My Porch สุดยอดความอร่อยในวันสบายๆ

My Porch สุดยอดความอร่อยในวันสบายๆ

My Porch สุดยอดความอร่อยในวันสบายๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คงไม่มีใครปฏิเสธใช่ไหมครับว่า ความสุขเล็กๆ อย่างหนึ่งของคนเราในแต่ละวัน ก็คือช่วงเวลาอิ่มเอมบนโต๊ะอาหาร ยิ่งถ้าร้านไหนที่ไปกินแล้วรสชาติอาหารดี แถมมีบรรยากาศตรงกับความชอบส่วนตัวเป็นพิเศษแล้วละก็ รับรองว่าอาหารมื้อนั้นไม่ว่าจะถูกหรือแพง ก็ย่อมสร้างความประทับในทุกครั้งที่นึกถึง หรือกลับไปเป็นลูกค้าขาประจำกันอีกหลายรอบ

อย่างวันนี้ตัวผมเองรู้สึกอยากชวนเพื่อนๆ ไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน แต่พอพูดถึงอาหารญี่ปุ่นขึ้นมาปุ๊บ หลายคนก็นึกถึงแต่เมนูต้นตำรับเดิมๆ ที่เคยกินกันอยู่เป็นประจำ อย่าง ซูชิ,เทมปุระ,โซบะ ทั้งๆ ที่จริงแล้วตอนนี้ 'อาหารยุโรปสไตล์ญี่ปุ่น' หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า 'Yoshoku' ก็มีความอร่อยโดดเด่นไม่แพ้กัน ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศความอร่อยไปลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นรสชาติใหม่ๆ ก็ตามพวกเราไปได้เลย

ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ชื่อว่า มายพอร์ช (My Porch Restaurant & Cafe Western Cuisine ) แม้จะเป็นร้านที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่มีรถราวิ่งหนาแน่นกันตลอดทั้งวัน แต่เมื่อเดินทางไปถึงหน้าร้านที่ไม่ไกลจากปากซอยแค่ราวๆ 200 เมตร ความรู้สึกแรกที่พวกเราสัมผัสได้ก็คือ บรรยากาศร้านจริงๆ น่ารักกว่ารูปในอินเตอร์เน็ตที่เราเปิดดูกันก่อนมาตั้งเยอะแน่ะ มีเจ้าของทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนกัน อย่างวันนี้เราได้เจอกับ 'คุณเคอิจิ อูเอโนะ' ที่ออกมาต้อนรับพวกเราอย่างน่ารักและเป็นกันเอง ซึ่งถ้าใครได้มาสัมผัสแบบพวกเราในวันนั้นคงจะต้องรู้สึกประทับใจกันมากๆ

ระเบียงไม้บริเวณชั้น 2 ของร้าน

การตกแต่งร้านของที่นี่ความเรียบง่าย เป็นธรรมชาติ สดชื่น ตัวร้านด้านนอกทำเป็นระเบียงไม้เล็กๆ ตามชื่อร้าน แต่ยังคงกลิ่นอายของคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นผสมอยู่ โดยเฉพาะระเบียงบริเวณชั้น 2 ที่ร่มรื่นด้วยเงาจากต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน เหมาะสำหรับนั่งกินอาหารอร่อยแบบชิลล์ๆ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือจะชวนเพื่อนฝูงมาสังสรรค์พักผ่อนในวันสบายๆ ก็ย่อมได้ ส่วนใครถ้าอยากนั่งเก้าอี้นุ่มๆ สัมผัสแอร์เย็นฉ่ำ ก็ต้องเข้าไปด้านในของร้านที่มีมุมต่างๆ ให้เลือกถึง 4 ชั้น แม้พื้นที่จะไม่กว้างขวางใหญ่โตมากนัก แต่ก็ยอมรับว่าการบริการของร้านมายพอร์ชยอดเยี่ยมและประทับใจเป็นที่สุด

พิถีิพิถันทุกรายละเอียดในการบริการดูแลลูกค้า

สิ่งที่เราสังเกตได้จากทุกมุมของร้านนี้ก็คือ ความใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หาไม่ค่อยได้จากร้านอาหารอื่นทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว ด้วยการติดมูลี่ไว้บนเพดานตามโต๊ะต่างๆ ในร้าน ซึ่งหากลูกค้าท่านไหนต้องการคุยงานหรือกินอาหารแบบส่วนตัวกับคนรู้ใจ หรือครอบครัว ก็สามารถแจ้งกับพนักงานให้ดึงมูลี่ลงมาได้ ส่วนสาวๆ ที่หิ้วกระเป๋าใบหรูราคาแพงมาด้วย ก็ไม่ต้องห่วงว่ากระเป๋าสุดที่รักจะต้องไปวางกองกับพื้นให้เปื้อน เพราะทางร้านเขาเตรียมตระกร้าหวายใบขนาดย่อม ใส่หมอนรองไว้ก้นตระกร้า สำหรับวางกระเป๋าได้ ซึ่งตระกร้านี้สามารถยกมาวางข้างโต๊ะอาหารของเราได้ โดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่ากระเป๋าจะหาย หรือลืมทิ้งไว้ หรือหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ไปกินอาหารตามร้านทั่วๆ ไป แล้วรู้สึกไม่ค่อยประทับใจเรื่องห้องน้ำ มาร้านนี้คุณจะสามารถเข้าไปใช้บริการได้โดยไม่ต้องลังเลใจ ห้องน้ำสะอาดสะอ้านมาก นั่งสบาย ไร้กลิ่นใดๆ มากวนใจ หรือระหว่างนั่งรอเพื่อนที่ร้านนี้ จะเอาโน๊ตบุ๊กค์มาใช้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีก็ได้ รวมถึงยังมีชั้นนิตยสารญี่ปุ่นหลากหลายแนวให้หยิบมาอ่านเพลินๆ ได้อีกด้วย

