เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 1)
เนปาล…. อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 1)
ธนิสร หลักชัย...เรื่อง/ภาพ ออนไลน์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550
Day 1… ทันที่กัปตันพาเครื่องของสายการบินรอยัล เนปาล แล่นเข้าเขตน่านฟ้าเนปาล ความรู้สึกผมเหมือนกำลังเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย ผืนเมฆที่ปูเต็มผืนฟ้าดุจพรม ถูกเทือกเขาหิมาลัยซึ่งปกคลุมด้วยหิมะขาวนวลตา ทะลุผ่านขึ้นมา....ดั่งเค้าว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว...เรารู้สึกอย่างนั้น
แม้จะไม่โชคดีเหมือนผู้โดยสารที่นั่งติดหน้าต่าง แต่ผมก็มองเห็นและรับรู้ เพียงแต่ไม่สามารถถ่ายรูปได้เท่านั้นเอง เพื่อนคนหนึ่งเคยมาเที่ยวที่นี่ แล้วกลับไปเล่าถึงเนปาลให้ฟัง... มันจึงเป็นหนึ่งในร้อยฝันพันเส้นทาง ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในความฝันของผมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
แต่เวลานี้... ผมกำลังลอยอยู่เหนือแผ่นดินแห่งความฝัน
ภาพยอดเขาต่างๆ นั้นอยู่ในสายตาเราร่วมหนึ่งชั่งโมง กว่าล้อเครื่องบินจะลงแตะพื้นรันเวย์ของสนามบินตรีภูวัน...ผู้คนที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก ล้วนสวมเสื้อกันหนาวสวมหมวกไหมพรมกันโดยทั่ว สามชั่วโมงก่อนนี้พวกเรายังอยู่ท่ามกลางความร้อนของกรุงเทพฯ อยู่เลย เมื่อเท้าก้าวผ่านประตูเครื่อง สายลมเย็นที่ Kathmandu ก็ไหวผ่านปะทะร่างกาย ทักทายพวกเรา
อากาศบนสวรรค์เป็นอย่างนี้เองหรือ....?
Shradha Shrestha สาวน้อยร้อยชั่งจาก Nepal Tourism Board มารอรับพวกเราที่สนามบิน พร้อมรอยยิ้มที่แสนสดใส เป็นยิ้มแรกอย่างเป็นทางการบนแผ่นดินเนปาล หากไม่นับรวมรอยยิ้มทักทายระหว่างทางเดินจนมาถึงเคาน์เตอร์ตรวจเอกสารเดินทาง... ถึงเวลาที่ผมจะเก็บเกี่ยวคืนวันที่ดีไว้ในความทรงจำอย่างจริงจังแล้ว
พวกเราเจ็ดชีวิตจากเมืองไทยอันมีชายสองหญิงห้า สี่สาวในกลุ่มเคยมาท่องเนปาลแล้ว ในเวลาที่ต่างกัน สองคน...มาตามฝัน ส่วนอีกสอง...มาตามหน้าที่ พี่ป๊อบ ธัญญา ศิริวิทย์ จาก Global Holiday Co.,Ltd. ดูจะเชี่ยวชาญกว่าใครเพราะงานบริษัททัวร์ของเธอ บรรจุเนปาลเป็นลำดับหนึ่ง ในหลายประเทศที่เสนอโปรแกรมพาลูกทัวร์ท่องเที่ยวลงใน www.globalholidayth.com อีกทั้งยังเป็นสื่อกลาง ส่งบัตรเชิญจาก Nepal Tourism Board มายังพวกเรา ทำให้ผมมีโอกาสมาถึงเนปาล ในเวลานี้ |
ก่อนเข้า Soaltee Crown Plaza Hotel ที่พักหรูระดับ 5 ดาว เสียงส่วนใหญ่เรียกร้องให้แวะ Thamel อันเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยว ที่เพิ่งจะมาถึงเนปาล เพื่อเดินทางต่อไปยังที่ต่างๆ ย่าน Thamel จึงเป็นศูนย์รวมของเกสต์เฮ้าท์ ร้านอาหาร อินเตอร์เน็ตคาเฟ่ บริษัททัวร์ ที่แลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นแหล่งช็อปปิ้งแหล่งใหญ่ แต่ที่เห็นมากๆ นอกจากสินค้าพื้นเมืองแล้ว ก็คงจะเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเดินป่า ปีนเขา ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวผจญภัยที่มีชื่อเสียงของประเทศเนปาล ราคาพอไหวแต่คุณภาพต้องตรวจสอบเอาตามใจชอบของแต่ละบุคคล
สาวๆ ที่เคยมาแล้วบอกกับเราว่า Thamel คือต้นแบบของถนนข้าวสารในเมืองไทย แต่อาจจะเป็นด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้สีสันยามราตรีของที่นี่ไม่คึกคักเหมือนถนนข้าวสาร... ตึกรามร้านเรือนดูเก่าคลาสสิก นักท่องเที่ยวเดินจับจ่าย พูดคุย ทักทาย ส่วนใหญ่จะเป็นชาวตะวันตกพวกแบ็คแพ็กเกอร์ ปีนเขาที่เนปาลเสร็จก็จะหนีหนาวมาตากอากาศริมทะเลที่เมืองไทย โดยมากจะเป็นอย่างนั้น ผมกับชอบ Thamel ในรูปแบบที่เป็นอยู่นี้ เพราะไม่ได้ต้องการมาหาผับบาร์และความศิวิไลซ์ พ่อค้าแม่ค้าก็น่ารักกว่าที่เราคิดไว้
“แม้ไม่ซื้อ...แค่เราเข้ามาดูสินค้า เค้าก็รู้สึกดีแล้ว” การซื้อขายอาจเป็นหนทางสู่การพูดคุยคละเคล้าด้วยรอยยิ้ม แต่มิตรภาพที่ตามมาระหว่างนั้น มันเป็นสิ่งที่ซื้อขายไม่ได้... ไม่ว่าจะแห่งหนใดในโลก... มันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันเห็นมันด้วยซ้ำไป |
อาหารมื้อค่ำที่ Nepal Tourism Board จัดเลี้ยงตอนรับ คืนแรกที่เนปาลพวกเราจึงหลับใหลไปด้วยความสุข....
Day 2… สายหมอกอ่อนๆ มาทักทายพวกเราแต่เช้าจรดสาย... Shradha มารับหลังอาหารเช้า เมื่อขึ้นไปนั่งประจำที่ ผมและ”เสือ” น้องชายร่วมทริปอีกคน รู้สึกตัวเล็กไปถนัด บนรถตู้เป็นโลกแห่งความสดใสเพราะผู้หญิงยึดครอง การจราจรในเมืองค่อนข้างจอแจพลุกพล่าน จนรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ปรับสภาพได้
จุดกำเนิดของ Kathmandu ตามตำนาน อยู่ที่ Swayambhunath ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูงมีองค์เจดีย์ใหญ่อยู่ด้านบน ที่ฐานทั้งสี่ทิศจะปรากฏ Wisdom eyes of Bhudda อันหมายถึงดวงตาเห็นธรรม ดวงตาแห่งปัญญา จึงเชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย สัญลักษณ์ระหว่างดวงตา ที่มองดูคล้ายเครื่องหมายคำถาม สื่อถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของโลก |
เหนือขึ้นไปด้านบนคือฉัตร สัญลักลักษณ์แห่งนิพพาน ผู้ดูแลสถูปคือพระสงฆ์สงฆ์นิกายวัชรยาน หรือลามะธิเบตที่เรารู้จักกันดี ภายในพื้นที่เดี่ยวกันก็จะมีที่ประกอบศาสนาพิธีของชาวฮินดู แม้ต่างศาสนาต่างชาติพันธุ์ กำแพงใดๆ ก็ไม่อาจกั้นหนทางแห่งความดีได้ ที่นี่ถูกเรียกอีกชื่อว่า Monkey Temple ตามฝูงลิงที่มีอยู่มาก แต่ไม่ซุกซนเหมือนลิงที่บ้านผมเลย ดูน่ารักมากกว่า องค์การยูเนสโก้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2522 |
ออกจาก kathmandu ไปทางตอนใต้ราว 10 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของ Bungamati หมู่บ้านในหุบเขาที่แสดงถึงอารยธรรมดั้งเดิมอันสวยงามของชาว Newari มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 จนถึงปัจจบัน ซึ่งชาวเนวารียังรักษาวิถีชิวิตความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของตนไว้ ที่กลางลานหมู่บ้านมี Rato Machhendranath Temple ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นชื่อของ Rato Machhendranath ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ดูแลคุ้มครองหมู่บ้าน สนามรอบๆ วัดมีวงล้อที่ใช้สวดมนต์ขนาดใหญ่ และสถูปสไตล์พุทธ-ทิเบต เป็นจำนวนมาก |
ในบ้านแต่ละหลังอาจมีสถูปเล็กๆ ไว้ประกอบพิธีกรรมและเคารพสักการะ ผมเห็นว่าคนเนปาล เป็นคนเคร่งครัดในการกราบไหว้บูชา ซึ่งเกิดด้วยความศรัทธาจากใจ มากกว่าจะทำแบบขอไปที ภาพเหล่านี้มีให้เห็นทุกแห่งหน ไม่ว่าในเมืองที่เจริญหรือชนบทที่ห่างไกล ชาวเนวารีที่ Bungamati เก่งเรื่องงานฝีมือแกะสลัก พวกไม้ เครื่องเงิน เครื่องโลหะ นั่งแกะกันเห็นๆ ราคาก็ไม่แพง เพราะไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง งานแต่ละอย่างหากผ่านไปถึงเมือง ราคาก็จะสูงตามไปด้วย |
...แล้วมีหรือที่พวกเราจะพลาด...
เสร็จมื้อเที่ยงเราเดินทางไป Bhaktapur ห่างจาก Kathmandu ไปทางตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,401 เมตร Bhaktapur ถูกเรียกว่า City of Devotees เป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์มัลละ ที่ยังคงความงดงามมาถึงปัจจุบัน
Bhaktapur Durbar Sqare เป็นที่ตั้งของหมู่พระราชวัง วิหาร ฝีมือในสกุลช่างเนวารีแท้ ในยุคที่มีความรุ่งเรืองทางการค้า จึงมีพระราชวังที่งดงามอย่าง Palce of 55 Windows สร้างในปี พ.ศ.2243 โดย King Ranjit Malla บานหน้าต่างไม้แกะสลักลวดลายงดงาม ด้วยความที่ Bhaktapur เป็นเมืองเก่า นอกจากพระราชวัง ภายในมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มากมาย รวมถึงเป็นที่อยู่ที่พักอาศัยของผู้คนจนถึงปัจจุบัน ตรอกซอกซอยเล็กๆ จึงเป็นชุมชน มีร้านค้า ตลาด และแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาในแบบดั้งเดิม
เรามานั่งจิบกาแฟริมระเบียงสูงบริเวณ Taumadhi Square เป็นช่วงเย็นที่ชาวเมืองออกมาจำหน่ายสินค้าต่างๆ ดั่งตลาดนัดยามเย็น มีไฮไลต์อย่าง Nyatapola Temple ซึ่งมีมณฑปที่สูงที่สุดในเนปาล อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
...กาแฟกานี้ของพวกเราจบลงไปพร้อมกับแสงสุดท้ายของวัน...
Day 3… Shradha ดูจะมีความสุขกว่าใครๆ ในยามนี้ เมื่อ Stephen Shrestha คู่ชีวิตของเธอมารอรับที่สนามบิน Pokhara โลกของเธอกลายเป็นสีชมพูขึ้นมาในทันใด Stephen มีธุรกิจ Ultralight Aircrafts อยู่ที่สนามบิน Pokharaในชื่อของ Avia Clup Nepal และเป็นหนึ่งในโปรแกรมของพวกเราในวันนี้ |
อากาศที่ Pokhara กำลังสบายๆ เราต่างรู้สึกตื่นเต้นแต่ไม่รู้สึกตื่นกลัว เพราะรู้ว่าปลอดภัย เนื่องจากนักบินทุกคนผ่านชั่วโมงบินกันมาอย่างโชกโชน หากไม่นับ Stephen ซึ่งเป็นลูกครึ่งเนปาล-รัสเซียแล้ว นักบินที่เหลืออีกสี่คนล้วนเป็นชาวรัสเซีย Avia Club Nepal เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว มาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 1997 เป็นผู้บุกเบิกกิจกรรมกีฬาทางอากาศภายในประเทศ เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศเนปาล สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่ www.avianepal.21bc.net |
ภาพแห่งความสวยงามเมื่อบินขึ้นไปบนอากาศ ทำให้ผมลืมเลือนความเย็นเฉียบไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนกที่โบยบินอยุ่บนฟ้า มองทิวทัศน์เหนือเมือง Pokhara เห็น Phewa Lake อันกว้างใหญ่ ที่สำคัญคือ Machhapuchchre ยอดเขาอันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งมีความสูง 6993 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อยู่บนฟ้าตรงหน้าผมนี่เอง |
... ผมพบสวรรค์เข้าอีกแล้ว... Pokhara เป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ทามกลางวงล้อมของ Annapurana เป็นจุดชมความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุด เนื่องจากห่างจากบริเวณเทือกเขาแค่ 30 กิโลเมตร ทั้งเป็นสถานที่เริ่มต้นเดินทางผจญภัยและล่องแพ Pokhara เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับสองรองจาก Kathmandu ที่นี่เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของ Dhaulagiri, Manaslu, Machhapuchhre และยอดเขา Annapurana ทั้ง 5 ยอดได้อย่างชัดเจน |
Stephen เป็นหนุ่มรูปหล่อจนสาวๆ ในกลุ่มพากันอิจฉา Shradha ทั้งคู่แต่งงานกันได้ไม่นาน คนรักที่นานๆ พบกันทีย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา Stephen บอกพวกเราว่าพ่อของเค้า มาเรียนหมออยู่ที่ ร.พ.ศิริราช ที่เมืองไทย เสร็จแล้วก็ไปเรียนต่อจนได้พบกับแม่ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย “มิน่าถึงได้หล่อคมแบบนี้” |
สาวๆ ในกลุ่มเค้าว่ากันยังงั้น พร้อมสายตาที่จับจ้องดุจนางพญาเสือร้าย ที่หมายจะขย้ำเหยื่อให้มิดคมเขี้ยว Stephen เป็นเพื่อนร่วมทางคนใหม่ ที่มาช่วย Shradha ดูแลพวกเรา |
|
...เห็นคนรักได้พบกัน ทำไมพวกเราจะไม่มีความสุข... |
เรื่องที่เกี่ยวข้อง เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนที่ 2) เนปาล..อ้อมกอดแห่งสวรรค์ (ตอนจบ) มิตรภาพเหนือระดับน้ำทะเลที่…ภูกระดึง