6 เมนูเด็ด ปลาช่อนเมืองสิงห์ ที่คุณต้องไม่พลาด

สิงห์บุรี เมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราวร้อยกว่ากิโลเมตรเท่านั้น ขับรถไปเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้อย่างสบายๆ ซึ่งถ้าคุณเป็นนักเดินทางประเภทเที่ยววัด ไหว้พระ ทำบุญแล้วละก็ ไปสิงห์บุรีไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ

นอกจากจะเดินทางไปง่ายและมีสถานที่ท่องเที่ยวโดนใจเต็มๆ แล้ว สิงห์บุรียังมีของอร่อยให้เราได้ชิมอีกเพียบ หนึ่งในเมนูเด็ดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศและเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักชิมมายาวนาน นั่นคือ ปลาช่อนแม่ลา ที่ใครๆ ได้มาเยือนและมาชิมต่างก็ติดอกติดใจในรสชาติความอร่อยกันเป็นทิวแถว

หลายคนคงสัยว่า “แม่ลา” เป็นใคร ? เป็นเจ้าของต้นตำรับปลาช่อนเผารสชาติ หรือเจ้าของบ่อปลาช่อนอร่อยกันแน่! แต่หลังจากมีโอกาสได้ไปเยือนสิงห์บุรี คำตอบของเราก็ถึงบางอ้อในทันที ปลาช่อนแม่ลา คือ ปลาช่อนจากลำน้ำแม่ลา ลำน้ำสายสั้นๆ ที่อุดมสมบูรณ์ ใน ตำบลแม่ลา อำเภอบางระจัน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาช่อนอันเลื่องชื่อมายาวนาน และไม่ว่าจะจับได้มากมายสักเพียงใด ก็ยังไม่เพียงต่อความต้องการของนักกิน จึงทำให้ทุกวันนี้มีปลาช่อนจากที่อื่นมาปลอมปนบ้างให้ชิมบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะหาปลาช่อนแม่ลาแท้ๆ กินไม่ได้เลยซะทีเดียว เพราะในตลาดสิงห์บุรีก็พอหาซื้อได้อยู่บ้าง

ปลาช่อนเมืองสิงห์บุรีสามารถนำมาปรุงเมนูอาหารรสเลิศได้หลายชนิด ทั้งเมนูอาหารคาว รวมไปถึงเมนูขนมหวานอย่างเค้กปลาช่อน ไอศกรีมปลาช่อน หรือแม้แต่ทองม้วนปลาช่อน ที่ใครได้ฟังต่างก็ทำหน้ายุ่งเดากันไม่ออกว่ารสชาติจะออกมาเป็นแบบไหน? แต่สำหรับคนที่เคยไปชิมมาแล้วอย่างผมเอง ขอบอกเลยครับว่า รสชาติอร่อยดี กินแล้วไม่รู้สึกเลยว่ามีเนื้อปลาช่อนผสมอยู่ ทั้งๆ ที่เรารู้อยู่ใจว่ามันคือเนื้อปลาช่อนก็เถอะ หรือจะซื้อกุนเชียงปลาช่อน ปลาร้าปลาช่อน กลับบ้านไปเป็นของฝากยังได้อีกด้วย

สำหรับใครที่สนใจเดินทางมาเที่ยวเมืองสิงห์บุรี แล้วอยากจะชิมเมนูปลาช่อนรสเด็ด ไม่ว่่าจะมื้อเที่ยง มื้อเย็น หรือมื้อไหนๆ แต่ยังไม่รู้จะสั่งเมนูไหนมาชิมดี วันนี้ สนุก! ท่องเที่ยวเลยคัดสรร 6  เมนูเด็ด จากปลาช่อนแม่ลาเมืองสิงห์บุรีมาเรียกน้ำย่อยกันก่อน แต่จะโดนใจในรสชาติแค่ไหน สุดสัปดาห์นี้ลองแวะไปเที่ยว ไปชิม และนำความอร่อยกลับมาบอกต่อกันบ้างนะครับ

1.  ปลาช่อนแม่ลาเผา

เมนูแรกนี้นักชิมหลายคนคงคุ้นเคยกับหน้าตาปลาช่อนแม่ลา ที่ใช้ปลาช่อนคัดขนาดพิเศษมาย่างไฟอ่อนๆ จนเกล็ดและหนังด้านนอกไหม้เกรียมเป็นสีดำ แต่พอค่อยๆ เลาะหนังลอกออกมาได้เป็นแผ่นกินได้สะดวก ก็จะเห็นเนื้อแน่นขาวจั๊ว ส่งกลิ่นหอมฉุย ยั่วให้น้ำลายสอได้ ปลาช่อนแม่ลามีเนื้อนุ่ม หวาน กินคู่กับน้ำปลาหวานและยอดสะเดาอ่อนๆ ที่ลวกมาเป็นเครื่องเคียง เวลาเคี้ยวจะรู้สึกได้ถึงความหวานนุ่มเนียนของเนื้อปลาที่แทบละลายได้ในปาก รสขมนิดๆ ของยอดสะเดา และความหวานหอมๆ ของน้ำปลาหวานที่เคี่ยวมาเป็นอย่างดี ทำให้เมื่อกินรวมกันแล้วรสชาติจึงอร่อยลงตัวเ้ป็นที่สุด

2. ปลาช่อนแดดเดียว

ปลาช่อนแม่ลาแดดเดียวของอร่้อยขึ้นชื่ออีกอย่างที่นักชิมไม่ควรพลาด ยิ่งกินคู่กับข่้าวเหนียวนุ่มๆ ร้อนๆ ต้องบอกว่ารสชาติอร่อยเข้ากันดีเหลือเกิน หาซื้อได้ที่ตลาดสิงห์บุรี และร้านขายของฝากริมถนนสายเอเชีย

3. ปลาช่อนแม่ลาผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์

แล่เนื้อปลาช่อนชิ้นพอดีคำ นำไปทอดในน้ำร้อนๆ จนเนื้อปลาเหลืองกรอบนอกนุ่มใน ก่อนนำมาผัดคลุกเคล้ากับเครื่องเคราต่างๆ รสชาติออกหวานนิดๆ

4. ปลาช่อนแม่ลาผัดฉ่า

เมนูนี้หอมกลิ่นเครื่ิองเทศสมุนไพรเต็มๆ รสชาติเผ็ดนิดๆ แ่ต่กินกับข้าวสวยร้อนๆ เหยาะพริกน้ำปลาหน่อยๆ จานเดียวคงไม่พอ

5. ปลาช่อนแม่ลาผัดกระเพรา

เมนูรสชาติจัดจ้านๆ เข้มข้นเผ็ดร้อนตามแบบอาหารไทย

6. ปลาช่อนแม่ลาลุยสวน

ปลาช่อนตัวโตๆ ทอดเนื้อนุ่ม ราดน้ำยำสมุนไพรรสกลมกล่อม เหมาะกินกับข้าวสวยร้อนๆ อย่างแท้จริง

เดินทางไปชิม

จากกรุงเทพฯ มี 3 เส้นทาง คือ 

1.ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี เข้าไปในตัวเมืองลพบุรี มีเส้นทางตัดผ่านไปจังหวัดสิงห์บุรี ระยะทางทั้งสิ้น ประมาณ 179 ก.ม.

2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แยกเข้าถนนหมายเลข 32 (ถนนสายเอเซีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอ่างทอง จนถึงจังหวัดสิงห์บุรี ระยะทางประมาณ 142 ก.ม.

3. ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แยกเข้าถนนหมายเลข 32 (ถนนสายเอเซีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเดินทางต่อด้วยเส้นทางหมายเลข 309 จะผ่านตัวเมืองจังหวัดอ่างทอง ขับตรงไปจนถึงจังหวัดสิงห์บุรี ระยะทางประมาณ 135 ก.ม.

เรื่องและภาพ: กันต์ ณ ปกรณ์

ขอขอบคุณ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี และโรงแรมไชยแสงพลาเลส

(คลิืกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)