พาชมบรรยากาศกันทั่วแล้ว ก็ถึงเวลาชิมอาหารกันเสียที เมนูแรกที่ขึ้นชื่อและขายดีจนเราต้องสั่งกันมาชิม คือ


Mentago Spaghetti

Mentago Spaghetti สปาเก็ตตี้เส้นเหนียวหนึบที่ผัดมากับไข่ปลาเมนทาโกะ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โรยหน้าด้วยผักโอบะหั่นฝอย เสริ์ฟพร้อมแพมเมนซานชีสที่อร่อยขึ้นชื่อ ตามปกติแล้วเวลากินสปาเก็ตตี้ทั่วไปเราจะอาจจะคุ้นเคยกับการใช้ช้อนกับส้อม แต่หากมากินอาหารยุโรปสไตล์ญี่ปุ่นร้านนี้อาจลองใช้ตะเกียบที่ทางร้านจัดไว้คีบเส้นสปาเก็ตตี้กิน ก็จะเพิ่มอารมณ์การกินแบบญี่ปุ่นขึ้นอีกนิด ขณะคีบเส้นจะคีบผักโอบะติดขึ้นมาด้วยหรือจะคลุกเคล้ากันไปเลยก็ให้รสชาติกำลังดี ทุกคำๆ ที่ม้วนเส้นสปาเกตตี้ส่งเข้าปาก เรารู้สึกได้ถึงความหอมหวานเนียนนุ่มลิ้น และความสดของไข่ปลา ที่ต้องขีดเส้นใต้ว่า เมนูนี้จานเดียวคงไม่พอ (ราคา 380 บาท)

Omolet Rice หรือข้าวห่อไข่หอมๆ

อีกจานที่อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน Omolet Rice หรือข้าวห่อไข่หอมๆ หน้าตาแบบญี่ปุ่น แต่รสชาติออกไปทางยุโร้ปยุโรป ราดด้วยเกรวี่ หรือบราวซอสสำหรับสเต็ก มีผักลวกสดๆ อย่างข้าวโพดอ่อน บล็อกโคลี่ แครอท ถั่วลันเตา ดอกกะหล่ำเสริ์ฟมาด้วย ข้าวผัดจานนี้ผัดได้นุ่มมากๆ ผัดคลุกเคล้ากับซอสมะเขือเทศ เนื้อไก่และเห็ดชาบิยอง ยิ่งกินคู่กับไข่ ก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยได้ลงตัว (ราคาจานละ 280 บาท)

Otate หอยเชลล์ย่างคุณภาพดีจากเกาะฮอกไกโด

มาถึงเมนูไฮไลท์กับ Otate หอยเชลล์ย่างคุณภาพดีจากเกาะฮอกไกโดที่หั่นมาพอดีคำ เนื้อหอยเชลล์รสชาติหอมหวานยิ่งกินคู่กับซอสโชยุรสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ ต้องบอกว่าอร่อยมากกว่าเดิม หรือจะกินพร้อมกับเห็ดและถั่วพลูผัดน้ำมัน รสชาติออกเค็มนิดๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ก็จะได้รสชาติหวาน เค็ม เปรี้ยว กลมกล่อมพอดีคำ (ราคา580 บาท)

คัสตาร์ด พุดดิ้ง (Custard Pudding) เมนูขึ้นชื่อของร้าน

ส่งท้ายขบวนความอร่อยด้วยของหวานห้ามพลาด นั่นคือ คัสตาร์ด พุดดิ้ง (Custard Pudding) ที่มีส่วนผสมของนม และไข่ มีรสชาติหวานนุ่ม เสริ์ฟมาพร้อมด้วยคาราเมลและชาเขียวในสูตรของโฮมเมด ที่ไม่มีใครบนโต๊ะปฎิเสธความอร่อยของคัสตาร์ดพุดดิ้งถ้วยนี้กันได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถซื้อมายพอร์ช คัสตาร์ด พุดดิ้ง ที่บรรจุในถ้วยกระเบื้องและกล่องสวยหรูนำกลับไปฝากคนที่บ้านได้อีกด้วย ซึ่งทางร้านยังมีซอสให้เลือกได้อีก 2 แบบ คือราสเบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่(ราคา75บาท)

