PARIS ทุกอณูของมหานครแห่งฝรั่งเศส คือความโรแมนติก

PARIS ทุกอณูของมหานครแห่งฝรั่งเศส คือความโรแมนติก

PARIS ทุกอณูของมหานครแห่งฝรั่งเศส คือความโรแมนติก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ถนนชองป์เซลีเซ่ แม่น้ำแซน มงมารตร์ ประตูชัย ไวน์ น้ำหอม วิหารนอเตรอดาม และผู้คนชาวปารีเซียน ทุกอย่างสมรู้ร่วมคิดให้ปารีส คือที่ทางของความโรแมนซ์ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เด็ดขาด

มองอย่างใจเป็นกลาง ฉันว่าน้ำหนักของความโรแมนซ์ของปารีส ดูเหมือนจะแซงหน้าน้ำหนักความคลาสสิกไปแค่นิดเดียว ไม่อย่างนั้น บูดาเปสท์แห่งฮังการีอาจจะเสียแชมป์เมืองสวยคลาสสิกไปก็ได้ เพราะปารีสก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองงามคลาสสิกแห่งหนึ่งของโลก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกในปารีสของฉัน แต่ระดับความตื่นเต้นก็ยังผุดพราย เที่ยวนี้ใช้บริการสายการบินโอมาน แอร์ เลยได้แวะเที่ยวโอมานเป็นของแถม แต่ที่ประหลาดใจเล็กน้อย เป็นบริการบนเครื่องและสภาพเครื่องของเขา ไม่คิดว่าจะเพอร์เ์ฟ็กต์ได้ขนาดนี้ เครื่องใหม่เอี่ยม บริการก็ไม่ขาดตกบกพร่องแม้จะเป็นที่นั่งชั้นประหยัด เรียกว่าประทับใจกันตั้งแต่ออกตัวเลยทีเดียว

7 ปีคล้อยหลัง ปารีสยังสวยเชิ่ดเริ่ดปิ๊งเหมือนเดิม ดูเหมือนหล่อนไม่ร่วงโรยตามกาลเวลา หรือหากจะพูดให้ถูกคือโมงยามไม่อาจทำร้ายความงามของปารีสได้เลยแม้แต่กระบิเดียว

ไม่รู้ปารีสให้ครีมยี่ห้ออะไร หล่อนถึงสวยไม่สร่าง ริ้วรอยไม่ปรากฏ หล่อนยังแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยอาภรณ์มีสไตล์และโรยไว้ด้วยรสนิยมตั้งแต่หัวจรดเท้า

และแน่นอน อารมณ์ละมุนและอาบไล้ไปด้วยความสุนทรีย์ยังคงเป็นบุคลิกประจำตัวหล่อน เช้าหล่อนอาจจะนั่งละเลียดจิบกาแฟ แต่ไวน์รสชาติดีก็ยังจำเป็นต้องมีไว้กลั้วคอในยามค่ำคืน

เนื้อตัวของหล่อนยังถูกพรมไว้ด้วยน้ำหอมชั้นดี แต่เดินดีๆ ละกันอย่ามัวหลงใหลได้ปลื้มกับกลิ่นตัวหอมๆ ของปารีส เพราะหล่อนยังชอบวางกับดักด้วยอึของเจ้าตูบที่กองระเกะ
ระกะบนทางเท้า

นั่นแหละ ปารีสที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ปารีสที่แม้ไม่ได้อยู่ในทำเนียบเมืองโปรดของฉัน แต่บ้าจริงๆ ที่พอถูกปารีสโอบไหล่เบาๆ ก็นึกถึงหอไอเฟล (La Tour Eiffel) ขึ้นมาซะงั้น

ไม่นะ ครั้งนี้จะไม่ขอปีนป่ายขึ้นไปบนไอเฟลอีกแล้ว ต่อให้ขึ้นฟรีก็เถอะ ขอนอนเอนหลังบนสนามหญ้าแล้วทักทายไอเฟลในระนาบใหม่ๆ บ้างเถอะ ที่เป็นแบบนั้นเพราะเห็นทั้งคิวขึ้นบันไดและคิวขึ้นลิฟต์ยาวเหยียดหลายกิโลแล้ว หัวเด็ดตีนขาดถึงให้ขึ้นฟรีก็ไม่เอา

คงเพราะใครๆ ต่างก็อยากขึ้นไปสูดอากาศเหนือมหานครแห่งความโรแมนซ์ โครงเหล็กสูง 300 เมตรแห่งนี้เลยต้องรับแขกกันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

เห็นแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่า ครั้งหนึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสเคยมีความคิดจะทุบทิ้งเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้หอไอเฟลกลับกลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าของมหานครปารีส และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นโลโก้ของประเทศฝรั่งเศสไปโดยปริยาย

จำได้ว่าปารีสครั้งก่อน ตอนเห็นไอเฟลถูกห่มด้วยแสงนีออน เสน่ห์ของไอเฟลยิ่งดูแพรวพราวขึ้นผิดหูผิดตา เสน่ห์นั้นยังติดตา เลยเอ้อระเหยอยู่แถวนั้น เพื่อรอชมความงามของหล่อนยามค่ำคืน แล้วก็ไม่ผิดหวัง ราวกับรู้ว่ามีคนเฝ้ารอดู ไอเฟลเลยเปล่งแสงระยิบระยับ อย่างไม่ให้แขกเหรื่อทุกคนผิดหวัง

บางคนตั้งใจมากินดื่มความโรแมนติกของปารีสอย่างจริงจัง พอดวงตะวันหมดหน้าที่ เขาจึงพากันล่องเรือไปตามแม่น้ำแซน ชื่นชมความงามยามค่ำคืนของปารีส และแน่นอนหอไอเฟลก็โบกไม้โบกมือทักทายทุกคนในเรือ ราวกับหล่อนคือมิสปารีสที่กำลังปฏิบัติภารกิจสาวงามตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

และถึงแม้ไม่ใช่อาร์ตตัวแม่ หรือเป็นพวกเสพศิลปะแทนข้าวปลาอาหาร แต่สาบานได้ว่าเข้าลูฟร์ (Louvre) ซักกี่ครั้งก็ไม่เคยนึกเบื่อ

อย่างคนไร้เดียงสาเรื่องศิลปะ ฉันยังมองออกว่าที่นี่คงเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก ไม่เช่นนั้นแถวที่รอต่อคิวเข้าพิพิธภัณฑ์คงไม่ยาวเหยียดเลื้อยเป็นงูพันหลักแบบนี้ โดยเฉพาะวันที่ไปเหมือนถูกเลขท้าย 3 ตัว เพราะเป็นวันเดียวในรอบเดือนที่ลูฟร์เปิดให้เข้าชมฟรีไม่มีค่าเสียหาย

ใครจะไปบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเขาจะเปิดให้เข้าฟรี ผู้คนเลยจูงลูกจูงเมีย ไปยืนต่อคิวกันตั้งแต่รุ่งสาง พิพิธภัณฑ์เปิด 9 โมงเช้า แต่ตอนที่ไปถึง 8 โมงครึ่งคิวยาวประมาณ 2 กิโลเห็นจะได้ อย่าให้เดาเลยว่าคนที่มาคิวแรกเขามาถึงตอนกี่โมง

สำหรับคอศิลปะ ลูฟร์เปรียบดังเมกกะของคนรักพิพิธภัณฑ์วันเดียวอาจไม่พอที่จะขลุกอยู่ในสถานที่อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ เพราะทั้งภาพวาดโมนาลิซา ผลงานของจิตรกรเอกของโลกอย่างลีโอ นาโด ดาวินชี่ รูปปั้นวีนัส และห้องแสดงภาพเรื่องราวของจอมทัพอย่างนโปเลียน ก็ล้วนแต่ถูกเก็บอยู่ในนี้แทบทั้งสิ้น

แต่ร้อยทั้งร้อยของนักเดินทาง มาแล้วเห็นเดินถามหาเฉพาะภาพวาดโมนาลิซา เสร็จแล้วเดินรี่ไปลั่นชัตเตอร์ใส่ รูปปั้นวีนัส เป็นอันว่าถึงลูฟร์ ส่วนฉัน 2 ครั้ง 2 คราในลูฟร์ก็ยังไม่อิ่มอยู่ดี แบบนี้เห็นทีต้องมีรอบซ่อม

ตามสูตรคนมาปารีส นอกจากไปยืนเด๋อๆ ด๋าๆ ถ่ายรูปหน้าโอเปร่า การ์นิเยร์ เสร็จแล้วก็นั่งรถไฟใต้ดินไปวิหารนอเตรอดาม (Notre Dame) เพราะนี่คือศาสนสถานคู่เมืองปารีสอายุกว่า 800 ปี ที่งามล้ำอย่างไร้ที่ติ และแน่นอนกักขังประวัติศาสตร์เอาไว้อย่างน่าสนใจ

แต่ถ้าจะตามหาโบสถ์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองคงต้องไปที่โบสถ์พระหฤทัย (The Sacre Coeur) ที่ทอดตัวอยู่บนเนินเขามงมารตร์ (Montmartre) แหล่งพบปะชุมนุมของบรรดาศิลปิน ความสุนทรีย์จึงป้วนเปี้ยนรอทุกคนอยู่แถวนี้

แต่ถึงอย่างไร ทั่วทั้งปารีส ก็คงไม่มีที่ไหนที่น่าอ้อยอิ่งเท่าถนนชองป์เซลีเซ่ (Champs Elysee) อีกแล้ว ถนนสายทรงเสน่ห์ที่คนทั้งโลกพากันเอ่ยถึงใครได้มาเดินโต๋เต๋บนสายนี้ ก็คงเห็นด้วยที่ปารีสถูกยกให้เป็นสวรรค์ของนักช้อป เพราะชองป์เซลีเซ่ส่งแบรนด์เนมมาดักไว้ทุกพิกัด แต่ตลาดนัดกลางแจ้งที่มีขึ้นทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่หนุ่มสาวนักช้อปแอบกระซิบว่าเป็นของดีของเด็ดที่ปารีสซุกเอาไว้

เห็นท่าจะจริง ที่ว่าหากโลกนี้ขาดมหานครปารีส คงอับเฉาสิ้นดี

----------------------------------------------------

Paris's Tips

* สอบถามรายละเอียดที่ 02-6351222 หรือคลิกเข้าไปดูรายละเอียดตารางบินได้ที่ www.omanair.com

* ปารีสมีที่พักให้เลือกหลากหลาย คลิกไปเลือกได้ที่ www.agoda.co.th นอกจากจะมีโปรโมชั่นมากมาย เขายังรับประกันว่ามีห้องพักราคาถูกที่สุด และทุกการจองจะได้รับแต้มสะสม ซึ่งนำไปใช้เป็นส่วนลดในการจองห้องพักกับอโกดาครั้งถัดไปได้ แต่ถ้าใครอยากพักแถวถนนลา ฟาแยตต์ แนะ Hotel Jules ตกแต่งทั้งเก๋ทั้งมีสไตล์ คลิกไปดูที่ www.hoteljules.com หรือถ้าอยากพักใกล้ถนนชองป์เซลิเซ่ ที่ Hotel Beauchamps จัดว่าอยู่ในทำเลที่ดี คลิกไปดูที่ www.hotelbeauchamps.com

* จะไปลูฟร์วันไหนก็ได้ เปิด 9.00-18.00 น. แต่ยกเว้นวันอังคารที่ปิดทำการ และพิเศษตรงที่ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนจะเปิดให้เข้าชมฟรี คลิกไปอัพเดตข้อมูลได้ที่ www.louvre.fr

* ถ้าใช้บริการรถสาธารณะเยอะ แนะว่าให้ซื้อบัตร Paris Visite ดีกว่า เพราะครอบคลุมทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟด่วน หนือรถประจำทาง ราคาแบบ 1 วัน 8 ยูโร แบบ 2 วัน 13 ยูโร แบบ 3 วัน 18 ยูโร ซื้อได้ตามสถานีรถไฟใต้ดินและบูธการท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าจะใช้รถสาธารณะแค่ไหน จะซื้อเป็นเที่ยวก็เที่ยวละ 1.5 ยูโร หรือจะซื้อตั๋วแบบ 10 ใบก็ราคา 11 ยูโร

* สำหรับคนชอบนั่งรถเที่ยว ปารีสมีรถ 2 ชั้นพาเที่ยวทั่วเมืองไปตามสถานที่สำคัญๆ ราคาประมาณ 20-25 ยูโร

* แน่นอนคนมาปารีสต้องมาชอปปิ้ง นอกจากถนนชองป์เซลีเซ่แล้ว ยังมีห้างลาฟาแยตต์ ห้างแพรงตอง และโอ ปองมาร์เช ที่ล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยของแพง หากอยากช้อปของถูกต้องไปตลาดนัดกลางแจ้งที่มีทุกสุดสัปดาห์ที่ชื่อ Les Puces de St'Ouen

เรื่อง/ภาพ : กาญจนา หงษ์ทอง

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ PARIS ทุกอณูของมหานครแห่งฝรั่งเศส คือความโรแมนติก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook