เนปาลอ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนจบ)
เนปาล. อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนจบ)
ธนิสร หลักชัย...เรื่อง ลลิตา ศิริไพบูลย์ , ธนิสร หลักชัย...ภาพ ออนไลน์เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2550
Day 6 พวกเรายังถูกชาวบ้านที่เปิดร้านขายของที่ระลึก เรียกเข้าร้านเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ หหลายคนบอกว่าจะไม่ซื้ออะไรอีก แต่ก็เสียเงินอีกจนได้ เพราะอัธยาศัยที่ดีของพวกเค้าเป็นเหตุ |
หญิงชราสองคน... ใช้ไม้เท้าช่วยค้ำยันตัวเอง ขึ้นไปตามบันไดไม่ต่ำกว่า 50 ขั้น/span> ไปสู่วัดของลามะด้านบน มือขวาก็หมุนวงล้ออธิษฐาน ปากก็สวดมนต์ภาวนา มือซ้ายคอยดันไม้เท้าพยุงร่างขึ้นไปด้วยความมั่นคง เป็นภาพทีทำให้ผมอดคิดถึงตัวเองไม่ได้ว่า เมื่อถึงวัยขนาดนี้ ศรัทธาของผมจะต่อสู้กับสังขารได้มากเหมือนหญิงชราทั้งสองหรือเปล่า |
เมื่อขึ้นไปอยู่บนวัดจะมองเห็นชาวบ้านนำแอ็ปเปิ้ล ที่ฝานบางๆ เป็นวง อีกทั้งพืชผักมาตากบนหลังคาบ้าน หลังคาบ้านละแวกนี้จะเป็นหลังคาแบบเรียบ อันเป็นสถาปัตยกรรมแบบ Thakkhola จะว่าไปน่าจะเรียว่าดาดฟ้าดูจะเหมาะกว่า Marpha เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ๆ เรียกว่า Panchgaon ซึ่งรวม 5 หมู่บ้านเข้าไว้ด้วยกัน แต่ Marpha มีเอกลักษณ์แตกต่างจากอีก 4 หมู่บ้าน ตรงที่จะมีชนชาติย่อยจาก Thakali อีก เรียกว่าชาว Matawan หรือ Matawan Thakali เรียกง่ายๆ ว่า Maphali มีภาษาของตัวเองที่พัฒนามาจากภาษา Thakali |
วันนี้เราเดินย้อนทางเก่าเพื่อกลับไป Jomsom พวกเราเพิ่งสังเกตระบบจ่ายน้ำของที่นี่ เค้าจะก่อหินเหมือนคลองส่งน้ำบ้านเราแต่มีขนาดเล็กกว่า ความกว้างไม่น่าจะเกิน 1 เมตร เมื่อต้องการให้จ่ายน้ำไปในเส้นทางส่งน้ำสายไหน เท่าที่พวกเราเห็นมีสามทาง เค้าก็จะเอาแผ่นไม้มากั้น ไม่ให้น้ำไหลไปทางนั้นแต่สายน้ำจะเปลี่ยนมาไหลอีกทางหนึ่งแทน แผ่นไม้ก็ทำหน้าที่เหมือนประตูน้ำนั่นเอง เรายืนดูชายคนหนึ่งนั่งทำหน้าที่อยู่ตรงนั้น แต่จะมีเวรผลัดเปลี่ยนกันหรือไม่พวกเราไม่ได้สอบถาม |
หมู่บ้านที่อยู่ในละแวกนี้เรียกว่าไม่ขาดแคลนน้ำ เพราะอยู่ติดแม่น้ำ อีกทั้งมีสายน้ำเล็กๆ อันเกิดจากหิมะละลายมาอยู่ไม่ขาด ถึงอากาศจะไม่เย็นแต่น้ำก็เย็นเฉียบ ตามเกสต์เฮ้าท์ที่พัก จะมีคูลเลอร์ใส่น้ำซึ่งผ่านการต้มแล้ว มาเติมใส่ให้ดื่มฟรีอยู่ตลอดเวลา ปัญหาเรื่องน้ำดื่มสำหรับนักท่องเที่ยวจึงไม่มี เมื่อเดินผ่านก็สามารถไปขอกรอกใส่ขวดได้ เป็นน้ำใจอีกข้อที่พบเห็นได้ที่นี่ |
...อาจหนาวแค่เพียงกาย แต่หัวใจของเรากลับอบอุ่นยิ่งนัก... |
Day 7 เราอำลา Jomsom มาสู่ Pokhara ด้วยความอาวรณ์ หัวใจบอกกับร่างกายว่ายังรับมือกับความหนาวได้อีกหลายวัน แต่งานนี้ไม่ใช่เกมฟุตบอล จึงไม่มีช่วงทดเวลาหรือต่อลาพิเศษ การจากลามันน่าเศร้าแต่เราก็หลีกไม่พ้น |
การเดินทางกลับ Kathmandu ของเราเปลี่ยนมาเป็นทางรถยนต์แทนเครื่องบิน (ซึ่งใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง) เพื่อให้ได้ในหลากหลายอารมณ์ จาก Pokhara ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 5 ชั่วโมง เพราะถนนค่อนข้างแคบ วิ่งเลาะไปตามไหล่เขาสูงชันซึ่งขนานไปกับแม่น้ำ ต้องอาศัยฝีมือและความชำนาญในการบังคับพวงมาลัย คนขับรถของเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ขับรถดีจนพวกเรารู้สึกหลับอย่างเป็นสุข ตื่นมาก็มองทิวทัศน์ระหว่างเส้นทางที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ |
ถึง Kathmandu เราตรงเข้าสู่ Thamel อีกครั้ง กับอาหารมื้อเย็นที่ร้านอาหารครัวไทย ไข่เจียวต้มยำกุ้ง ผัดผักรวมมิตรและน้ำปลาพริก ฯลฯ พอทำให้ลิ้นหายคิดถึงบ้านได้บ้าง Shradha กับ Stephen บอกลาพวกเราด้วยอาหารมื้อนั้น พร้อมฝากบอกคนที่เมืองไทยว่าหากสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับเนปาล ให้ไปดูได้ที่ www.welcomenepal.com |
หน้าที่การงานทำให้เราได้มาพบและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ยิ่งนานวัน... เส้นแบ่งพรมแดนกลับถูกหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน มิตรภาพและน้ำใจเป็นเสมือนปุ๋ยชั้นดี หล่อเลี้ยงบำรุงให้คำว่า เพื่อน เติบโตงอกงามไปตามวันเวลา |
...พวกเราพบเพื่อนใหม่ที่เหมือนรู้จักกันมาชั่วชีวิต... |
Day 8 เมฆหมอกเหมือนร้องไห้... ล่องลอยคอยร่ำลาส่งพวกเรา เครื่องบินบรรทุกนักท่องเที่ยวกลับมาเมืองไทยเต็มลำ หัวใจของพวกเค้าคงรู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกับวันที่เราไปถึงเนปาล |
วันที่ผมทำหัวใจดวงหนึ่งหล่นไว้... ไม่รู้เธอคนนั้นเก็บกลับมาเมืองไทยให้ผมหรือเปล่า... " ธนิสร หลักชัย " |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 1) เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 2) มิตรภาพเหนือระดับน้ำทะเลที่ภูกระดึง