Green Tea Sunday

แต่ถ้ายังไม่อิ่มจุใจ อากาศร้อนๆ อย่างนี้ขอแนะนำให้สั่ง Green Tea Sunday ไอศกรีมชาเขียวแท้ๆ มากินให้ชื่นใจ เนื้อไอศกรีมชาเขียวนุ่มเนียนลิ้น กินแล้วไม่รู้สึกขม ได้กลิ่นชาเขียวอ่อนๆ รสชาติไม่หวานจัด ตรงกลางใส่ถั่วแดงกวน ล้อมรอบด้วยแป้งชิราทามะ และด้านล่างเป็นเยลลี่ชาเขียว ที่เหนียวนุ่ม เคี้ยวหนึบหนับเพลินๆ ดี ซึ่งทางร้านใส่มาเยอะมาก แบ่งกันตักกินกันเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะไม่หมดถ้วยสักที นับว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม (ราคา 120 บาท)

เหล้าบ๊วยผสมโซดา(แก้วซ้าย) และน้ำเปล่า ที่ดื่มกี่แก้วก็ประทับใจ

สำหรับใครที่นัดเพื่อนฝูงมาสังสรรค์จะลองสั่ง เหล้าบ๊วยผสมโซดา (Umeshu Soda) ที่แต่งหน้าด้วยใบสาระแหน่มาจิบให้ชุ่มคอเพิ่มบรรยากาศความสนุกกันก็ได้ (แก้วละ 160บาท) แต่ถ้าไม่ถนัดดื่มแอลกอฮอร์ มาร้านนี้แค่สั่งน้ำเปล่าเย็นๆ มาดื่มก็ชื่นใจแล้วครับ (อันนี้ไม่ได้พูดเกินจริงเลย) เพราะในน้ำดื่มทุกแก้ว ทางร้านจะหั่นมะนาวชิ้นเล็กๆ ลงไปด้วย ซึ่งทำให้น้ำมีรสชาติอมเปรี้ยวนิดๆ และช่วยแก้เลี่ยนเวลากินอาหารได้ ช่างสมกับที่เขาบอกว่ากันว่า ชาวญี่ปุ่นเป็นชาติที่ใส่ใจและพิถีพิถันเรื่องอาหารการกินซะจริงๆ  หรือถ้าไปตอนมื้อเที่ยงจะมีเซตอาหารให้เลือกถึง 3 เซต ราคาประมาณ 300-500 บาท เสิร์ฟในช่วง 11.00- 14.00 น. ในเซตจะมีเครื่องดื่มหนึ่งอย่าง ขนมปัง จานหลัก และของหวาน ชอบกินแบบไหนก็เลือกสั่งกันได้เลยครับ

ห้องคาราโอเกะบรรยากาศสบายๆ

นอกจากนี้หากใครจะนัดสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรืออยากเป็นนักร้องเดอะสตาร์กันสักวัน ข้างร้านมายพอร์ช ก็มีร้านคาราโอเกะ ชื่อว่า มายพอร์ชมิวสิก (my porch music) ที่สามารถใช้เป็นสถานที่ผ่อนคลายความเครียดหลังจากเลิกงาน หรือนัดเพื่อนฝูงมาร้องเพลง ปาร์ตี้สังสรรค์เฮฮาตามวาระโอกาสต่างๆ มายพอร์ชมิวสิกมีห้องคาราโอเกะถึง 9 ห้อง ถ้ามาเป็นกลุ่มเล็กๆ ก็สามารถเลือกห้องขนาด 3-4 คน ได้ หรือถ้ามากัน 6-7 คน ก็เลือกห้องขนาดกลาง หรือถ้าจะชวนเพื่อนมาจัดปาร์ตี้ 30-40 คน ก็จองห้อง party meet ที่เป็นขนาดใหญ่ไปเลย ค่าบริการทุกห้องชั่วโมงละ 100 บาท แถมยังสามารถสั่งอาหารจากร้านมายพอร์ชมากินได้ตลอดอีกด้วย

ก่อนออกจากร้าน พวกเราทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน เมนูความอร่อยของร้านมายพอร์ชที่ปรุงแต่งอาหารแบบยุโรปสไตล์ญี่ปุ่น มีรสชาติอาหารแตกต่างจากอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับที่เราเคยกินทั่วๆ ไป แต่นับว่าเป็นรสชาติใหม่ๆ ที่อัดแน่นด้วยความอร่อยไม่แพ้กัน แต่ที่ประทับใจมากกว่านั้น ก็คือความอบอุ่นจากการต้อนรับและการดูแลจากพนักงานในร้าน ที่ทำให้วันนี้นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังได้ความอิ่มใจหอบกลับบ้านไปอีกด้วย


แล้วคุณละอยากมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษๆ จากร้านมายพอร์ช เหมือนกันเราบ้างหรือยัง...

เรื่องและภาพ: สนุก! ท่องเที่ยว

ติดต่อร้าน My Porch Restaurant & Cafe Western Cuisine
ที่ตั้ง: 20/13 ซอยสุขุมวิท 39(ใกล้รถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา11.00-24.00 น.
โทรศัพท์ : 0 2662 6313-14
เว็บไซต์: www.my-porch.com

(แผนที่การเดินทาง)


 

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ My Porch สุดยอดความอร่อยในวันสบายๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook