภูหลวงถูกแต่งแต้มด้วยดอกไม้ป่านานาชนิดต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบแดง (กุหลาบพันปี)ในฤดูหนาวประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม ดอกกุหลาบขาว(กุหลาบพันปี) ในฤดูร้อนประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน ได้สัมผัสบรรยากาศแสนหวานที่นั่น จนห้ามใจไว้ไม่ได้ที่จะนำภาพที่ได้ไปสัมผัสมาฝากเพื่อนๆ ที่ไม่มีโอกาสไปชมสถานที่จริง หวังว่าคงจะถูกใจผู้อ่านไม่มากก็น้อย...... ขอเป็นเพียงหยดหนึ่งของหยาดฝน ชโลมใจให้ผู้อ่านทุกท่าน สดชื่นแจ่มใสในเศษเสี้ยววินาที............. ขอบคุณค่ะ
เรื่องท่องเที่ยวภูหลวงโดย พิศ พังงา ดอกไม้บาน 3 ฤดูบนภูหลวง ภูหลวง-แหล่งท่องเที่ยวในฝัน (ตอนที่2) ภูหลวง-แหล่งท่องเที่ยวในฝัน (ตอนที่1)