เชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดหนึ่งของไทย ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 20,107 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีประชากร 1,728,242 คน มากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ในจำนวนนี้เป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและชานเมือง 960,906 คน โดยจังหวัดเชียงใหม่ทิศเหนือติดต่อกับรัฐฉานของพม่า จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาแต่โบราณ มี "คำเมือง" เป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเริ่มวางตัวเป็นนครสร้างสรรค์ และกำลังพิจารณาสมัครเข้าเป็นนครสร้างสรรค์ของยูเนสโก
เชียงใหม่
เที่ยวดอย ชมดาว สัมผัสไอหนาว ที่ "ดอยอ่างขาง" จ.เชียงใหม่
ดอยอ่างขาง สถานที่เที่ยวแนะนำให้ไปของจังหวัดเชียงใหม่
เที่ยวดอย ชมดาว สัมผัสไอหนาว ที่ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทางทีมงานคู่หูเดินทางอยากจะแนะนำให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกัน เพราะเป็นสถานที่ที่สวยงาม บรรยากาศดี อากาศบริสุทธิ์ และที่สำคัญอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีด้วยที่ตั้งที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,400 เมตร มีลักษณะภูมิประเทศเหมือนท้องกระทะหรืออ่าง อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 17.7 องศาเซลเซียส ถ้ามาในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิก็จะลดลงเป็นเลขหลักเดียว ถ้ามาในช่วงฤดูร้อนอากาศก็จะอุ่นขึ้นแต่ก็ไม่ร้อนมาก
ดอยอ่างขางตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 159 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ถนนลาดยางตลอดเส้นทาง จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวที่นี่กันมากเพราะสามารถไปเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวต่างๆ ได้ภายในโครงการหลวงสถานีเกษตรอ่างขางซึ่งมีความสวยงามและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท ภายในโครงการมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้...
เที่ยวเชียงใหม่
สวนแปดสิบ เชียงใหม่
สวนนี้ตั้งชื่อในวาระที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวงมีพระชนมายุครบ 80 ชันษาเป็นแปลงปลูกไม้เมืองหนาวกลางแจ้ง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์สำหรับการเที่ยวชมดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ใจกลางสถานีเกษตรอ่างขาง บริเวณด้านหน้าสำนักงานสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้เมืองหนาวสีสันสวยงามทั้งจากในและต่างประเทศ เช่นกะหล่ำยักษ์ คะน้าประดับ แพนซีไวโอลา เดลฟีเนียม นีมีเซีย แมกโนเลีย ไม้ตระกูลซากุระ เมเปิล แพนซีไวโอลา เดซี สัปปะรดสี เป็นต้น โดยมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันตลอดทั้งปี
ไฮไลท์อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ การไปชมต้นซากุระแท้ๆ จากประเทศญี่ปุ่นซึ่งปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน ซากุระต้นนี้เติบโตได้ดีที่อ่างขางและออกดอกสวยงามมาก ใครที่อยากเห็นดอกซากุระแท้ๆ โดยที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถมาเที่ยวชมได้ที่นี่และถ้ามาในช่วงหน้าหนาวก็จะได้พบกับซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยหวานเป็นของแถมอีกด้วย ด้านข้างมีบริการร้านอาหารของโครงการฯ (สโมสรอ่างขาง) ถ้ามาในช่วงเทศกาลแนะนำให้สำรองที่นั่งไว้ก่อนเพราะคนค่อนข้างเยอะมากที่นี่จะมีบริการอาหารที่หารับประทานยาก เช่น สลัดผักอ่างขาง เป็นสลัดผักปลอดสารพิษนะครับ ปลาเทราต์ทอดกระเทียมพริกไทยดำ เห็ดหอมสดทอด น้ำพริกอ่างขาง ที่รับประทาน คู่กับผักสดกรอบอร่อยได้รสชาติดี และอีกเมนูหนึ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือ "ขาหมู หมั่นโถยูนาน" นั่นเองซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่รสชาติอร่อยมากครับ
พระตำหนักดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
อยู่ในป่าเมเปิลบนเนินฝั่งตรงข้ามกับสโมสรอ่างขางติดกับสวนแปดสิบ ลักษณะเป็นพระตำหนักหลังเล็ก ล้อมรอบไปด้วยป่าเมเปิลที่ใบมีสีสันสวยงามในแต่ละฤดูกาล บริเวณด้านหลังพระตำหนักเป็นป่าซากุระซึ่งจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว สามารถเดินเที่ยวชมได้แค่บริเวณภายนอกพระตำหนักเท่านั้น
เที่ยวโรงเรือนปลูกผักเมืองหนาว เชียงใหม่
เป็นโรงเรือนพลาสติกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางด้านหลังโครงการบริเวณทางออก ภายในโรงเรือนทำเป็นแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาวหลายชนิด ด้านหลังของโรงเรือนเป็นโรงปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน ผลผลิตที่ได้ส่งขายที่ร้านจำหน่ายผลผลิตของโครงการหลวงอ่างขางบริเวณโรงเรือนไม้ในร่ม
สถานที่เที่ยวเชียงใหม่
เที่ยวสวนบ๊วย - สวนท้อ ที่เชียงใหม่
สวนบ๊วยมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด จุดอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือก่อนถึงสโมสรอ่างขาง และอีกจุดหนึ่งบริเวณฝั่งตรงข้ามกับโรงเรือนปลูกผัก ส่วนสวนท้อมีกระจายอยู่หลายจุด จุดใหญ่สุดจะอยู่หน้าสวนบอนไซ ในส่วนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรือนปลูกผักนั้นจะมีการปลูกบ๊วยและท้อสลับกัน มีการจัดวางเก้าอี้ไม้ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันในบรรยากาศงดงามด้วยดอกบ๊วยสีขาวตัดกับดอกท้อสีชมพูปลูกเป็นแถวเรียงกันอย่างสวยงามเป็นระเบียบ
โรงเรือนกุหลาบ จังหวัดเชียงใหม่
โรงเรือนกุหลาบเป็นแปลงทดลองปลูกกุหลาบในโรงเรือน ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ประมาณ 100 เมตรจากด่านเก็บค่าธรรมเนียม โรงเรือนกุหลาบมี 2 โรง โรงแรกเป็นแปลงทดลอง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โรงเรือนถัดไปเป็นโรงเรือนปลูกกุหลาบเพื่อการวิจัยไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ภายในโรงเรือนแรกเป็นแหล่งรวบรวมกุหลาบหลายชนิดหลากสีมีทั้งชนิดที่มีกลิ่นหอมและชนิดที่ไม่มีกลิ่น ด้านท้ายของโรงเรือนมีบอร์ดให้ความรู้เกี่ยวกับกุหลาบชนิดต่างๆ นอกจากจะปลูกกุหลาบเพื่อทดลองแล้วยังปลูกเพื่อตัดดอกเก็บผลผลิตอีกด้วย ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมหลังจากช่วงที่ตัดดอกไปแล้วก็อาจจะไม่เห็นดอกกุหลาบสวยๆ อย่างที่อยากจะเห็น ภายในโรงเรือนจะใช้วิธีการเพิ่มความชื้นโดยการพ่นสเปรย์น้ำอัตโนมัติ กำหนดเวลาที่จะให้น้ำได้ติดประกาศไว้ที่ปากทางเข้า ดังนั้นการจะเข้าไปชมในโรงเรือนควรดูกำหนดการให้น้ำด้วย มิฉะนั้นจะเปียกทั้ง คนและกล้อง
โรงเรือนพันธุ์ไม้ในร่ม เชียงใหม่
เป็นโรงเรือนพลาสติกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางด้านขวามือห่างจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมประมาณ 100 เมตร ตรงข้ามกับโรงเรือนกุหลาบ โรงเรือนนี้เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ดอกไม้ประดับในร่มไว้มากมาย เช่น กล้วยไม้ประเภทต่างๆ บีโกเนีย มอส เฟิร์น และมีอีกมากมายหลายสายพันธุ์สีสันสวยงาม นอกจากจะมีไว้ให้ชมแล้วบางชนิดยังจัดจำหน่ายให้กับผู้สนใจอีกด้วย จุดจำหน่ายผลผลิตของโครงการหลวงอยู่ภายในโรงเรือนทางด้านหน้า ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมีทั้งไม้ประดับกระถางเล็กๆ พืชผักจากในโครงการ ผลิตภัณฑ์แปรรูป หนังสือ และโปสต์การ์ด
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สวนบอนไซ
นอกจากนี้ยังมีบอนไซที่อายุยืนที่สุดในโลกให้ชมอีกด้วย ในโดมรูปทรงหกเหลี่ยมจะจัดแสดงพันธุ์พืชภูเขาเขตร้อนและดอกกล้วยไม้จิ๋วที่สุด ที่จะออกดอกเดือนมกราคมของทุกปี และมีสวนหินธรรมชาติ
ภายในโครงการสถานีเกษตรหลวงอ่างขางยังจัดให้มีแปลงสาธิตอื่นๆ อีกมากมายอาทิ แปลงสาลี่ แปลงกีวี แปลงพลับ แปลงแมคาเดเมียเป็นต้น ด้านหน้าถัดจากโรงเรือนกุหลาบยังจัดให้มีสวนไม้ดอกกลางแจ้งขึ้นมาอีกจุดหนึ่งครับ ตรงจุดนี้ทางโครงการฯก็จัดและตกแต่งสวนไว้อย่างสวยงามเช่นกัน ส่วนในยามค่ำคืนบรรยากาศจะโรแมนติกมากๆ เพราะบนท้องฟ้ามีดาวดาวนับร้อยนับพันดวงลอยอยู่เต็มไปหมดซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากกับชีวิตในเมืองอย่างเราๆ ครับ
บริเวณลานจอดรถด้านหน้าทางเข้าโครงการฯจะมีร้านอาหาร บ้านพัก ร้านค้าขายของที่ระลึกไว้บริการ ในช่วงเทศกาลจะมีมีชาวไทยภูเขานำของที่ระลึกทำมือมาวางขาย ในราคาไม่แพง เช่น "กำไลหญ้าอิบูเค" ซึ่งถักจากหญ้าอิบูเค แล้วนำมาย้อมสีสวยงามจนกลายเป็นสินค้าประจำอ่างขางไปแล้วครับ ผู้ที่ชื่นชอบสินค้าท้องถิ่น ก็เลือกซื้อหาสินค้าที่ทำด้วยมือชนิดต่างๆ เช่น หมวก ผ้าพันคอ เสื้อชาวเขา ราคาต่อรองกันได้ เป็นทางช่วยกระจายรายได้ไปยังคนในท้องที่ที่ดีทางหนึ่งครับ
มีเครื่องดื่มแก้หนาวให้บริการ อาทิ น้ำขิงร้อน นมสดร้อน น้ำเก๊กฮวยร้อน ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ดื่มเข้าไปแล้วรู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที หรือจะเป็น ข้าวโพดปิ้ง มันเผาก็มีครับ เมื่อครั้งที่ทางทีมงานได้ไปเก็บเรื่องราวมาฝากกันนั้นอุณหภูมิที่อ่างขางหนาวมากถึง 2 องศาเซลเซียส จึงขอแนะนำคุณผู้อ่านถ้ามาในช่วงหน้าหนาวกรุณาเตรียมร่างกายและอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อมถุงมือถุงเท้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และที่สำคัญถ้ามีถุงนอนด้วยแล้วสบายสุดๆ เลยครับ
อีกจุดหนึ่งตรงบริเวณทางขึ้นมาบนสถานีเกษตรหลวงอ่างขางจะมีจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณนี้เราของแนะนำให้จอดรถลงไปถ่ายรูปกันนะครับเค้ามีระเบียงไม้ให้เราไปยืนเก๊กท่าพร้อมมีแบ็คกราวนด์เป็นวิวที่สวยงามดีครับ
ค่อยๆ เดินเล่น ค่อยๆ ชมธรรมชาติ ใช้ชีวิตให้ช้าลง เก็บภาพความประทับใจเหล่านี้ไว้ในความทรงจำ...ที่สวยงาม และไม่ว่าจะหน้าหนาวหรือหน้าไหนผมว่า "ดอยอ่างขาง" ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผมว่ามีเส่นห์และสวยงามตลอดทั้งปี
ท่องเที่ยวเชียงใหม่
"...TIPS รู้ไว้ก่อนไปเที่ยวเชียงใหม่..."
ที่พักมีให้เลือก 2 แบบ คือ พักแบบปกติ บ้านพักในโครงการฯ ซึ่งต้องจองกันแบบล่วงหน้ามากๆ เพราะถ้าในช่วงวันหยุดยาวๆ สถานที่พักอาจจะเต็มได้ โรงแรม หรือห้องพักของชาวบ้านที่มีให้บริการบริเวณจุดจอดรถก่อนทางเข้าโครงการหลวงฯ หรือถ้าชอบแนวผจญภัยนิดหน่อยก็ต้องแบบนอนเต็นท์ ซึ่งจุดกางเต็นท์ก็มีให้บริการอยู่ 2 จุดด้วยกัน คือจุดของโครงการหลวงฯ ซึ่งอยู่ก่อนถึงทางเข้าประมาณ 3 กิโลเมตร และอีกจุดหนึ่งเป็นของหน่วย อพปร. เป็นลานกว้างปรับระดับดินให้เป็นแนวราบ ข้อดีของจุดนี้คือเมื่อคุณตื่นนอนคุณก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบพาโนรามาสวยดีทีเดียว มีน้ำอุ่นให้บริการ จะอยู่เลยขึ้นไปอีกประมาณ 4-5 กิโลเมตร
การเดินทางไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
เดินทางไปเชียงใหม่โดยรถยนต์ส่วนตัว จากเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง เป็นเส้นทางผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ทางแยกเข้าดอยอ่างขางที่ กิโลเมตรที่ 137 มีระยะทางถึงอ่างขางประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่สั้นแต่ชันมาก รถเก๋งและรถทุกชนิดขึ้นได้แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวังอย่างมาก
เดินทางไปเชียงใหม่โดยรถประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถออกจากสถานีหมอชิต 2 (จตุจักร) กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ มี 2 เที่ยว คือเวลา 9.00 น. และ 20.00 น. ลงที่สถานีขนส่งช้างเผือก ต่อรถเอกชนสายเชียงใหม่-ฝาง หรือ เชียงใหม่-ท่าตอน ที่สถานี แล้วลงที่ปากทางขึ้นดอยอ่างขาง หน้าวัดหาดสำราญ กิโลเมตรที่ 137 ค่าโดยสาร 100 บาท ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นให้ว่าจ้างสองแถว รถตู้ หรือรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยอ่างขางอีกทีหนึ่ง หรือเดินทางด้วยรถตู้ประจำทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังอ่างขาง ที่สถานีขนส่งช้างเผือกก็ได้ สายเชียงใหม่-ท่าตอน VIP 150 บาท ธรรมดา 130 บาท
คำขวัญ เชียงใหม่ :
" ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา นามล้ำค่านครพิงค์ "
ประวัติ จังหวัด เชียงใหม่ :
เมื่อครั้งที่สร้างเมืองเชียงใหม่นั้น พ่อขุนเม็งรายได้เชิญ พ่อขุนงำเมือง และ พ่อขุนรามคำแหง ซึ่งเป็น พระสหายร่วมน้ำสาบานกัน มาช่วยเลือกบริเวณที่จะสร้างเมืองใหม่ เมื่อกษัตริย์ทั้ง 3 พระองค์ ได้ทรงเห็นชัยภูมิที่ราบอันอุดมสมบูรณ์บริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิงตรงดอยสุเทพ แล้ว ทรงพอพระทัยเป็นอย่างยิ่ง พ่อขุนเม็งราย จึงทรงให้สร้างกำแพงเมือง และขุดคูรอบเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทั้ง 3 พระองค์ทรงขนานนามเมืองนี้ว่า นพบุรีศรีนครพิงค์ เมื่อเมืองเชียงใหม่ ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าสลับกับกรุงศรีอยุธยาอยู่หลายครั้งหลายคราว แต่ในที่สุดภายหลังก็รวมอยู่ในราชอาณาจักรไทยอย่างเด็ดขาดได้ ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี ตราบมาจนวันนี้ครับ
อาณาเขตจังหวัดเชียงใหม่ :
ทิศเหนือ ติดต่อกับ พม่า
ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดลำพูน แม่ฮ่องสอน และ ตาก
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จังหวัดเชียงรายและลำปาง
จังหวัด เชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมด ๒๐,๑๐๗.๐๕๗ ตารางกิโลเมตร ซึ่งนับว่า มีพื้นที่มากที่สุด ในประเทศ ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๖๙๖ กิโลเมตร
แบ่ง การปกครอง ออกเป็น ๒๒ อำเภอ กับ ๒ กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอหางดง อำเภอแม่แตง อำเภอสารภี อำเภอสันกำแพง อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอเชียงดาว อำเภอสันทราย อำเภอฝาง อำเภอฮอด อำเภอก๋อย อำเภอพร้าว อำเภอแม่ริม อำเภอสะเมิง อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอสันป่าตอง อำเภอแม่อาย อำเภอดอยเต่า อำเภอเวียงแหง อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่วาง กิ่งอำเภอแม่ออน และกิ่งอำเภอดอยหล่อ
(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)